ยิ้มใสๆกับรักวัยทีนส์

ยิ้มใสๆกับรักวัยทีนส์



เรื่องราวความรักและการแสดงออกของวัยรุ่นในปัจจุบัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านที่มีลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่นรู้สึกหนักอกหนักใจเป็นอย่างยิ่ง
 

ด้วยความเป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาต่างๆตามมา เมื่อลูกเริ่มมีความรักในวัยเรียน คุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เป็นห่วงทั้งลูกชายและลูกสาว ถ้าห้ามไม่ให้มีแฟนก็กลัวจะเป็นการยุให้ต่อต้าน แถมพาลโกรธคุณพ่อคุณแม่กันไปใหญ่ครั้นจะเรียกมานั่งคุยกันก็ไม่รู้จะเริ่มสอนอย่างไรดี เป็นการชี้โพรงให้กระรอกหรือเปล่าแล้วลูกควรรู้มากน้อยแค่ไหน ควรพูดอย่างไร



คำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่เพียงคำตอบเดียวกับเรื่องรักๆของวัยรุ่น...ก็คือ คุณพ่อคุณแม่เป็นครูที่ดีที่สุดสำหรับลูก เพราะการให้วัยรุ่นเรียนรู้เอง ส่วนใหญ่ก็ไปถามเพื่อนๆ ซึ่งก็ไม่ได้รู้มากกว่ากันแต่อย่างใด ยิ่งถ้าศึกษาเองจากวิดีโอ นิตยสาร สื่ออนาจารทั้งหลายยิ่งทำให้เข้าใจอะไรผิดๆ กลายเป็นว่าเรื่องเพศ คือการมีความสัมพันธ์ทางเพศเท่านั้น การดูแลสุขอนามัย รวมทั้งการแสดงออกทางเพศ บทบาททางเพศ และสัมพันธภาพที่เหมาะสมระหว่างชายหญิง ซึ่งไม่มีใครจะให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องเหล่านี้กับลูกวัยรุ่นได้ดีเท่ากับคุณพ่อคุณแม่เอง


เริ่มต้นเสียแต่วันนี้กับการสอนลูกให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง
สิ่งที่สำคัญต้องเริ่มจากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันภายในครอบครัว พ่อแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้พูด ได้คุย ได้เล่า ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทราบความคิด ทัศนคติของลูก และที่สำคัญต้องให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น ห้ามเริ่มต้นด้วยการดุ และตำหนิเด็ดขาด การสอนควรเป็นการพูดคุยกันระหว่างพ่อแม่ลูกในบรรยากาศที่สบายๆ เป็นกันเอง อาจเป็นช่วงทานข้าวด้วยกัน ขณะเล่นกีฬาการให้ความรู้สอดแทรกขณะดูละคร ดูหนังที่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับบทบาทระหว่างชายและหญิง รวมทั้งสอนให้ลูกเข้าใจพัฒนาการทางร่างกายที่ส่งผลต่อการเกิดความรู้สึกทางเพศ การดูแลตนเองสำหรับเพศหญิงในช่วงมีประจำเดือน การแก้ไขเมื่อมีอารมณ์ทางเพศด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าทางเพศ การรู้จักควบคุมตนเอง และการหันไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์

เมื่อลูกสาวหรือลูกชายเริ่มมีเพื่อนต่างเพศ ควรหาโอกาสพูดคุย ถามไถ่เพื่อประเมินความสนิทสนม ในเพศชายต้องสอนการรู้จักปฎิบัติตัว การให้เกียรติฝ่ายหญิง ส่วนเพศหญิงก็ต้องสอนให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างเพศ ว่าเพศชายจะมีความรู้สึกตื่นตัวทางเพศได้ง่าย ขณะที่เพศหญิงต้องการแค่การใกล้ชิด ความอบอุ่น จึงต้องระวังและหลีกเลี่ยงการอยู่ด้วยกันสองต่อสองหรือในที่ลับตาคน สอนเทคนิควิธีการดูแลตัวเอง การป้องกันตัวเองด้วยการปฎิเสธ ส่งเสริมให้แสดงความรักต่อกันอย่างสร้างสรรค์ เช่น ช่วยเหลือกันในเรื่องการเรียน การเล่นกีฬา ออกกำลังกายหรือกิจกรรมยามว่างอื่นๆ ที่เหมาะสม


ยิ้มใสๆกับรักวัยทีนส์



เกราะป้องกันสำหรับลูกวัยรุ่น..ในการคบเพื่อนต่างเพศไม่ให้เกินเลย


1.การสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง
พ่อแม่ต้องส่งเสริมให้ลูกมีความภาคภูมิใจในตนเอง มีความเชื่อมั่นที่จะประพฤติปฎิบัติในสิ่งที่เหมาะสม สอนให้ลูกชายภูมิใจความเป็นชายที่สามารถดูแล ปกป้องเพื่อนหญิงให้เกียรติ ไม่ล่วงเกิน ส่วนลูกสาวก็ต้องสอนให้มีความภาคภูมิใจที่รู้จักรักตนเอง ต้องกล้าปฎิเสธมีจุดยืนชัดเจนในการคบเพื่อนต่างเพศว่าจะไม่มีอะไรเกินเลยก่อนวัยอันควร


2.การมีเป้าหมายชีวิต
พ่อแม่ต้องช่วยให้ลูกรู้จักกำหนดเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน ทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งในวัยรุ่นก็ต้องมีเป้าหมายในการขยัน ตั้งใจเรียน เพื่อให้มีคะแนนสอบที่ดีเป็นใบเบิกทางที่จะนำไปสู่การศึกษาต่อและการทำงานตามที่ต้องการ เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จในอนาคต ให้ลูกตระหนักไว้เสมอว่า การคบเพื่อนต่างเพศเกินขอบเขตที่เหมาะสม ย่อมทำให้เป้าหมายในชีวิตที่เขาฝันไว้เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น


3.การมีค่านิยมที่ดีงาม
พ่อแม่ต้องช่วยปลูกฝังค่านิยมต่างๆ สำหรับลูกวัยรุ่น ได้แก่ ค่านิยมในการรักตนเองจนถึงเวลาที่เหมาะสม และการแสดงความรักต่อกันในวัยรุ่นที่เป็นวัยเรียน คือการช่วยเหลือและดูแลกันให้ประสบความสำเร็จในการเรียน ต้องไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศมาเกี่ยวข้อง เพราะยังไม่มีใครพร้อมที่จะรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น


4.สายใยของครอบครัว
พ่อแม่ต้องเปิดโอกาสให้ลูกได้พูดคุยได้ปรึกษา โดยยึดหลักการฟัง ไม่ใช้อารมณ์ไม่รีบตำหนิ ไม่ดุด่าว่ากล่าว แต่ชี้แนะแนวทางให้ลูกได้เลือกตัดสินใจ โดยมีพ่อแม่คอยชื่นชมยินดีในสิ่งที่ถูกต้อง และให้กำลังใจ ให้อภัย ให้โอกาสในการเริ่มต้นที่จะแก้ไขใหม่ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น



การคบเพื่อนต่างเพศถือเป็นเรื่องปกติ เป็นพัฒนาการตามวัยของวัยรุ่น การให้ความรู้ความเข้าใจและการคอยดูแลให้คำปรึกษาแนะนำจากพ่อแม่ เป็นรากฐานที่มั่นคงต่อการสร้างเสริมวุฒิภาวะของลูกๆ ให้สามารถปรับตัวกับเพื่อนต่างเพศได้อย่าเหมาะสม แม้ไม่ได้จบลงด้วยการคบหากันเป็นคู่รัก แต่ก็จะพัฒนาเป็นเพื่อนรักต่างเพศที่ดีต่อกัน คอยช่วยเหลือกันและกัน สุดท้ายคุณพ่อคุณแม่ก็จะอยู่กับลูกวัยรุ่นที่มีรอยยิ้มใสๆมีความสุขใจในการมีความรักกับเพื่อนๆ ของเขาและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความพร้อมในการปรับตัว มีบุคลิกภาพและการปฎิบัติตนที่เหมาะสมต่อไปในอนาคต



ที่มา
กรมสุขภาพจิต
กระทรวงสาธารณสุข

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์