สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ







            แม้ปี 2015 จะย่างกรายเข้ามาแค่เพียงเดือนกว่าๆ แต่เหล่าคนเมืองทั้งหลาย ก็เริ่มมองหาที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่จะช่วยให้ความเบื่อหน่าย และความวุ่นวายในชีวิตลดน้อยลงไปกันแล้วใช่มั้ย วันนี้เราขอแนะนำ 8 อำเภอเล็กๆ แต่ สงบ ร่มรื่น น่าอยู่ ชนิดที่มาแค่เพียงครั้งเดียวก็ประทับใจ จนไม่อยากกลับบ้าน ให้เหล่าคนรักการเดินทางได้รู้จักกัน อยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง เสน่ห์ของ 8  อำเภอเหล่านี้จะเกินห้ามใจขนาดไหน ไปชมกัน



1.นันทบุรีเฉลิมพระเกียรติ เชียงใหม่




สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


ถ้าพูดถึงอำเภอ “นันทบุรีเฉลิมพระเกียรติ” เชื่อว่าหลายคนคงส่ายหน้า ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนในประเทศไทย แต่หากเอ่ยชื่อ ดอยม่อนจอง  , ดอยหัวสิงห์ หรือ ดอยมูเซอ หลายคนคงยิ้มพร้อมจินตนาการไปถึง ดินแดนบนยอดเขาจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีความสวยงาม มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภาพทะเลหมอกตัดกับสีสันแห่งผืนป่าธรรมชาติและทุ่งหญ้าสีทองที่สวยงาม รวมไปถึงอากาศที่เย็นสบายตลอดปี  จนได้รับการขนานนามว่าเป็นอีกหนึ่ง สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย เลยก็ว่าได้ 

ทั้ง 3 ดอยที่ว่าตั้งอยู่ที่อำเภอ นันทบุรีเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเล็กๆน้องใหม่ล่าสุดของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งขึ้นเมื่อเดือน ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมานี่เอง  เสน่ห์ที่สำคัญของอำเภอแห่งนี้ คือเป็นที่รวมของสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหายาก อาทิ  กวางผา หรือม้าเทวดา สัตว์ป่าสงวนฯที่เกือบสูญพันธุ์ไปจากโลก , โขลงช้างป่า และนกหายากไม่ว่าจะเป็น เหยี่ยวนกเขาท้องขาว นกอินทรีแถบปีกดำ นกอินทรีเล็ก นกเปล้าท้องขาว นกมุ่นรกคอแดง นกเดินดงคอดำ หรือแม้แต่ดอกกุหลาบพันปีสีแดงสด ต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็อยู่ที่นี่ นับเป็นอำเภอเล็กๆที่เป็นสวรรค์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยเดินป่า และหลงใหลในธรรมชาติที่ยังรักษาเสน่ห์เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์  นอกจากนี้ เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าต่างๆ ทั้ง  คนพื้นเมือง ชนเผ่ากะเหรี่ยง ชนเผ่ามูเซอ และชนเผ่าม้ง ที่เรียบง่าย ซื่อ บริสุทธิ์  แค่เพียง 1 หรือ 2 วัน  ที่คุณได้มาเยือนที่นี่ จะต้อง “รักเลย” จนไม่อยากกลับบ้านอย่างแน่นอน

2.ปาย  แม่ฮ่องสอน

สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


แม้จะต้องผ่านการเดินทางที่ยากลำบาก ต้องเผชิญกับหลากหลายโค้งจนหัวโยกหัวคลอน แต่ก็ไม่ทำให้เสน่ห์และความน่าหลงไหลของ “ปาย”  อำเภอเล็กๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนแห่งนี้ลดน้อยลงไป  ยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็น สายหมอกจะโอบล้อมพื้นที่แห่งนี้ไว้ในอ้อมกอด จนกลายเป็นเมืองแห่งสายหมอกที่มีความงดงาม  ภาพบรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว บวกกับท้องฟ้าสีครามและแสงแดดอุ่นๆ ที่ทอดผ่านม่านหมอกหนา  

มองไปไกลๆมองเห็นแมกไม้สูงใหญ่เป็นทิวแถวตามแนวเขา  วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน  บ้านไม้เก่าๆ ไปจนถึงรอยยิ้มและไมตรีจิตของผู้คนที่พักอาศัย  แม้วันนี้ปายจะได้รับความนิยมมากขึ้น มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ ผู้คนหนาแน่นมากจนอาจจะอึดอัดในช่วงเทศกาล แต่ความงดงามแห่งธรรมชาติยังคงมีอยู่ และรอคอยให้นักเดินทางมาทักทายอยู่เสมอ..ว่าแต่แล้วคุณล่ะเคยไปเมืองน่ารัก  เมืองนี้หรือยัง

3.เชียงคาน เลย

สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


ถ้าพูดถึงเมืองเล็กๆ บรรยากาศดี วิถีชีวิตเรียบง่ายแบบดั้งเดิม ชื่อ “เชียงคาน จังหวัดเลย” คงเป็นอำเภอต้นๆ ในใจใครต่อหลายคน  ด้วยบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำโขงที่เงียบสงบ บ้านไม้เก่าเรียงรายติดกันริมถนน  บวกวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ผู้คนมีรอยยิ้ม การถ้อยทีถ้อยอาศัย  ขนบธรรมเนียมประเพณีแบบชาวบ้านดั้งเดิม  การปั่นจักรยานทั่วเมือง  การกินอยู่ที่เรียบง่าย ที่หาไม่ได้จากที่อื่น อาทิ เมนู ข้าวปุ่นน้ำแจ๋ว ที่หาทานได้เฉพาะที่เชียงคานเท่านั้น ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงดงาม 

อย่างจุดชมวิวทะเลหมอกที่เต็มไปด้วยทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตา  แม้วันนี้เชียงคานจะได้รับความนิยมมากขึ้น จนหลายคนกลัวว่าจะคล้ายกับ “ปาย”  บ้านเรือนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โฮมสเตย์มีมากขึ้น แต่การมาเยือนที่นี่ ก็ยังคงสร้างความสุข สงบ และมิตรภาพ อย่างมากมาย ซึ่งเชื่อว่า ใครมีโอกาสได้มา จะต้องหาโอกาสมาใหม่อีกครั้ง...อีกครั้ง...และอีกครั้ง อย่างแน่นอน

4.ลี้  ลำพูน

สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


“อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน” ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่นิยมมากนักในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นอำเภอที่มีเส้นทางการเดินทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยวชวนเวียนหัว แต่หากคุณหลงไหลในเส้นทางธรรมชาติ และรักในพุทธศาสนา ขอแนะนำว่ามาที่นี่แล้วจะไม่ผิดหวัง เพราะอำเภอเล็กๆแห่งนี้ เต็มไปด้วยวัดวาอารามที่มีความสวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ อยู่มากมาย อาทิเช่น วัดพระธาตุดวงเดียว ที่มีองค์พระธาตุสีทองย่อมุม, วัดพระธาตุห้าดวง ที่มีจุดเด่น คือ เจดีย์ห้าองค์ภายในระเบียงคต มีองค์ใหญ่เป็นประธานตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้งสี่มุม หรือจะเป็นวัดดังอย่าง  วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ที่มีพุทธสถานสำคัญ เช่น รอยพระพุทธบาท หรือ เจดีย์ทรงแปลก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากพม่า ทุกวัดที่กล่าวมาล้วนมีความงดงามแปลกตาแตกต่างกันไป 

นอกจากนี้ “ลี้” ยังมีที่เที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจนั่นคือเป็นที่ตั้งของ “อช.แม่ปิง” อุทยานแห่งชาติขนาดเล็กที่มีความงดงามและความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์  ไฮไลท์ของที่นี่คือการ ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่จุดชมวิวดอยกระตึก ภาพงามของพระอาทิตย์ยามลับขอบฟ้าตรงสันเขา ที่ขึ้นลงสูงต่ำสลับกัน ด้านล่างเป็นท้องน้ำเวิ้งว้างสุดลูกตา สะท้องแสงสีทองยามเย็น ให้ความรู้สึกสบายตา และสงบอย่างยิ่ง นอกจากนี้ น้ำตกก้อหลวง ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความงดงามทางธรรมชาติที่น่าสนใจ รอให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสด้วยตาตนเองสักครั้ง รับรองว่า “มาแล้วคุณจะไม่ลืม”

5.สังคม  หนองคาย

สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


หากพูดถึง “อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย” อำเภอเล็กๆ สุดเขตแดนสยามริมฝั่งโขง หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่หากพูดถึง “ภูห้วยอีสัน” “ทะเลหมอกภูหอ” และ “จุดชมวิวภูโล้น” เชื่อว่านักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการสัมผัสทะเลหมอกสวย ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ผ่านเลนส์ รวมทั้งคอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์แบบ Unseen ต้องคุ้นและรู้จักเป็นอย่างดีแน่นอน อำเภอสังคม คือที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเหล่านี้นี่เอง ว่ากันว่าที่นี่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่สงบและเรียบง่าย 

ทั้งยังเป็นอำเภอที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุดของจังหวัดหนองคายอีกด้วย เสน่ห์ของที่นี่ที่ต้องยกนิ้วให้กับความงดงามทางธรรมชาติที่มีความหลากหลาย ทั้งแบบทะเลหมอก , บรรยากาศริมน้ำฝั่งโขง , บรรยากาศบนภูเขาสูง ไปจนถึง วัดวาอารามและแหล่งปฏิบัติธรรมที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ว่ากันว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความนิยมมาก บางรายมาบ่อยจนสนิทสนมกับชาวบ้านเป็นอย่างดี แล้วคนไทยอย่างเราล่ะ เคยมาที่ “สังคม”  อำเภอเล็กๆ ขนาด 440 ตร.กม. แห่งนี้กันแล้วหรือยัง

6.อัมพวา  สมุทรสงคราม

สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


ถ้าพูดถึงอำเภอเล็กๆ แต่มีเสน่ห์เหลือร้าย แล้วไม่พูดถึง “อัมพวา”  จังหวัดสมุทรสงคราม หลายคนคงว่าเอาได้ว่าข้อมูลไม่แม่น เพราะอำเภอเล็กๆแห่งนี้ เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และวิธีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำ ที่ยังคงใกล้เคียงกับอดีต ไฮไลท์ของการมาเยือนอัมพวาแห่งนี้ คงต้องยกให้กับ “ตลาดน้ำอัมพวา” ตลาดน้ำยามเย็นที่คงไว้ซึ่งเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมไทย มีวิถีชีวิตชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์อย่างโดดเด่น บ้านไม้เรือนแถวแบบดั้งเดิมริมสองฝั่งคลองอัมพวา ที่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ  

นอกจากนี้ “อัมพวา” ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็น ค่ายบางกุ้ง , วัดปรกโพธิ์ , อุทยาน ร.2 ,  ตลาดน้ำท่าคา หากไม่อยากสัมผัสกับความพลุกพล่านจอแจ และอยากสัมผัสกับเสน่ห์แห่งการใช้ชีวิต แนะนำมาเยือน “อัมพวา” แห่งนี้ ในวันธรรมดา ที่ไม่มีตลาด ความสงบเงียบแห่งวิถีริมน้ำ การตักบาตรพระยามเช้าทางเรือ และ การทำน้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ จะเป็นเสน่ห์ที่เชื่อว่า มาแล้วไม่อยากกลับ...แน่นอน

7.วังน้ำเขียว นครราชสีมา

สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ




สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ






สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


อำเภอเล็กๆ อำเภอต่อไป ไปกันที่อำเภอเล็กๆใกล้กรุง ที่บอกเลยว่า อากาศดีอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือ “วังน้ำเขียว จังหวัด นครราชสีมา” อำเภอที่ได้ชื่อว่าเป็น สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน แหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ที่สำคัญ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น เขาแผงม้า , เขื่อนลำพระเพลิง หรือ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ที่ถูกสร้างขึ้น เช่น วิลเลจฟาร์มแอนด์ไวนเนอรี่ โรงบ่มไวน์ที่มีชื่อเสียงของวังน้ำเขียว 

ภายในให้บริการที่พัก และร้านอาหารซึ่งบรรยากาศค่อนข้างดี  , วังน้ำเขียวฟาร์ม ฟาร์มเห็ดที่ใหญ่สุดในภาคอีสาน , ดูแกะชมสวนสวย ที่   มอนทาน่า ฟาร์ม หรือ จิบกาแฟเคล้าบรรยากาศสวย ที่ร้านกาแฟขึ้นชื่อ ของวังน้ำเขียว  A Cup of Love  เป็นต้น หากมีเวลามากกว่า 1 วัน แนะนำให้ค้างคืนที่นี่สัก 1 คืน ในยามเช้าที่อากาศเย็นสบาย สายหมอกจะโอบกอดและเข้ามาทักทายคุณถึงหน้าประตูห้องพักกันเลยทีเดียว ด้วยธรรมชาติที่งดงาม อากาศเย็นสบาย  และใกล้กรุงแค่เพียงไม่เกิน 3 ชม. ทำให้ “วังน้ำเขียว” เป็นอีก 1 อำเภอเล็ก ที่ใครได้ไป ต้องโดนมนต์สะกด และหาเวลาว่างแม้เพียงเล็กน้อย กลับไปเยือนดินแดนแห่งนี้อีกครั้ง

8.พะโต๊ะ  ชุมพร

สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ


อำเภอต่อไป ปิดท้ายกันที่ประตูแดนใต้กันที่อำเภอเล็กๆแห่งนี้ “พะโต๊ะ” จังหวัด ชุมพร กับคำขวัญที่บรรยายเรื่องราวของอำเภอแห่งนี้ได้อย่างดีเยี่ยมที่ว่า  ดินแดนภูเขาเขียว เที่ยวล่องแพ แลหมอกปก น้ำตกงาม ลือนามผลไม้ ทั้งที่มีพื้นที่เพียงแค่ต้นๆ 1,000 ตร.กม. แต่ดินแดนแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยพื้นที่เขียวขจีของป่าไม้ ขุนเขาและความสมบูรณ์ของต้นน้ำลำธาร  ไฮไลท์การมาเที่ยวที่นี่ นอกจากจะได้มาสัมผัสบรรยากาศแห่งเมือง 3 ทะเล  นั่นคือ  กลางคืนดูทะเลดาว ตอนเช้าดูทะเลหมอก  พอแดดออกดูทะเลป่า  แล้ว “การล่องแพพะโต๊ะ” และ “การพักแบบโฮมสเตย์” สัมผัสวิถีความเป็นอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแห่งสายฝนที่โปรยปราย  นับเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด 
 
แม้จะเป็นแค่อำเภอเล็กๆ แต่เชื่อเหลือเกินว่า 8 อำเภอเล็กๆ ที่แนะนำมาข้างต้น จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนต้องมนต์ มาแล้วไม่อยากกลับอย่างแน่นอน

สวยดั่งมนต์สะกด 8 อำเภอเล็กๆ ที่มาแล้วไม่อยากกลับ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์