ศาสนาโดเรม่อน

หากแป๊กหรือเสื่อมประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้

"องก์มหาเมพจุติ" ภาพศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของศาสนิกชน"องก์มหาเมพจุติ" ภาพศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของศาสนิกชน


ศาสนาโดเรม่อน

ศาสนาโดเรมอน เป็นศาสนาแบบแมวนิยม(Nekoism) ชนิดมีเมพหลายองค์ โดยมีองค์เมพสูงสุดคือ มหาเมพโดเรม่อน และมีเมพีโดเรมี่เป็นเมพีสูงสุด ต้นกำเนิดของศาสนายังไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่ามาจากที่ใด แต่จากการศึกษาย้อนตำนานไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วซึ่งเป็นยุคที่ศาสนาถือกำเนิดขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าศาสนาโดเรม่อนมีต้นกำเนิดในประเทศยี่หุ่น โดยในบันทึกฉบับเก่าแก่กล่าวถึงองก์บร๊ะศาสดาผู้ก่อตั้งศาสนาที่มีพระนามว่า ท่าน Noobita


มหาเมพโดเรม่อน

ภาพ:บร๊ะมหาเมพโดราเคม่อน.jpg

บางตำรากล่าวว่า มหาเมพกำเนิดขึ้นมาเองจากความว่างเปล่า แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายยอมรับแน่ๆคือ ท่านมาจากสวรรค์ที่ชื่อว่า "ศตวรรษที่ 22" ซึ่งตำรานี้ระบุไว้ว่ามหาเมพโดเรม่อนนั้นพระองค์กำเนิดจากบริษัทและที่แน่นอนอีกอย่างคือเหลนของบร๊ะศาสดาโนบิตะส่งมาอบรมท่าน มหาเมพโดเรม่อนทรงโปรดปรานแป้งทอดโดรายากิเป็นพิเศษ จึงเป็นหนึ่งในเครื่องเซ่นสำคัญที่ขาดไม่ได้ในพิธีกรรมบวงสรวงองก์เมพ หากขาดซึ่งโดรายากิในสำรับแล้ว สาวกอาจเสี่ยงที่จะจุกท้องเนื่องจากถูกลงทัณฑ์ด้วยพลังปืนบาซูก้าอัดลมขององก์เมพได้


แม้องก์มหาเมพจะเป็นแมว แต่พระองก์ก็ยังทรงมีสายเลือดของจิงโจ้อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากกระเป๋าหน้าท้องของพระองก์ซึ่งเป็นสิ่งที่หลงเหลือจากกระบวนการวิวัฒนาการ(Evolution)นั่นเอง กระเป๋าหน้าท้องนี้ถูกเรียกด้วยความเคารพว่า "กระเป๋า 4 มิติ" ซึ่งเป็นแหล่งอำนาจสำคัญที่สุดขององก์เมพ กระเป๋าใบนี้สามารถบรรจุสิ่งของวิเศษได้มากมายเหลือคณานับทั้งใหญ่และเล็ก ทั้งไร้สาระและมีสาระ

องก์บร๊ะศาสดาโนบิตะ
ภาพ:Cho18 .jpg

องก์บร๊ะศาสดาโนบิตะชื่อเดิมชื่อ โช ซง ฮุย(ได้กระทำการฮาราขี้รีตอนเรียนป.ตรี ที่ มหาลัยเวอจีเนียเทคพร้อมเพื่อนๆอีก32คน) เป็นผู้ริเริ่มศาสนาโดเรม่อนในยี่หุ่น ท่านเริ่มเผยแพร่ศาสนาตั้งแต่ท่านยังเป็นนักเรียนชั้นประถม ภายหลังที่ท่านมหาเมพมาสถิตในบ้านขององก์ศาสดาแล้ว องก์ศาสดาก็เริ่มสำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ประจักษ์ เช่น การทำข้อสอบได้คะแนนเต็ม การล่องหนเข้าไปดูเพื่อนสาวอาบน้ำ การว่ายน้ำเก่งแบบผิดธรรมชาติ การเอาชนะจอมมารทาเกชิ การมีของเล่นมหัศจรรย์ยิ่งกว่าคู่แข่งคนสำคัญซูเนโอะ การเอาชนะศึกระหว่างท่านกับสุนัขคู่อริ การแกล้งบร๊ะมารดา เป็นต้น ภายหลังขึ้นมหาลัยได้กระทำการสอบเข้า มหาลัยเวอจีเนียเทคที่ประเทศสหรัฐอเมริกาสำเร็จ(เพราะได้ของวิเศษของมหาเมพโดเรม่อนจึงทำข้อสอบได้) และได้สัญญาว่าจะกระทำการฮาราขี้รีตัวเอง พร้อมเพื่อนๆอีกทั้งมหาลัยไปเฝ้ามหาเมพ แต่ทว่าเมื่อถึงเพลาที่เหมาะสมกลับส่งคนไปเยี่มมหาเมพได้แค่ 33 คน(ได้กระทำการเผยแพร่บร๊ะศาสนาได้สำเร็จแค่ 33 คน) ด้วยดุ้นปืน 2 กระบอกพร้อมดุ้นกระสุน 4 แม๊กเต็มลูกขนาด 9มม.ท่านได้กระทำการเสียสละอย่างใหญ่หลวงเราขอมอบพระนามให้ท่านว่า "สมเด็จพระเดจพระคุณนายพลฯม.ร.ว. ร.ป.ภ น.พ.ศ.จ.บร๊ะเจ้าโนบิฮุย โดเรโซ ซุง ณ.เวอจีเนียเทค"


บร๊ะคัมปี



บร๊ะคัมปีหรือบันทึกคำสอนของศาสนานั้น มีผู้เขียนไว้เป็นจำนวนมาก แต่ที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วกันว่าเป็นของแท้และไม่มีย้อมหนูแน่นอน(ไม่ใช้คำว่าย้อมแมวเนื่องจากเป็นการหมิ่นองก์มหาเมพ)ก็คือบร๊ะคำปีที่เขียนโดย อาจารย์ ฟูจิโอะ เอฟ. ยู. ซี. เค. ฟูจิโกะ ริงโกะ ในคำปีนั้นแบ่งเป็นหลายเล่มและหลายหมวดหมู่ เคยได้รับการสังคายนาโดยสำนักพิมพ์ต่างๆ มาแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน สำหรับการสังคายนาครั้งล่าสุดนั้นเรียกว่า "ลิขสิทธิ์ถูกต้อง" นอกจากการบันทึกคำสอนในคำปีในรูปแบบตัวอักษรแล้ว ยังมีการบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหวสำหรับออกอากาศทางโทรทัศน์และจำหน่ายในรูปวีซีดีอีกด้วย แต่เนื้อหาในสื่อบางประเภทโดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้ผู้ศึกษาคำปีไม่ได้รับแก่นแท้แห่งคำสอนเท่าที่ควร เนื่องจากในบางประเทศมีการเซนเซอร์บั้นท้ายและอวัยวะเพศขององก์บร๊ะศาสดาโนบิตะ ซึ่งนับว่าน่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับศาสนิกชนในประเทศดังกล่าวที่พลาดโอกาสจะได้ยลโฉมพระวรกายขององก์ศาสดาเป็นบุญตา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนา

1.ลิ้นชัก เป็นประตูวิเศษที่องก์เมพใช้เสด็จผ่านระหว่างโลกนี้และโลกหน้า โดเรม่อนศาสนิกชนจะใช้ลิ้นชักเป็นที่เก็บอัฐิของคนตายเพราะเชื่อว่า ลิ้นชักจะเป็นประตูที่จะนำผู้ตายไปอยู่รับใช้องก์มหาเมพ
2.โดรายากิ เป็นอาหารที่สงวนไว้สำหรับองก์มหาเมพเท่านั้น ชาวโดเรม่อนศาสนิกชนจะไม่กินโดรายากิไม่ว่ากรณีใดๆ แต่อาจจะมียกเว้นในกรณีที่ไม่มีอย่างอื่นให้กิน
3.แมวตัวเมีย ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า นอกจากแมวตัวเมียเป็นตัวแทนของมหาเมพีโดเรมี่แล้ว ยังเป็นตัวแทนถึงรักแรกขององก์มหาเมพโดเรม่อนอีกด้วย ดังนั้น ในครอบครัวของโดเรม่อนศาสนิกชนจะเลี้ยงแมวตัวเมียไว้อย่างน้อย 1 ตัวเพื่อเป็นการแสดงถึงความรักระหว่างคู่ภรรยาและสามี แมวตัวนี้จะต้องถูกดูแลประคบประหงมอย่างดี ดังนั้นบางประเทศที่นิยมนำแมวตัวเมียไปแห่ขอฝนจึงนับเป็นศัตรูกับโดเรม่อนศาสนิกชนอย่างเลี่ยงไม่ได้
4.จิงโจ้ เนื่องจากจิงโจ้เป็นบรรพบุรุษของมหาเมพ จิงโจ้จึงนับเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย โดเรม่อนศาสนิกชนที่พอมีฐานะจึงนิยมเดินทางไปออสเตรเลียเพื่อสักการะจิงโจ้เป็นประจำทุกปี
5.หมีโคอาล่า เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากสนิทกันกับจิงโจ้นั่นเอง
6.เลขศูนย์ (0) เลขศูนย์เป็นเลขอาถรรพณ์ในศาสนาโดเรม่อน เป็นจุดกำเนิดของทุกตัวเลขเนื่องจากศูนย์บวกเลขอะไรก็ได้เลขนั้น และยังเป็นตัวเลขที่เกี่ยวโยงกับชีวิตขององก์บร๊ะศาสดาโนบิตะอย่างแยกไม่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาประกาศผลสอบ
7.ประเทศยุ่นปี่เป็นประเทศศักสิทธิ์เพราะฉนั้นทุกท่านที่เข้าร่วมศาสนาแล้วควรไปอย่างน้อย5ครั้งในชีวิต
8.บร๊ะคัมภีร์ในปัจจุบันได้เผยแพร่ไปทั่วโลกสามารถหาอ่านได้ตามร้านหนังสือเช่าทั่วไปหรือสามารถชื้อบร๊ะคัมภีร์ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำ(หมวดการ์ตูน)ทั่วไป บร๊ะคัมภีร์ได้ถูกตีแผ่เป็นหลายภาษา ทุกคนสามารถหาอ่านได้ในราคาถูก

กฎ/ข้อห้ามในศาสนา

1.ศาสนิกชนห้ามแต่งตัวเลียนแบบองก์มหาเมพหรือบร๊ะศาสดาเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจจะต้องตกนรกที่เต็มไปด้วยหนูไปชั่วกัปชั่วกัลป์
2.การใส่ที่คาดผมหูแมว หรือการติดอะไรก็ตามที่มีลักษณะเหมือนหูแมวไว้บนหัว ถือเป็นการลบหลู่องก์เมพอย่างให้อภัยไม่ได้ เพราะเป็นอดีตอันเลวร้ายที่มิอาจลืมได้ขององก์เมพ (หากเป็นศาสนิกชนหญิงอาจได้รับการยกเว้นหากใส่แล้วแลดู "โมเอะ" แต่หากเป็นศาสนิกชนชายต้องห้ามเด็ดขาดไม่ว่าในกรณีใดๆโดยเฉพาะศาสนิกชนชายที่มีกล้ามมากๆ)
3.ห้ามถกเถียงกันในหมู่ผู้นับถือว่าองก์เมพเป็นแมวหรือทานูกิกันแน่ ว่าอย่างไรก็ตามนั้น เพราะองก์เมพอาจทรงพิโรธได้โดยเฉพาะคนที่กล่าวว่าองก์เมพเป็นตัวทานูกิ
4.ห้ามศาสนิกชนหลงรักแมวตัวเมียเด็ดขาด แมวตัวเมียจะสงวนไว้ให้มหาเมพเท่านั้น แต่การหลงรักสุนัขตัวเมียเป็นที่ยอมรับได้
5.ศาสนิกชนใดที่มีชื่อว่า "ทาเกชิ" หรือ "ไจแอนท์" ห้ามร้องเพลงด้วยประการทั้งปวง เพราะถือว่า บุคคลชื่อดังกล่าวไม่ได้เกิดมาเพื่อร้องเพลง
6.หนูเป็นศัตรูขององก์มหาเมพ หากพบเจอหนูที่ใดให้กำจัดเสียให้สิ้น ทั้งนี้ไม่รวมถึงอีหนู การบูชายัญด้วยหนูไม่ทำให้เป็นที่พอพระทัย ควรใช้โดรายากิแทน
7.ศาสนิกชนใดสามารถทำคะแนนสอบได้เข้าใกล้ศูนย์มากที่สุด ย่อมเป็นการแสดงถึงศรัทธาและความจงรักภักดีต่อองก์บร๊ะศาสดามากเท่านั้น
8.ห้ามเลี้ยงแมวที่หูไม่กุดเพราะมหาเมพโดเรม่อนก็หูกุดเหมือนกันแล้วถ้าไม่ตัดก็เท่ากับดูหมิ่น
9.ควรไปยุ่นปี่สัก5ครั้งในชีวิตเพราะจะได้บุญมหาศาล(บุญตา)และผู้ที่เข้าศาสนาจะต้องทำการซื้อหนังสือ...มาไว้ที่ศาลของบร๊ะศาสดาทั้ง2พระองค์จะได้บุญและช่วงสุดท้ายในชีวิตจะได้ไปเฝ้ามหาเมพและองค์บร๊ะศาสดาถึงสววรค์

นักบวชในศาสนาโดเรม่อน

โดราต๊องโนบิแต๋ว

โดราต๊อง และโนบิแต๋ว คือนักบวชในศาสนาโดเรม่อน มีจุดประสงค์เพื่อสร้างไทม์แมชชีนเพื่อจะได้ข้ามเวลาำไปพบกับองค์ศาสดา มีวิธีการบวชดังนี้


  • 1. ใส่ชุดดังรูป
  • 2. เดินเข้าไปในร้านเช่าการ์ตูน เลือกร้านที่คนเยอะๆ และเช่าการ์ตูนโดเรม่อนทั้งชุด
  • 3. จากนั้นตะโกนดังๆ ใส่เจ้าของร้านว่า "เก๋าเจอได้"
  • 4. ผู้คนในร้านก็จะไล่กระทืบคุณ ให้คุณวิ่งเข้าไปซ่อนในถังขยะ
  • 5. เมื่อส้นทีนของผู้คนทะลุฝาถังขยะเข้าสู่หน้าคุณ เป็นอันจบพิธี

    ตัวทานูกิที่มักถูกสับสนว่าเป็นองก์เมพ

    ปัจจุบันนักบวชศาสนาโดเรม่อนมีสำนักปฎิบัติอยุ่ที่โรงพยาบาลศรีทันย่า และตามสถานกักกันต่างๆ นักบวชเหล่านี้จะกินตัวทานูกิเป็นอาหาร เพราะเข้าใจว่ากินแล้วจะมีพลังเหมือนองค์เมพ

  • มหาเมพทรงทำให้บร๊ะศาสดา บินได้มหาเมพทรงทำให้บร๊ะศาสดา บินได้


    บร๊ะศาสดาถ่ายทอดบร๊ะธรรมแก่บร๊ะชายาของท่านเองพร้อมน้ำตาอันเกิดจากความซาบซึ้งในบร๊ะธรรม บร๊ะชายาก็ซาบซึ้งในรสบร๊ะธรรมเช่นกัน จึงติดกัณฑ์เทศน์มอบให้บร๊ะศาสดาอย่าง "หนัก"บร๊ะศาสดาถ่ายทอดบร๊ะธรรมแก่บร๊ะชายาของท่านเองพร้อมน้ำตาอันเกิดจากความซาบซึ้งในบร๊ะธรรม บร๊ะชายาก็ซาบซึ้งในรสบร๊ะธรรมเช่นกัน จึงติดกัณฑ์เทศน์มอบให้บร๊ะศาสดาอย่าง "หนัก"


    "องก์มหาเมพจุติ" ปางที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนา "ฅนเหล็กน้อยหัวใจเพชร""องก์มหาเมพจุติ" ปางที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนา "ฅนเหล็กน้อยหัวใจเพชร"


    เครดิต :
     

    ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
    กระทู้เด็ดน่าแชร์