สธ.เตือนปชช.ตากแดดแรงเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง

นายเเพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าเเสงแดดที่ส่องมายังพื้นโลกที่มีผลกระทบต่อมนุษย์มากที่สุดคือ รังสีอัลตราไวโอเล็ต(UV) ซึ่งมีปริมาณร้อยละ 10 ในเเสงเเด เเบ่งเป็น รังสีอัลตราไวโอเล็ตชนิด A (UVA) ร้อยละ 9.5 และรังสีอัลตราไวโอเล็ตชนิด B (UVB) ร้อยละ 0.5 ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีทั้งประโยชน์เเละโทษต่อผิวหนัง โดย UVA มีความสามารถทะลุทะลวงเเละทำลายผิวหนัง ส่วน UVB จะทำให้เกิดอาการผิวหนังร้อนเเดง หรือที่เรียกว่าถูกแดดเผา นอกจากนี้รังสีอัลตราไวโอเล็ตยังอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง โดยคนผิวขาวจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนผิวคล้ำ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการตากแดด หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารป้องกันเเสงแดดในขณะที่ทำกิจกรรมกลางเเจ้ง

สำนักเครื่องสำอางเเละวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การเเพทย์ เปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานเฝ้าระวังความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ป้องกันเเสงแดด ในปี 2553-2554 ว่า ได้ทำการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์กว่า 38 ตัวอย่างพบว่าไม่เข้ามาตรฐาน 2 ตัวอย่าง เนื่องจากมีปริมาณสารป้องกันเเดดต่ำกว่าฉลากระบุ

ด้าน นายเเพทย์บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การเเพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่าการกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนของสารสำคัญในเครื่องสำอางให้มีได้น้อยกว่าไม่เกินร้อยละ 15 หรือมากกว่าไม่เกินร้อยละ 18ตามที่เเจ้งไว้ต่อเจ้าพนักงานหรือตามที่ฉลากระบุไว้ สำหรับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันเเสงเเดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVAเเละUVB