สำหรับญี่ปุ่นแล้ว #ตื่นเช้าหน่อยไม่ได้มีแค่คนน้อยกว่า


สำหรับญี่ปุ่นแล้ว #ตื่นเช้าหน่อยไม่ได้มีแค่คนน้อยกว่า

สำหรับญี่ปุ่นแล้ว #ตื่นเช้าหน่อยไม่ได้มีแค่คนน้อยกว่า...โซเชียลเมืองไทยลุกเป็นไฟเมื่อบีทีเอสได้ผุดแคมเปญ #ตื่นเช้าหน่อยคนน้อยกว่า ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาอวัยวะส่วนไหนคิดแคมเปญที่ดูเหมือนจะเป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค โดยที่ตัวเองไม่คิดจะปรับปรุงตัวอะไรทั้งสิ้น รถยังคงเสียบ่อย ผู้โดยสารยังคงตกค้างจนไปทำงานไม่ทันเหมือนเดิม สงสัยว่าจะ #ขึ้นราคาเก่ง อย่างเดียวเท่านั้น

โซเชียลเมืองไทยลุกเป็นไฟเมื่อบีทีเอสได้ผุดแคมเปญ #ตื่นเช้าหน่อยคนน้อยกว่า ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาอวัยวะส่วนไหนคิดแคมเปญที่ดูเหมือนจะเป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค โดยที่ตัวเองไม่คิดจะปรับปรุงตัวอะไรทั้งสิ้น

รถยังคงเสียบ่อย ผู้โดยสารยังคงตกค้างจนไปทำงานไม่ทันเหมือนเดิม สงสัยว่าจะ #ขึ้นราคาเก่ง อย่างเดียวเท่านั้น





สำหรับญี่ปุ่นแล้ว #ตื่นเช้าหน่อยไม่ได้มีแค่คนน้อยกว่า

แต่ระดับญี่ปุ่นแล้ว #ตื่นเช้าหน่อยคนน้อยกว่า คือแคมเปญที่ดี ผ่านการใช้สมองตรึกตรองมาแล้ว ไม่ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ อย่างตั้งชื่อแคมเปญเท่ๆ แล้วก็ให้พวกเรารับผิดชอบชีวิตกันเอง มาดูกันว่าประเทศที่พัฒนาแล้วจะ #ตื่นเช้าหน่อยคนน้อยกว่า กันอย่างไร



สำหรับญี่ปุ่นแล้ว #ตื่นเช้าหน่อยไม่ได้มีแค่คนน้อยกว่า

1. Keikyu Densetsu (รถไฟของบริษัทเคคิว) จัดแคมเปญในช่วงเวลา 07.00 - 09.00 น. วันจันทร์ - ศุกร์ โดยรณรงค์ให้คนมาใช้รถไฟ Local train (รถไฟที่จอดทุกสถานี) โดยผู้ที่ใช้รถใช้ Local train นั้นหากนั่งไปถึงสถานีปลายทางชินากาว่า จะได้รับ Keikyu premium point โดยจะได้รับพ้อยท์ครั้งละ 20 เยนจำกัดวันละครั้ง

สมมติเด็กนักเรียนไปโรงเรียนโดยนั่งรถ Local train นี้ไปตลอดก็จะมีพ้อยท์สะสมในบัตรเป็นจำนวนเงินมากกว่า 4 พันเยน และสามารถนำพ้อยท์ไปใช้ซื้อของกับร้านในเครือของรถไฟเคคิวหรือแม้กระทั่งเอาไปแลกไมล์สายการบินได้

2. ข้อมูลกระทรวงที่ดิน ระบบสาธารณูปโภค คมนาคมและการท่องเที่ยวญี่ปุ่นบอกว่า รถไฟของบริษัท Tokyu Densetsu นั้น ตั้งแต่ปี 2009 ก็ออกแคมเปญ #ตื่นเช้าหน่อยคนน้อยกว่า หากมาถึงสถานีชิบูย่าภายใน 07.30 น. ก็จะได้พ้อยท์ที่สามารถนำไปใช้ได้ที่ร้านอาหารและศูนย์กีฬาในเครือของบริษัทโทคิว

หลังจากออกแคมเปญนี้มา พบว่าสามารถลดจำนวนคนในช่วงพีคได้มากกว่า 1 หมื่นคน และหมื่นกว่าคนนี้ ก็นำพ้อยท์ไปซื้อของได้ตามอัธยาศัย วินวินกันทุกฝ่าย

3. โตเกียวเมโทรก็ทำแคมเปญ ตั้งแต่ 21 ม.ค. - 1 ก.พ. 2019 มอบอาหารเช้าโซบะเทมปุระฟรี! ให้กับผู้โดยสารรถไฟสายโทไซ โดยสารตั้งแต่สถานี Toyokatsutadai ถึงสถานี Monzennakachou ก็รับไปเลยอาหารเช้าฟรี!!

4. ปี 2017 มีการออกแคมเปญ 時差 BIZ (jisabiz) เป็นโครงการที่พยายามจะปรับเปลี่ยนเวลาไปทำงานของคนโตเกียว เพื่อลดความแออัดของคนโดยสารรถไฟในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยบริษัทรถไฟโทคิวเด็นเซ็ทสึเจ้าเดิม ก็ออกมาช่วยวิ่งรถไฟตั้งแต่ 6 โมงเช้า

ถ้าขึ้นลงรถไฟที่สถานีชิบูย่าภายใน 07.30 น. ก็จะได้รับคูปองส่วนลดที่ใช้ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ช่วงที่เริ่มแคมเปญนี้ ผู้ว่าฯ กรุงโตเกียวและคณะออกมาให้กำลังใจเหล่าคนกรุงที่ตื่นเช้ากันถึงสถานีรถไฟ ครึกครื้นไม่ใช่น้อย

5. ในเดือน ก.ค. - ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา แคมเปญ #ตื่นเช้าหน่อยคนน้อยกว่า ที่ญี่ปุ่นนั้น ยังจูงใจผู้โดยสารด้วยการแจกพ้อยท์ 10,000 พ้อยท์สำหรับ 500 ท่านโดยการสุ่ม สำหรับผู้ที่โดยสารรถไฟตั้งแต่เวลา 06.00 - 07.45 น.

โดยจะต้องเป็นผู้ที่เดินทางในเวลาดังกล่าวอย่างน้อย 10 ครั้ง หากคุณเป็นคนที่ขึ้นรถไฟในช่วงเวลาดังกล่าว 15 ครั้ง จะได้สิทธิ์การจับรางวัล 2 สิทธิ์ และหากคุณขึ้นเวลาดังกล่าว 20 ครั้ง คุณจะได้ไปเลย 3 สิทธิ์ ในสถานีที่ทางการรถไฟกำหนด

6. นอกจากภาครัฐแล้ว... ยังมีการขอความร่วมมือไปยังบริษัทต่างๆ แน่นอนว่าเมื่อภาครัฐจริงใจในการแก้ไขปัญหา บริษัทหลายแห่งก็ร่วมด้วยช่วยกัน เช่น บางบริษัทออกแคมเปญช่วยเหลือ หากมาทำงานภายใน 8 โมงเช้า และเลิกงานตอน 6 โมงเย็น บริษัทจะมีเงินตอบแทนให้สูงสุด 15,000 เยนต่อเดือน (ครั้งละ 1,000 เยน)

ชิเซโด้เองก็เริ่มโครงการให้ทานอาหารเช้าฟรีสำหรับพนักงานที่มาทำงานเร็วในตอนเช้าด้วยเหมือนกัน

โครงการทั้งหมดที่เล่ามา ทางญี่ปุ่นเริ่มมานานแล้ว แต่เพิ่งจะเริ่มอย่างจริงจังในช่วง 2-3 ปีนี้เอง แคมเปญแต่ละแคมเปญที่ออกมานั้นไม่ใช่แคมเปญถาวร หากแต่มีช่วงเวลาในการทำแคมเปญและก็มีข้อกำหนดต่างกันออกไป

รถไฟสายไหนที่คนแน่นจนเป็นปัญหาในช่วงเวลาเช้า ก็เริ่มทำจากสายนั้นก่อน แคมเปญไหนได้ผลหรือไม่ได้ผล ก็ต้องค่อยๆ ทดลองกันไป

สิ่งที่รถไฟญี่ปุ่นมี คือ "การแสดงความจริงใจในการไม่ผลักภาระไปให้ผู้บริโภค" โดยการคุยกับพาร์ทเนอร์ ให้สิทธิพิเศษกับผู้โดยสารที่ยอมตื่นเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงช่วง rush hour และการคุยกับบริษัทหลายๆ แห่งชักชวนให้เข้าร่วมโครงการ ทำให้ผู้โดยสารที่ต้องตื่นเพื่อออกจากบ้านแต่เช้า ไม่รู้สึก "ถูกเอาเปรียบ" หากแต่ทำให้รู้สึกว่าการตื่นเช้าก็มีข้อดี และนี่แหล่ะคือตัวอย่างที่ดีของแคมเปญ #ตื่นเช้าหน่อยคนน้อยกว่า ที่แท้ทรู



เครดิตแหล่งข้อมูล : marumura





เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์