สาวก iPhone มาทางนี้ อ่านหลากวิธีปกป้องมือถือสุดที่รักให้แคล้วคลาด จากน้ำสงกรานต์กัน...

สาวก iPhone มาทางนี้ อ่านหลากวิธีปกป้องมือถือสุดที่รักให้แคล้วคลาด จากน้ำสงกรานต์กัน...


เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ อีกรอบ หลายคนเมื่อเสร็จจากไหว้พระ ทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัวขอพรผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว ก็จะไปลั้นลา สาดน้ำ กันตามสถานที่ต่างๆ ให้หนำอารมณ์


และที่เป็นปัญหาสุดๆก็ตรงที่ต้องมาคอยระวังโทรศัพท์มือถือคู่ใจที่ไม่อยากจะให้ห่างกายไปเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะสาวก iPhone ทั้งหลาย ที่ขาดการอัพเดท แชร์ความเคลื่อนไหวผ่านโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ไม่ได้ และต้องคอยระวังให้ iPhone ไม่เปียกน้ำและพังไปต่อหน้าต่อตา


มติชนออนไลน์ จึงขออนุญาตหยิบนำบทความที่ทาง Facebook ขอiPhone 4 Society เผยแพร่ไว้เกี่ยวกับการการป้องกัน และรับมือปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับ iPhone จากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดังนี้



[ ก่อนออกจากบ้าน ควรทำอย่างไรกับ iPhone? ]


ตรวจสอบสภาพเครื่องให้ดี ก่อนนำออกไปใช้งาน อย่างน้อยควร Backup หรือสำรองข้อมูลไว้ก่อน เผื่อเกิดเหตุสุดวิสัย จะได้กู้ข้อมูลกลับมาได้


ตั้งค่า Find My iPhone โดยไปที่ Settings > iCloud และเปิด Find My iPhone (ค้นหา iPhone ของฉัน) ไว้ หรือหากใช้ iOS 4 สามารถดูวิธีการตั้งค่าได้ที่ บทความนี้ ครับ


อย่าลืมเปิดบริการหาตำแหน่ง (Settings > Location Services) และเปิด 3G กับ Wi-Fi ไว้ตลอดเวลา เพื่อให้ Find My iPhone ทำงานได้อย่างถูกต้องที่สุด


เตรียมอุปกรณ์ป้องกันให้กับ iPhone ไม่ว่าจะเป็นซองกันน้ำ หรืออุปกรณ์บ้าน ๆ อย่างพลาสติกและถุงยางอนามัย ก็นำมาใช้ห่อหุ้มเครื่องเพื่อป้องกันน้ำได้เช่นกัน แต่ต้องไม่ลืมว่าอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตาม ก็กันน้ำไม่ได้ 100%


สิ่งสำคัญยิ่งกว่าการป้องกันเครื่องจากน้ำ คือป้องกันเครื่องจากขโมย! อย่าลืมว่าการออกไปเล่นสงกรานต์ในสถานที่ดัง ๆ จะต้องพบปะและเบียดเสียดกับผู้คนมากมาย ดังนั้นแล้ว เก็บ iPhone ของเราให้ดี ๆ อย่านำออกมาใช้หากไม่จำเป็น


การนำ iPhone ไปห้อยคอ อาจจะต้องตรวจสอบเรื่องสายห้อยว่ามีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระชากต่าง ๆ นานาได้หรือไม่


หรือทางที่ดี เก็บ iPhone ไว้ที่บ้าน แล้วพกมือถือเครื่องละ 999 บาทออกไปแทน!


แต่หากทำไม่ได้ ก็ควรดูแล iPhone ของเราอย่างสุดชีวิตในขณะที่ออกไปเล่นสงกรานต์ด้วยเช่นกันครับ



ปฐมพยาบาล เมื่อ iPhone ต้องเจอกับน้ำ


1. เลี่ยงพฤติกรรมการใช้งานเสี่ยง

พื้นฐานของ iPhone ไม่ได้เกิดมาใช้งานกับน้ำ โดยปกติ iPhone / iPod / iPad จะมีกระดาษวัดความชื้น (เว้น iPad 2 ที่ไม่มีแล้ว) หากกระดาษนี้เป็นสีชมพูหรือแดง จะเท่ากับหมดประกันเนื่องจากความชื้นทันที กระดาษนี้ มีโอกาสเปลี่ยนสีได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องตกน้ำเท่านั้น พฤติกรรมการใช้งาน ก็มีผลได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเรื่องสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม หลายครั้ง ความชื้นจากสภาพแวดล้อมเหล่านี้ ก็ส่งผลให้ประกันหลุด ไปจนถึงเครื่องมีปัญหาการใช้งานได้

การป้องกันที่ดีที่สุด ผู้ใช้ต้องลดพฤติกรรมเสี่ยงด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะการไม่วาง iPhone ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นเช่น ห้องแอร์เย็นเกินไป ใช้งานในห้องน้ำขณะอาบน้ำ วางข้างแก้วน้ำเย็นจัดบ่อยๆ หรือในเวลาฝนตก ต้องเก็บให้มิดชิด เพราะตัวอย่างเหล่านี้ มีโอกาสสร้างความชื้นให้เป็นปัญหากับเครื่องได้แน่นอน กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

 



2. ซองมือถือแบบกันน้ำ ไม่ได้ใช้แค่เทศกาล และไม่ได้ชัวร์ 100%

ในเทศกาลสงกรานต์ หรือการท่องเที่ยว หรือกิจกรรมบางแบบที่ต้องอยู่ใกล้ๆน้ำ โดนน้ำ สัผผัสกับน้ำ ซองกันน้ำต่างๆ มีขายมีแจกกันในเทศกาลแบบนี้เสมอ ซองกันน้ำเหล่านี้ จะลักษณะเหมือนถุงพลาสติกใส มีฝาปิดปากถุงหลายแบบ ไม่ว่าจะแบบพับปิด / กระดุม / ซิปล็อค โดยมากแล้ว ขนาดของถุงจะค่อนข้างใหญ่ เหมาะสำหรับห้อยคอมากกว่า หรือกระเป๋ากางเกงต้องใหญ่พอสมควร

โดยมากแล้ว จะสามารถกันน้ำได้พอสมควร แต่อาจไม่กันระดับที่จมลงไปในน้ำ เพราะซองบางแบบ อาจมีมุมหรือช่องอากาศเหลือบาง แต่ซองกันน้ำแบบเยี่ยมๆ หรือเกิดมาเพื่อกันน้ำจริงๆ ก็มีผู้ผลิตซอง เคส หลายเจ้าที่ดังๆ ทำขายเหมือนกัน แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง และอาจหาซื้อยากสักนิด เพราะโอกาสใช้งาน อาจไม่เยอะเท่าที่ควร ทำให้การสั่งซองกันน้ำจากผู้ผลิตเจ้าดังๆ จึงหายากสักนิด

ดังนั้น ซองเหล่านี้ ถือเป็นทางออกที่ดีต่อการใช้งาน แต่ก็ต้องระวังตกน้ำ หรือการพกพาก็ต้องระวังมิจฉาชีพที่จะมีล้วงไป หรือกระชากจากการห้อยคอได้เช่นกัน


3. ตั้งสติในการแก้ไขเมื่อเปียกหรือตกน้ำ

เมื่อเครื่องถูกน้ำ หรือตกน้ำ สิ่งแรกที่ทุกคนต้องมีก่อนคือสติ โดยปกติ ถ้าน้ำหกใส่ iPhone แต่ไม่ซึมเข้าช่องลำโพง / ช่องลำโพงสนทนา / ช่อง 30 pin / ช่องหูฟัง หยิบมาเช็ดให้แห้งตามปกติยังพอทำได้ แต่ในกรณีที่ตกน้ำ น้ำซึมเข้าบรรดาช่องเหล่านี้ ให้ตั้งสติ อย่าตกใจ หยิบขึ้นมาจากน้ำให้เร็วที่สุด ทุกอย่างให้แห้ง รวมถึงกำเครื่องให้แน่นๆ และสะบัดน้ำออกเท่าทีทำได้ เนื่องจาก iPhone เป็นโทรศัพท์ที่ถอดแบตเตอรี่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ห้ามนำไฟเข้าเครื่อง หรือให้ไฟในเครื่องทำงานทุกกรณี เพราะโดยปกติ หากตกน้ำ ไม่เกินห้าวินาทีแรกที่ตก เครื่องจะช็อตและดับไปเอง การเปิดเครื่อง หรือพยายามชาร์จไฟเข้า จะทำให้เครื่องเสียหายมากกว่าเดิม


วิธีแก่้ไขที่ง่ายที่สุด หลังจากเครื่องตกน้ำแล้ว ให้รีบทำเครื่องให้แห้งโดยเร็วที่สุด โดยการทำให้แห้ง ต้องห้ามใช้ความร้อนในการทำให้แห้ง เพราะฉะนั้น อย่าใช้ไดร์เป่าผมในการทำให้แห้ง หลังจากเช็ดให้แห้งแล้ว หาวัตถุดูดความชิ้นมาช่วย ง่ายที่สุดคือการนำไปแช่ในถังข้าวสาร เพราะข้าวสารช่วยดูดความชื้นได้ แช่ไว้อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงขึ้นไป หลังจากนั้น สามารถทำไปให้ช่างซ่อมทำการล้างบอร์ดตัวเครื่อง

แต่ทั้งนี้ การซ่อมเครื่องที่ตกน้ำมา ถึงจะกลับมาใช้งานได้ แต่สภาพต่างๆ จะทำงานไม่ 100% เหมือนเครื่องปกตินะครับ

 

 




4. 7,000 บาท ได้เครื่องใหม่

โดยเงื่อนไขการรับประกันของ Apple แล้ว ถึงการเสียหายที่เกิดจากผู้ใช้งาน จะอยู่นอกเงื่อนไขการรับประกันก็จริงอยู่ แต่ Apple ก็มีเงื่อนไขในการช่วยเหลือกรณีเครื่องเสียจากอุบัติเหตุ รวมถึงการตกน้ำเช่นกัน นั้นคือให้นำเครื่องมาแลกซื้อเครื่องใหม่ที่เป็นเครื่องเคลม Model LL เช่นเดียวกับที่เคลมให้กับเครื่องที่มีปัญหาจากการใช้งานปกติ ในราคาขายรวมภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7,000 บาท โดยมีประกันเครื่องให้ใช้ตามระยะเวลาที่เหลือ เช่น หากเครื่องเหลือประกันหกเดือน การซื้อเครื่องเคลม เครื่องเคลมนั้น ก็จะรับประกันหกเดือนเท่านั้น

ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่า เงิน 7,000 อาจแพงสำหรับหลายคน แต่ถ้าคิดในแง่ว่าซ่อมแล้วซ่อมอีก หรือซ่อมแล้วยังไงก็ไม่สมบูรณ์ การได้เครื่องใหม่ในราคานี้ ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน



5. วาง iPhone ไว้บ้าน แล้วออกไปลุยน้ำ ลงน้ำ

ในเมื่อน้ำเป็นศัตรูกับสุขภาพเครื่องขนาดนี้ บางที หากไม่มีความจำเป็นต้องพกมือถือออกไป บางที การสังสรรค์ในเทศกาลสงกรานต์นี้ หรือการเที่ยวทะเล เที่ยวน้ำตก หรือจะไปเล่นน้ำ รวมถึงกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างการอาบน้ำ บางครั้งก็ควรเลี่ยงที่จะพามือถือไปเจอสภาพแวดล้อมเสี่ยงแบบนั้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น หลายครั้งอาจไม่คุ้มกับความสะดวกเพียงเล็กน้อยที่ต้องการ


บางที ในเวลาพักผ่อนของเรา วางโทรศัพท์ไว้ แล้วไปลุยให้เต็มที่ดีกว่านะครับ^^


[ กรณีที่เครื่องหาย ควรทำอย่างไร? ]

ในกรณีที่เครื่องหาย สิ่งแรกที่ควรทำคือ "ติดต่อสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดเพื่อลงบันทึกประจำวันและขอความช่วยเหลือ"

จากนั้น จะเป็นหน้าที่ของ Find My iPhone ที่เราตั้งค่าไว้ โดยเข้าไปติดตามเครื่องได้ที่ http://me.com/find หรือผ่าน App Find My iPhone จากอุปกรณ์อื่น ซึ่งสามารถติดตั้งได้ ด้านล่างนี้ครับ

Find My iPhone

ขนาด: 7.6MB

สำหรับ: iPhone, iPod touch และ iPad ที่ใช้ iOS 3.1.3 ขึ้นไป

ดาวน์โหลด: http://itunes.apple.com/app/find-my-iphone/id376101648

วิธีใช้:เข้าระบบด้วยID ของเรา จากนั้น App จะระบุตำแหน่งของ iPhone ให้ หาก iPhone นั้นยังคงเปิดใช้งาน และเปิด Location Service อยู่




หากยังมีข้อสงสัย หรือคำแนะนำใด ๆ สามารถติดต่อทีมงานได้ที่ Facebook ของ iPhone 4 Society และ Twitter ที่ @iPhone4Society


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์