ยิ้มเมื่อใด ก็สุขใจเมื่อนั้น

ยิ้มเมื่อใด ก็สุขใจเมื่อนั้น


อย่าบอกนะว่าคุณกำลังเครียด ถ้าไม่ลองยิ้มเสียบ้าง ยิ้มเป็นภาษาสากลที่คนทุกชาติทุกภาษาสามารถใช้สื่อสารกันได้โดยไม่ต้องแปลความหมาย รอยยิ้มบนใบหน้าของเราก็เปรียบเสมือนอัญมณี ราคาแพงที่สามารนำมาประดับใบหน้าได้โดยไม่ต้องหาซื้อ และรอยยิ้มที่สดใสยังช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความเป็นมิตร ทำให้โลกสดใสขึ้นจนผู้อื่นที่อยู่รายรอบเกิดความไว้วางใจ อยากเข้ามาทำความรู้จักพูดคุยด้วย เพราะนั้นแสดงว่าเราเป็นคนมองโลกในแง่ดี สนุกสนานร่างเริง เปิดเผย เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย จึงไม่แปลกที่ผู้ที่มีใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลาจะมีเสน่ห์และสามารถสร้างความประทับใจต่อผู้ที่พบเห็นได้ไม่แพ้การแต่งกายหรือมีเครื่องประดับหรูหราหลากสีสันเลยทีเดียว


ยิ้มเมื่อใด ก็สุขใจเมื่อนั้น

ในยุคที่ผู้คนเร่งรีบจนไม่มีเวลาแม้แต่จะหันมายิ้มให้กัน ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันรวมไปถึงการให้อภัยกันดูเหมือนจะเลือนราง
 
และกลายเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งไปแล้วในสังคมไทยเรา ลองสังเกตดูง่ายๆ จากรอบๆ สังคมรอบๆ ข้างเรานี่ก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นที่ทำงานของเรานี่ อุปสรรคและปัญหาต่างๆ ในการทำงาน บางครั้งมันก็ไม่ได้เลยร้ายเกินไป กว่าที่เราและเพื่อนร่วมงานจะช่วยกันแก้ไขได้ แต่ด้วยความที่ต้องการเอาชนะกัน ไม่ยอมลดราให้แก่กันจึงทำให้เกิดการโต้แย้งที่รุนแรง จนอาจจะทำให้เกิดเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปในอนาคต ในทางกลับกันนั้นถ้าเราหันมายิ้มให้แก่กัน ค่อยๆ อธิบายเหตุผล และลำดับความคิด ช่วยกันแก้ปัญหา และเต็มใจยอมรับความบกพร้องของตนเอง และผู้อื่นอย่างจริงใจ ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น เห็นไหมว่า การยิ้มแย้มทำให้การทำงานร่วมกันง่ายขึ้น ลดปัญหาความขัดแย้ง อุปสรรคและอคติต่างๆ ที่มีอยู่ให้หมดไปได้ สามารถประสานงานได้อย่างราบรื่น สังคมรอบตัวเราก็จะเต็มไปด้วยบรรยากาศดีๆ จิตใจสงบเยือกเย็น จะทำอะไรก็เกิดสติสัมปชัญญะความรู้สึกตัว ไม่หลงลืม รู้สึกตัวอยู่เสมอทุกขณะ ดังนั้นก็ยังไม่สายเกินไปถ้าจะหัดให้ตนเองยิ้ม ลองยิ้มให้กับตนเองก่อน แล้วเผื่อแผ่ไปให้คนรอบข้าง เท่านี้ความสุขใจก้จะเกิดขึ้นอย่าง่ายๆ โดยที่เราไม่ต้องไขว่คว้าให้ยากเย็นเลย

ยิ้มอย่างไรให้เกิดผลดี ? 
              • ยิ้มด้วยความจริงใจ มีแววตาสีหน้าที่อ่อนโยน ไม่ยิ้มเหมือนดูเสียดสีหรือเยาะเย้ยและยิ้มให้ถูกกาลเทศะ
              • ยิ้มให้กำลังใจตนเองเสมอ เพื่อสร้างความสบายใจให้กับตนเอง มีแรงสู้กับทุกปัญหาที่เข้ามา
              • ยิ้มทักทายและให้กำลังใจผู้อื่นอยู่เป็นประจำ ทักทาย พูดคุยอย่างสุขภาพแต่เป็นกันเองรู้จักที่จะพูดคำว่าขอโทษและไม่เป็นไรติดปากอยู่เสมอ

              เราสามารถยิ้มให้กับครอบครัว ยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงาน ยิ้มให้กับคนรักหรือแม้กระทั้งยิ้มให้กับตนเอง เพิ่อเป็นการเสริมสร้างวัฒนธรรมที่ดีในกรอยู่ร่วมกันในสังคม สร้างสังคมน่าอยู่ที่มีแต่รอยยิ้มและความสุข ให้สมกับที่เมืองไทยของเราเป็นเมืองแห่งรอยยิ้มตลอดไป

หลากหลายเหตุผลที่คนควรยิ้ม

ยิ้มป้องกันโรคภัย
              จากการวิจัยในแบบยิ้มๆ พบว่า การยิ้มทำใหสุขภาพร่างกายแข็งแรง ข่วยบำรุงสมอง สามารถช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นจากอาการเจ็บป่วยเร็วขึ้นกว่าปกติเรพาะจิตใจเป็นสุข รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์จึงดีและช่วยให้มองโลกในแง่ดีขึ้น การยิ้มเป็นประจำช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด โดยร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟีนไปสมอง สร้างอารมณ์ให้แจ่มใสและยิ่งทำให้คุณมีอายุยืนยาวขึ้น การยิ้มกว้างๆเพิ่มรอบย่นมุมปาก เป็นการเพิ่มรูปลักษณ์ด้านบวก นอกจากนี้ การยิ้มในเวลาที่เรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันยังช่วยเพิ่มความกล้าหาญในจิตใจด้วย ช่วยให้มีความกล้าและมีพลังในการที่จะชนะอุปสรรคต่างๆมากขึ้น หรือที่เรียกว่า ยิ้มได้เมื่อภัยมานั่นเอง

ยิ้มกับครอบครัว
              สำหรับคนที่นิยมชมชอบหยิบยื่นรอยยิ้มให้กันและกันนั้น จะช่วยให้บ้านเต็มไปด้วยบรรยากาศสดชื่นน่าอยู่ ปลอดโปร่ง ทำให้สมาชิกในครอบครัวมีความรักความผูกพันเพิ่มขึ้น ถ้อยทีถ้อยอาศัยพร้อมที่จะร่วมเผชิญปัญหาและอุสรรคต่างๆด้วยกันเกิดเป็นความอบอุ่นใจ และมีความสุข รายยิ้มที่แจ่มใสจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดลดความบาดหมางและลดปัญหาต่างๆ ในครอบครัวให้น้เอยลง ส่งผลให้เต็กๆ ที่เติบโตมาในครอบครัวสุขสันต์นี้กลายเป็นคนที่มีคุณภาพของสังคมต่อไปอีกด้วย

ยิ้มสร้างมิตรภาพ
              คงไม่มีใครที่อยากเดินเข้าไปพูดคุยกับคนที่หน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลา ลองหัดยิ้มแย้มแบบจริงใจให้เป็นนิสัยจะสามารถสร้างมิตรมากกว่าสร้างศัตรูและทำให้เราน่าคบหามากยิ่งขึ้น จนอาจนำพามิตรภาพจากเพื่อนดีๆ มาสู้ตัวเราได้อย่างมากมาย

ขอบคุณข้อมูลจาก pttplc

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์