รักษาโรคด้วยสมาธิ?

รักษาโรคด้วยสมาธิ?


                  มีหลายท่านเคยถามภูเตศวรเรื่อง การบำบัดโรคด้วยสมาธิ หรือการใช้จิตบำบัดโรคนั้น มีวิธีปฏิบัติหรือไม่อย่างไร?

                 ความจริงการใช้จิตบำบัดโรค มีผู้รู้หลายท่านเขียนเป็นตำราบอกเล่าเอาไว้มากมายหลายเล่ม แต่ในที่นี้ผู้เขียนขอยกเอาสิ่งที่ตนได้ยินได้รับรู้มาจากครูบาอาจารย์มาบอกเล่าตามประสบการณ์จริง ๆ ดีกว่า

                   ครูบาอาจารย์ท่านแรก ที่เคยพูดถึงการรักษาโรคมะเร็งคือ อาเตียเซียนสู ท่านกล่าวถึง มะเร็ง ที่เป็นโรคภัยคร่าชีวิตมนุษย์อย่างมากในทุกวันนี้ว่า มะเร็งอาศัย เตโชธาตุ เป็นอาหาร การรักษามะเร็งต้องรับประทานอาหารพวกมังสวิรัติ ควรงดเว้นเนื้อสัตว์ หรืออาหารที่ให้พลังงานสูง ๆ ควบคู่กับการปฏิบัติสมาธิด้วยการเจริญ อาโปกสิณ คือการกำหนดอารมณ์แห่งกรรมฐานด้วย ความเย็นของน้ำ อาโปกสิณคือกสิณน้ำนั่นแหละครับ!

                     ครั้งแรกที่ได้รับฟังก็ยังเข้าใจไม่หมด แต่ภายหลังที่ได้ศึกษาเพิ่มเติมพอควร จึงเข้าใจว่า...  
                      กายอันเป็นคูหาแห่งจิต ประกอบด้วยธาตุหลักทั้งสี่ คือ...ดิน...น้ำ...ลม...และไฟ

                     เมื่อเป็นเช่นนั้น การเจ็บป่วยของคนเราจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะมีเหตุบางประการทำให้ธาตุทั้งสี่ขาดความสมดุลขึ้น ฉะนั้นการรักษาจะด้วยยาด้วยจิตในความหมายก็คือ ทำให้ธาตุในร่างกายเกิดความสมดุลอยู่ในสภาวะที่ควรเป็น ฉะนั้นการรักษาโรคที่เกิดจากความบกพร่องทางกาย จึงต้องรู้สมมุติฐานด้วยว่า ตนกำลังเป็นโรคหรือป่วยไข้ด้วยเหตุอันใด

                     หลวงปู่เสน ปัญญาธโร เคยอธิบายเรื่องนี้กับผู้เขียนว่า การเจ็บป่วยของมนุษย์มาจากเหตุสองประการ หนึ่งเพราะพยาธิ...เป็นที่ร่างกาย สอง...เกิดจากจิตอันเป็นเวทนาทางจิตใจ...เพราะจิตที่สับสน จิตเครียดกังวลด้วยคิดมาก ภาวะจิตตรงนี้สามารถทำให้กายเกิดเจ็บป่วยได้ อย่างเช่นคนที่เครียดมากจะเป็นมะเร็งง่ายกว่าคนจิตใจสงบ

            “โรคบางอย่างกินยาหาย บางอย่างกินยาไม่หาย ท่านกล่าวกับผู้เขียนอย่างนั้น...เท่ากับเป็นคำตอบ โรคที่กินยาแล้วหายก็รักษาตามคลินิก ตามโรงพยาบาล ส่วนโรคที่เกิดจากภาวะทางจิตต้องรักษาด้วยสมาธิด้วยการเจริญปัญญาธรรม...

                            การทำสมาธิจะทำให้จิตสงบ...เย็น คลายความฟุ้งซ่าน การพิจารณาธรรมจะทำให้เข้าใจความจริงจนสามารถปล่อยวางได้

                           การปล่อยวางทำใจ จิตปลอดโปร่ง...จิตสบาย...กายก็พลอยสบายไปด้วย  เพราะจิตกับกายเป็นสิ่งที่พึ่งพาอาศัยกัน...

            “คนเราอยู่ที่บุญบารมีด้วย หลวงปู่เน้นตรงนี้ และภูเตศวรก็เชื่อเช่นนั้น คนที่ทำบุญมามาก เจริญภาวนาอยู่บ่อย ๆ เวลามีปัญหาอะไรไม่ว่าด้วยอุปสรรคหรือเจ็บป่วย

...คนเหล่านี้สามารถอธิษฐานพ้นทุกข์พ้นโรคพ้นภัย ได้ง่ายกว่าคนไม่มีต้นทุนครับ!


ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย: dhamma5minutes

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์