วิธีกันคลิป (ฉาว) หลุด

วิธีกันคลิป (ฉาว) หลุด

 


ปัจจุบันมีโปรแกรมสำหรับการกู้ไฟล์ให้โหลดมาใช้อยู่เยอะแยะเต็มไปหมดในอินเทอร์เน็ต (อาทิ PC Inspector File Recovery: www.pcinspector.de) ซึ่งวิธีการก็ใช้งานง่าย (นายเกาเหลาเคยแนะนำวิธีไปแล้ว) จะว่าไปผู้ผลิตโปรแกรมเขาก็มีความประสงค์ดีที่จะผลิตโปรแกรมเพื่อช่วยคนเดือดร้อนที่เผลอลบข้อมูลไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ก็อย่างว่าแหละ สังคมโลกมักมีพวกหัวหมอเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ นายเกาเหลาเลยขอแนะนำ 5 วิธีป้องกันคลิป (ฉาว) หลุด งานนี้นายเกาเหลาขอออกแรงรับรองผล 1000% เลยครับ


วิธีกันคลิป (ฉาว) หลุด




วิธีที่ 1

ไม่นำรูปหรือคลิป (ที่ไม่เหมาะสม) ของตัวเองไปโพสในเว็บสาธารณะ อาทิ hi5 เพราะภาพที่แสดงบนหน้าจอทุกภาพเราสามารถคลิกขวาแล้วเลือก Save Picture As เก็บไว้ดูเล่น และถึงแม้มีเว็บไซต์บางแห่งบอกกับคุณว่ามีระบบป้องกันการ ก๊อบปี้รูป เช่นห้ามคลิกขวา แต่ก็อย่างที่เราทราบว่าเมื่อมีคน (ป้อง) กัน ก็ต้องมีคนแก้ เพราะเดี๋ยวนี้มีโปรแกรมสำหรับจับภาพที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่าง SnagIt (www.techsmith.com) ที่สามารถเก็บทุกรายละเอียดทั้งแบบภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว นั่นก็แสดงว่านอกจากภาพบนหน้าจอที่เห็นแล้ว หากคุณแชตกับเพื่อนแล้วเปิดกล้อง โปรแกรมนี้ก็สามารถบันทึกภาพที่ปรากฏผ่านกล้องเว็บแคม แล้วเก็บไฟล์คลิปได้ด้วยเช่นกัน

วิธีที่ 2

ก่อนนำมือถือไปซ่อม แนะนำให้ถอดเมมโมรีการ์ดที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลออกมา ส่วนข้อมูลที่บันทึกอยู่ในตัวเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ควรฮาร์ดรีเซ็ต (คล้ายๆ กับการฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์) ซึ่งมือถือแต่ละรุ่นจะมีวิธีการที่แตกต่างกันไป แนะนำให้อ่านวิธีจากคู่มือที่แถมมากับตัวเครื่อง


วิธีที่ 3


กล้องดิจิตอลซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพที่แสนสะดวก ทุกครั้งที่คุณกดปุ่มเพื่อถ่ายภาพ ไฟล์จะถูกเขียนลงบนเมมโมรีการ์ด ดังนั้นหากกล้องของคุณเสีย ก่อนส่งไปซ่อมคุณก็ควรถอดเอาเมมโมรีการ์ดออกมาก่อนที่จะส่งไปซ่อมที่ร้านหรือศูนย์ซ่อม เพราะถึงยังไงที่ศูนย์ซ่อมเขาก็ต้องมีการ์ดสำรองเพื่อใช้ในการซ่อมอยู่แล้ว


วิธีที่ 4


ใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการลบไฟล์แบบถาวร จริงๆ แล้วมีผู้รู้ให้คำแนะนำกันมาหลากหลายวิธี อาทิ ฟอร์แมตตัวเก็บข้อมูล แต่เนื่องจากมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยกู้ไฟล์คืนกลับมาได้ ดังนั้นการฟอร์แมตจึงไม่ใช่วิธีการลบไฟล์อย่างถาวร ผู้รู้บางคนก็แนะนำว่าให้เขียนข้อมูลให้เต็มการ์ดความจำ แล้วลบและเขียนทับซ้ำไปซ้ำมาหลายๆ รอบ วิธีการนี้ก็ไม่สามารถรับประกันว่าเซียนคอมพ์จะกู้กลับมาไม่ได้


ส่วนการลบไฟล์หรือคลิปแบบถาวรในแบบที่กู้คืนกลับมาไม่ได้ เราจะต้องใช้โปรแกรมประเภทลบถาวรมาใช้ลบไฟล์ ซึ่งก็มีด้วยกันหลายโปรแกรม (บางที่ก็เรียกว่า Wipe Program) มีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน โดยสามารถใช้กับการ์ดหน่วยความจำต่างๆ เช่น CF Card, Flash Drive, SD Card เป็นต้น


สำหรับโปรแกรมแบบที่โหลดฟรีจะมีลักษณะการทำงานแบบลบทีละไฟล์ หรือหลายๆ ไฟล์พร้อมกัน โดยจะเป็นการลบแล้วจัดเรียงข้อมูลใหม่ ซึ่งเมื่อมีการกู้ข้อมูลจะพบว่ามีข้อมูลที่ถูกลบไปอยู่ และสามารถกู้ขึ้นมาได้ แต่จะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ โปรแกรมในกลุ่มนี้มีหลายตัว เช่น Eraser (www.heidi.ie/eraser), Free wipe wizard (http://wizardrecovery.com/free_wipe/free_wipe_wizard.php) หรือ Blowfish Advanced CS (www.lassekolb.info/bfacs.htm)


นายเกาเหลาขอยกตัวอย่างโปรแกรม Blowfish Advanced CS วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ แค่ดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งในเครื่องจากนั้นก็เปิดโปรแกรมขึ้นมา เลือกไดรฟ์ที่ต้องการลบถาวร จากนั้นให้เลือกไฟล์ที่ต้องการลบ สุดท้ายก็สั่ง Wipe (Ctrl+W) เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ



ทางด้านโปรแกรมเสียตังค์ จะมีความสามารถในการลบที่ดีกว่าพวกฟรีแวร์ โดยหลังจากที่ติดตั้งไฟล์โปรแกรมลงไปแล้วจะสามารถสั่งลบไฟล์ที่อยู่ในไดรฟ์ต่างๆ ได้ทั้งหมด และไม่สามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้เลย แม้แต่ไฟล์เดียว โปรแกรมในกลุ่มนี้ ได้แก่ Media Wiper (http://www.whitecanyon.com/download-identity-theft-software.php) วิธีการใช้งานนายเกาเหลาไม่ขอพูดถึง ใครอยากรู้ว่าดีแค่ไหนก็ลองซื้อมาใช้เองครับ


วิธีที่ 5


ไม่ถ่าย สั้นๆ ง่ายๆ เพียงแค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลใจปวดหัวกับปัญหาที่จะตามมา เพราะความลับไม่มีในโลก ดังนั้นถึงคุณจะหาทางป้องกันปิดบังมากแค่ไหน หากถึงวันซวย ภาพหรือคลิปเหล่านั้นก็สามารถออกมาประจานคุณได้อย่างแน่นอนครับ


ทิปจาก : arip.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์