ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


       สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ย้อนรอยเหตุการณ์รั่วไหลของน้ำมันดิบครั้งใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการรั่วไหลของน้ำมันดิบที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ตามด้วยการจัดการของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อลงโทษบริษัทเจ้าของแท่นขุดเจาะ ให้แสดงความรับผิดชอบ และเร่งแก้ไขปัญหาทางธรรมชาติที่ตามมา

ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


การระเบิดของแท่นขุดเจาะน้ำมัน "ดีพวอเทอร์ ฮอไรซอน" กลางอ่าวเม็กซิโก นอกชายฝั่งสหรัฐ บริหารงานโดยบริษัท "ทรานส์โอเชียน" ร่วมกับ "ฮัลลิเบอร์ตัน" และมีบริษัท "บริติช ปิโตรเลียม" หรือ "บีพี" ผู้ดำเนินการขุดเจาะและผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษเป็นเจ้าของแท่น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2553 ขณะคนงานกำลังขุดเจาะน้ำมันที่ระดับความลึก 1,500 เมตร แรงระเบิดและเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นทำให้คนงานเสียชีวิตทันที 11 ศพ และบาดเจ็บ 17 ราย

ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


         เจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐและบีพีใช้เวลาดับไฟนานถึง 3 วัน จนกระทั่งแท่นขุดเจาะจมลงสู่ใต้ทะเลเมื่อวันที่ 22 เม.ย.  และปล่อยน้ำมันดิบปริมาณกว่า 4.9 ล้านบาร์เรลรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก ระบบนิเวศทางทะเลในบริเวณนั้นถูกทำลายเสียหายราบคาบ สัตว์ทะเลเสียชีวิตและได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก รัฐบาลสหรัฐออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของบีพีทำความสะอาดคราบน้ำมันทั้งหมดและกู้แท่นขุดเจาะที่จมหายไป ซึ่งใช้เวลานานถึง 87 วัน เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ค.


หลังเกิดเหตุบีพี ฮัลลิเบอร์ตันและทรานส์โอเชียนต่างฟ้องร้องซึ่งกันและกัน ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้แท่นขุดเจาะระเบิดและมีน้ำมันรั่วไหลในปริมาณมหาศาล ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐใช้เวลาพิจารณาเอกสารของทั้งสามฝ่าย บวกกับการร้องเรียนของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งซึ่งได้รับความเดือดร้อน โดยมีการเชิญผู้บริหารของบีพี ฮัลลิเบอร์ตันและทรานส์โอเชียนให้มาชี้แจงและตอบข้อซักถามหลายครั้งนานกว่า 2 ปี


ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


จนกระทั่งเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว ผู้บริหารของบีพียินยอมชำระค่าปรับให้แก่ทางการสหรัฐ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 139,950 ล้านบาท ) เพื่อขอยอมความนอกศาล ถือเป็นค่าปรับในคดีสิ่งแวดล้อมที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมกับยอมลงนามรับผิดในคดีอาญา 14 กระทง แบ่งเป็นกระทำการโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 11 กระทง ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมด้วยการเจตนาให้การเท็จเพื่อปกปิดปริมาณน้ำมันรั่วไหลที่แท้จริง 1 กระทง และสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบนิเวศ 2 กระทง


นอกจากนี้ บีพียังออกแถลงการณ์ยอมรับการถูกรัฐบาลสหรัฐระงับใบอนุญาตประกอบการ และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายโดยไม่มีเงื่อนไข ให้แก่ประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ หลังก่อนหน้านี้ออกมายื่นอุทธรณ์ภาคธุรกิจการประมงของสหรัฐ ที่ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบีพีไปก่อนหน้านี้


ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


ขณะที่ทรานส์โอเชียนออกมายอมรับผิดในเวลาไล่เลี่ยกัน พร้อมกับยินยอมชำระค่าเสียหายทั้งในทางแพ่งและทางอาญารวม 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 43,540 ล้านบาท ) นอกจากนี้ ผู้บริหารของบริษัทยินยอมรับการถูกระงับสัญญาจากทางการสหรัฐในทุกกรณี

ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


ล่าสุดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ฮัลลิเบอร์ตัน ออกมาประกาศขอยอมรับผิดต่อทางการสหรัฐ ฐานเจตนาทำลายข้อมูลในคอมพิวเตอร์ เพื่อปกปิดหลักฐานของอุบัติเหตุที่แท่นขุดเจาะดีพวอเทอร์ ฮอไรซอน โดยยินยอมชำระค่าเสียหายอย่างไม่มีเงื่อนไข และพร้อมให้รัฐบาลสหรัฐทำทัณฑ์บนแล้ว

ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก


ย้อนอดีตหายนะน้ำมันรั่วครั้งประวัติศาสตร์ที่อ่าวเม็กซิโก

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์