มีสิทธิ์ที่จะเลือก..ไม่ใช่รอให้ถูกเลือกจ้า

มีสิทธิ์ที่จะเลือก..ไม่ใช่รอให้ถูกเลือกจ้า


หลังจากที่ลองพิมพ์ เกี่ยวกับสุภาษิตจีน เรื่อง วาสนามาพานพบและรู้จัก ก็พยายามที่จะสื่อถึง ความรักกันไม่ว่าจะรูปแบบไหน จะต้องมีเหตุและปัจจัยที่ทำให้คนสองคนมาเจอกัน และก็เหมือนบังเอิญ ช่วงนี้อ่านในคาเฟ่ โต๊ะศาสนา ก็จะมีแต่คำถามเกี่ยวกับความรักเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ประหนึ่งว่า เมื่อมีปัญหา ธรรมะ ย่อมแก้ไขได้ ซึ่งจริงๆ แล้ว ธรรมะ ก็แก้ไขได้จริงๆ นั่นแล คือ ธรรมะ ทำให้เกิดปัญญา เมื่อมีปัญญา ก็จะสามารถแก้ไขหรือจัดการกับปัญหาได้ ดัง อริยสัจ4 คือ 

ทุกข์ - ความไม่สบายต่างๆ
สมุทัย - สาเหตุแห่งทุกข์ หรือสาเหตุแห่งความไม่สบายต่างๆ
นิโรธ - ทางดับทุกข์ หรือทำให้ทุกข์หมดไป ไม่เหลืออยู่
มรรค - ปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์ 

ความรักก็เช่นกัน เมื่อมีทุกข์ คือไม่สบายจากความรัก เราต้องหาสาเหตุแห่งความไม่สบายจากรักนั้น เมื่อได้เหตุ ก็ต้องหาทางว่าทำอย่างไรให้ความไม่สบายจากรักนั้นหายไป เมื่อรู้หนทางในการทำให้ความไม่สบายจากรักหายไป ก็ต้องลงมือขจัดความไม่สบายจากความรักนั้นทิ้งไปเสีย

ซึ่งปัญหาจากรักนั้นก็สามารถที่จะเกิดได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย

ในที่นี้ผู้เขียนขอยกบทความเกี่ยวกับความรักมา แต่จะดูออกเป็นแนวสอนหญิงมากกว่า แต่ก็ไม่ขัดศรัทธาในการประยุกต์ใช้ในผู้ชายนะครับ

เครดิต คุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ เขาเขียนว่าอย่างนี้


เกิดเป็นหญิงต้องมีสิทธิ์เลือก ไม่ใช่ถูกเลือก ไม่ใช่ถูกบงการให้คิดว่าอะไรดีที่สุด อะไรถูกต้องที่สุด ต้องไม่ให้ครอบงำความคิดของตนได้ ต้องหาโอกาส ให้โอกาสสร้างเส้นทางอันเปิดกว้างให้แก่ชีวิต ต้องรู้จักคิด รู้จักเลือกด้วยตนเอง เรื่องรักไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่ใช่จะเลือกได้หลายครั้งหลายหนนัก ดังนั้น ถ้าจะหาใครสักคนต้องให้แน่ใจว่าเราเลือกเขา และเขาก็เลือกเรา คนเราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายได้ยินยอมพร้อมใจที่จะเลือกซึ่งกันและกัน และในระหว่างเลือกอยู่ ควรให้อิสระแก่กัน เราก็ควรให้อิสระแก่เขา ในขณะเดียวกันก็ควรทำตัวเองให้เป็นอิสระ ไม่ถูกเขาพันธนาการไว้

และจงจำไว้ด้วยว่าการบอกรักใครแล้ว ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายหมดสิทธิ์ที่จะเลือก เพราะตอนที่บอกรัก ก็รักในภาวะสถานการณ์ นิสัยใจคอ ความประพฤติ ซึ่งเป็นเงื่อนไขเฉพาะเวลาที่บอกรักนั้น หากเงื่อนไขเหล่านี้เปลี่ยนไป ก็อาจจะรักคนใหม่ได้ หรือหากพบเงื่อนไขที่ดีกว่าก็อาจจะเปลี่ยนใจได้

ดังนั้น รักที่แท้จริง ผู้เลือกต้องพบเงื่อนไขที่แท้จริงที่ตัวเองต้องการแล้ว และไม่ต้องการอะไรใหม่อีก หรือเพิ่มเติมอีก ความรักนั้นจึงจะสมบูรณ์แบบ และจึงเป็นคู่ที่ถูกต้องแท้จริงของเรา ดังนั้น เมื่อมีโอกาสเลือกเราควรเลือก และอีกฝ่ายควรปล่อยให้เขาเลือกด้วยจึงจะถูก

หากใครทำความเข้าใจชีวิตได้แบบนี้ คนนั้นก็จะเป็นผู้ที่มีความรักที่สมบูรณ์ และเป็นผู้มีสุขในรัก ไม่ต้องมานั่งหึงหวง ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าเขาจะไม่รักเรา หรือเขาจะไปมีคนใหม่ เพราะถ้าเขาไป ก็ต้องยอมให้เขาไป ต้องคิดว่าเพราะเราไม่ตรงกับเงื่อนไขของเขา เราไม่ใช่ของเขา แล้วเขาจะใช่ของเราได้อย่างไร การคิดแบบนี้ไม่ได้ทำให้จิตใจคับแคบ เพราะไม่ได้บอกให้ไม่รักใคร ถ้าอยากรักหรือรักแล้ว และเขาตรงตามเงื่อนไขของเราก็รักไปเลย แต่ต้องรักอย่างมีเหตุผล ต้องทำใจไว้ด้วยว่าเขาอาจจะไม่รักเรา หรือเขาอาจหมดรักเราก็ได้ ถ้าตัวเราผิดไปจากเงื่อนไขเดิมที่เคยปฏิบัติต่อเขา หรือเขาอาจจะรักคนใหม่ เพราะพบเงื่อนไขที่ดีกว่าก็ได้ หากมันเกิดขึ้นก็อย่าสิ้นหวังเสียใจจนมากเกินไปนัก เพราะนี่แหละคือความรัก ซึ่งหาคำจำกัดความได้แสนยากเหลือเกิน

วิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการรับความรักได้ คือ เป็นตัวของตัวเอง อย่าหลอกตัวเอง เพราะเมื่อเราหลอกตัวเองได้ เราก็จะหลอกผู้อื่นได้ และถ้าเราเป็นตัวของเราโดยมั่นคงแล้ว ถ้าเขาไม่รักเรา เราก็จะได้ทราบว่าตัวของเราเองแบบนี้แหละที่เขาไม่รัก และค่อยมาดูว่าเราควรปรับปรุงส่วนไหนของตัวเราหรือไม่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิต จงใช้เป็นบทเรียนสอนตัวเอง อย่ามัวโง่อยู่ ถ้าพบว่าตัวเองดีพออยู่แล้ว หรือไม่ดีอย่างไร ค่อยคิดถึงก้าวหใม่ของชีวิตต่อไป อย่าจมอยู่กับที่ ป่วยการเกิดเป็นคน ถ้าไม่รู้จักคิด หรือคิดไม่เป็น 

และสุดท้ายหากเราคิดว่าเราดีอยู่แล้ว แต่เขายังไม่รักเราอีกก็อย่าไปกังวล นั่นแสดงว่าเราไม่ใช่ผู้ถือกุญแจที่จะไขเข้าไปในใจเขาได้ ฉะนั้นอย่าพยายามไขเลย หาแม่กุญแจใหม่จะดีกว่า ความเสียใจ ความสูญเสีย และความผิดหวัง เกิดได้กับทุกคนมิใช่หรือ?
แล้วทำไมมันจะเกิดกับเราไม่ได้ ทำไม?


เครดิต: คุณลูกเหมียวตัวกลม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์