รู้ทัน เชื้อโรคในห้องน้ำ!!!…


เชื้อโรคที่มากับห้องน้ำมีมากมายหลายชนิดและสะสมอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในห้องน้ำที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ ที่ผ่านมากรมอนามัยได้ทำการศึกษาผลการตรวจการปนเปื้อนในห้องส้วมสาธารณะ เพื่อหาเชื้อฟีคัลโคลิฟอร์ม (Faecal coliform Bacteria) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่ามีการปนเปื้อนอุจจาระในห้องส้วมพบ ๗ จุดโดยเรียงจากจุดที่มีเชื้อโรคมากที่สุด คือ ที่จับสายฉีดน้ำชำระ ตรวจพบเชื้อโรคมากที่สุดร้อยละ ๘๕.๓ บริเวณพื้นห้องส้วม พบเชื้อโรคร้อยละ ๕๐.๐ ที่รองนั่งโถส้วม พบเชื้อโรคร้อยละ ๓๑.๐ ที่กดโถส้วมและโถปัสสาวะ พบร้อยละ ๗.๗ ที่เปิดก๊อกน้ำล้างมือ พบร้อยละ ๖.๙ และกลอนประตูหรือลูกบิด พบร้อยละ ๒.๗

นอกจากจุดเสี่ยงนี้แล้วภายในห้องน้ำยังมีอุปกรณ์ในการชำระร่างกายหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีการปนเปื้อนเชื้อโรคที่แตกต่างกันสามารถแยกประเภทได้ ดังนี้ คือ เชื้อฟีคัลโคลิฟอร์ม มักพบบริเวณ


ที่จับสายฉีดชำระ

เป็นแบคทีเรียในกลุ่มโคลิฟอร์มที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคนและสัตว์เลือดอุ่น ถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ เชื้อของฟิคัลโคลิฟอร์มเข้าสู่ร่างกายจะ ส่งผลให้เกิดการถ่ายอุจจาระที่มีจำนวนมากกว่าปกติถึง ๓ ครั้งขึ้นไปหรือถ่ายเป็นน้ำหรือเป็นมูกเลือด สิ่งที่ต้องระวังเมื่อป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหยุด ถ่ายเพราะจะทำให้ลำไส้ต้องเก็บกักเชื้อโรคไว้นานขึ้น ซึ่งโรคนี้หากคนที่สุขภาพแข็งแรงก็ไม่อันตราย แต่ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอื่น เช่น ภูมิแพ้ เบาหวาน ผู้สูงอายุและเด็ก อาจมีความเสี่ยงได้
วิธีทำความสะอาดสายฉีดชำระ ทำได้โดย เช็ดถูที่จับ หัวฉีด และสายฉีดน้ำชำระด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างน้อยวันละ ๑ ครั้ง


“ฝักบัวอาบน้ำ”

เราสามารถพบเชื้อแบคทีเรียมายโคแบคเทอเรียมเอเวียม (Mycobacterium avium) หรือเอ็มเอเวียม (M.avium) สะสมอยู่ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อมีอาการเหนื่อย ไอแห้ง หายใจลำบากเรื้อรังและหมดแรง เชื้อดังกล่าวเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดโรคในปอดและทางเดินอาหารและภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ที่บำบัดมะเร็ง ส่วนผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันปกติก็ไม่ต้องกังวลมากนัก ซึ่งวิธีหลีกเลี่ยงจากแบคทีเรียเหล่านี้คือ การใช้ฝักบัวโลหะ เนื่องจากจุลินทรีย์เติบโตในวัสดุประเภทนี้ได้ยาก ทั้งนี้ จากงานสำรวจของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโดประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าฝักบัวเป็นแหล่งซุกซ่อนแบคทีเรียที่ไหลมาตามสายน้ำลงมาสู่ใบหน้า และร่างกายก่อให้เกิดโรคปอดซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
วิธีทำความสะอาดฝักบัว
ให้ถอดหัวฝักบัวออกแล้วใช้แปรงสีฟันขัดคราบสกปรกออก โดยใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานขัดออกหรือจะใช้มะนาวผ่าครึ่งซีกถูก่อนแปรง ก็ได้ สำหรับฝักบัวที่ถอดไม่ได้ให้นำถุงพลาสติกใส่น้ำส้มสายชูพอประมาณ เอาฝักบัวใส่ไว้ในถุงน้ำส้มสายชูแล้วผูกถุงให้แน่นทิ้งไว้ ๑ คืน จากนั้นนำฝักบัวออกมาล้างน้ำสะอาดก็จะได้ฝักบัวที่สะอาดแถมน้ำยังไหลได้ สะดวกอีกด้วย


“ใยขัดตัวหรือฟองน้ำ”

ใช้ถูตัวเป็นสิ่งที่ใช้ชำระความสกปรกตามซอกต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งต้องเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดี โดยเฉพาะเชื้อราที่แบ่งตัวได้ดีในที่ที่มีความชื้นสูง โดยสปอร์ของ มันจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ปฏิกิริยาภูมิแพ้ โรคหอบหืด ปอดอักเสบ ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อตา จมูก หลอดลม ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน
ดังนั้นควรเลือกฟองน้ำถูตัวที่ไม่หนามาก ซักฟองน้ำถูตัวด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้แล้วควรแขวนตากให้แห้ง


“ผ้าม่านพลาสติก”

นักจุลชีววิทยายืนยันแล้วว่าคราบสีดำที่เกาะอยู่กับผ้าม่านพลาสติกในห้องน้ำ นั้นคือแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ละอองจากการเรอ ไอ และจามของคนจะช่วยทำให้แบคทีเรียชนิดนี้เติบโต
วิธีป้องกัน
ควรถอดผ้าม่านพลาสติกไปซักอาทิตย์ละครั้งหรือย่างน้อยเดือนละ ๒ ครั้ง


“ผ้าเช็ดมือ-เท้า”

มีความเปียกชื้นตลอดเวลา จึงกลายเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อรา
วิธีป้องกัน
ควรแขวนผ้าเช็ดมือ-เท้าหรือวางไว้ที่ลมผ่านหรือนำมาตากให้แห้งหลังใช้งานทุกครั้ง


“แปรงสีฟัน”

เป็นของส่วนตัวที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษเพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในช่องปาก ซึ่งในห้องน้ำมีเชื้อโรคหลายชนิด หนึ่งในเชื้อโรคนั้นคือ เชื้อโรต้าไวรัสและเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสที่ติดโดยการสัมผัสผ่านทางจมูกและ ปาก
วิธีป้องกันต้องเก็บแปรงสีฟันไว้ในกล่องมีรูระบายอากาศ เพื่อป้องกันความเปียกชื้นและล้างแปรงสีฟันทุกครั้งก่อนแปรงฟัน


“อ่างล้างหน้า”
เป็นจุดที่อุดมไปด้วยเชื้อโรคนานาชนิด
โดยเฉพาะแบคทีเรีย ที่ชอบความเปียกชื้นเป็นพิเศษในบางบ้านอาจมีเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบอาศัยอยู่ด้วย
วิธีป้องกัน
ทำความสะอาดอ่างล้างหน้าอย่างน้อยอาทิตย์ละ ๑ ครั้ง


“ชักโครก”

เป็นเครื่องรองรับของเสียจากร่างกาย ไม่ต้องบอกก็พอจะทราบว่าการทำธุระส่วนตัวแต่ละครั้งมีเชื้อโรคแพร่กระจายมาก น้อยเพียงใด อีกทั้งฝารองนั่งก็มีเชื้อโรคต่าง ๆ แฝงอยู่ไม่น้อย
วิธีป้องกันคือใช้นำหมักชีวภาพเทลงชักโครกทุกอาทิตย์และทำความสะอาดชักโครกด้วยน้ำยาทำความสะอาดทุกวัน

ห้องน้ำเป็นห้องที่มีอากาศไม่ถ่ายเทและเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นยอด ถึงแม้ว่าเชื้อโรคเหล่านี้จะไม่สามารถทำอันตรายผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงได้ แต่เรามั่นใจมากน้อยเพียงใดว่าวันหนึ่งเราจะไม่เจ็บป่วยเพื่อเปิดโอกาสให้ เชื้อโรคเหล่านี้เข้ามาเล่นงาน ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือต้องรู้เท่าทันจุดที่มีเชื้อโรคหมักหมมหรือก่อตัว เพื่อหมั่นทำความสะอาดแหล่งเพาะเชื้อโรคนั้นเป็นประจำป้องกันไม่ให้เชื้อโรค มีโอกาสเข้าสู่ร่างกายทำให้เจ็บป่วยได้


รู้ทัน เชื้อโรคในห้องน้ำ!!!…

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์