มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กลายเป็นผู้ใช้ที่ฮ็อตที่สุดในกูเกิล พลัส

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กลายเป็นผู้ใช้ที่ฮ็อตที่สุดในกูเกิล พลัส


"มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" กลายเป็นผู้ใช้ที่"ฮ็อต"ที่สุดใน"กูเกิล พลัส"


มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์สังคมออนไลน์"เฟซบุ๊ค" กลายเป็นผู้ใช้ ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในเว็บไซต์สังคมออนไลน์ใหม่ล่าสุดของกูเกิ้ล หรือ "กูเกิ้ล พลัส" (Google+) โดยมีจำนวนผู้ติดตามเขา "แซงหน้า" ผู้ก่อตั้งกูเกิลทั้งสองคน ได้แก่ แลร์รี เพจ และเซอร์เกย์ บริน

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กลายเป็นผู้ใช้ที่ฮ็อตที่สุดในกูเกิล พลัส


ซัคเคอร์เบิร์ก มีผู้ติดตามรวมแล้วมากกว่า 184,000 ราย ขณะที่ผู้ติดตามของเพจ และบริน รวมกันได้เพียง 166,000 คน เท่านั้น

กูเกิล พลัส ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่มีการเปิดตัวเมื่อกว่าสองสัปดาห์ก่อน โดยมีสมาชิกทั้งสิ้นราว 5-10 ล้านคน และนอกเหนือจากซัคเคอร์เบิร์ก เพจ และบริน แล้ว ผู้บริหารรายอื่นๆของกูเกิล ก็มีผู้ติดตามจำนวนมากเช่นกัน

ทั้งนี้่ ไม่พบว่าซัคเคอร์เบิร์กโพสต์ข้อความหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ และเริ่มปรับให้บัญชีผู้ใช้ของตนมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยบุคคลทั่วไปจะไม่ทราบว่าใครกำลังตามเขาอยู่บ้าง ขณะที่แลร์รี เพจ โพสต์ข้อความสุดท้ายเมื่อปลายเดือนมิถุนายน และเซอร์เกย์ บริน โพสต์รูปถึงวันละ 3-4 ครั้งต่อวัน

ขณะที่ปัญหาด้านไวรัสบางตัวที่ส่งผลกระทบให้การอัพโหลดรูปภาพและการลงทะเบียนเข้าใช้ไม่คล่องตัวได้รับการจัดการแล้ว ทั้งนี้ การเติบโตของกูเกิลพลัส ถือว่ารวดเร็วกว่าที่กูเกิลคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก

ด้านนักการศึกษาหลายรายคิดว่า กูเกิลพลัสอาจมีข้อได้เปรียบบางประการเหนือทวิตเตอร์และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟซบุ๊ค ศาสตราจารย์รายหนึ่งกล่าวว่า เขาไม่รับนักศึกษาของเขาเป็นเพื่อน เพราะความสามารถในการแบ่งปันในเฟซบุ๊คเชื่องช้าเกินไป กูเกิลพลัสช่วยเพิ่มหนทางในการติดต่อกับคนที่เราไม่สามารถติดต่อบนเฟซบุ๊คได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการ"แฮงเอาท์"(Hangout) หรือการสนทนาผ่านวิดีโอ แช็ต และบริการ "เซอร์เคิลส์" (circles) หรือการจัดกลุ่มเพื่อนเฉพาะ ซึ่งเป็นบริการที่ทวิตเตอร์ไม่มี ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้การศึกษาในอนาคตเปลี่ยนแปลงไป

กูเกิลพลัส ยังเตรียมเปิดให้บริการอื่นๆอีก ซึ่งรวมถึงผู้ใช้สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเรื่องเพศ และการป้องกันการนำความเห็นไป"แชร์"ต่อ หากว่าผู้ใช้ไม่ต้องการให้เรื่องดังกล่าวแพร่กระจายออกไป


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์