สุดช็อค! เผยด้านมืด เพนกวินสุดหื่น พฤติกรรมทางเพศที่ถูกปิดบังนาน 100 ปี

สุดช็อค! เผยด้านมืด เพนกวินสุดหื่น พฤติกรรมทางเพศที่ถูกปิดบังนาน 100 ปี


พฤติกรรมทางเพศผิดธรรมชาติของนกเพนกวิน ที่ถูกบันทึกไว้โดยทีมนักวิจัยเมื่อกว่า 100 ปีก่อนได้รับการเผยแพร่แล้ว

หลังจากถูกปิดบังมานานเกือบ 100 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่า รายละเอียดต่างๆ ซึ่งร่วมถึงพฤติกรรม"การขู่เข็ญทางเพศ" ของเพนกวินพันธุ์"อะเดลี" ซึ่งได้รับการบันทึกโดยนายแพทย์จอร์จ เมอร์เรย์ เลวิค หนึ่งในทีมสำรวจขั้วโลกใต้ของกัปตันโรเบิร์ต ฟัลคอน สก็อตต์ เมื่อปี 1910 ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่รุนแรงเกินไป และมีคำสั่งห้ามเผยแพร่โดยเด็ดขาด


แต่หลังจากมีผู้รื้อค้นข้อมูลดังกล่าว ที่ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของอังกฤษ ได้มีการตีพิมพ์ข้อมูลอันอื้อฉาวนี้ลงในวารสารออนไลน์"โพลาร์ เร็คคอร์ด"

นพ.เลวิค ศัลยแพทย์ ซึ่งร่วมในการเดินทางสำรวจขั้วโลกใต้ ระหว่างปี 1910-1913 หรือที่รู้จักกันในชื่อ "การสำรวจเทอร์รา โนวา" ได้บันทึกรายละเอียดของพฤติกรรมทางเพศที่ผิดปกติของเพนกวิน ในเอกสารขนาด 4 หน้า ซึ่งใช้ชื่อว่า "Sexual Habits of Adélie Penguins" หรือ"พฤติกรรมทางเพศของเพนกวินอะเดลี"

ในระหว่างการเดินทาง นพ.เลวิค ได้สังเกตและบันทึกรายละเอียดของการดำเนินชีวิตของเพนกวินอะเดลี ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบเคป อาแดร์ แม้กระทั่งการบันทึกเพนกวินที่เขาพบเห็นตัวแรก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 1911

เขาบันทึกถึง"ความโน้มเอียงที่จะเกิดอารมณ์ทางเพศ"ของเพนกวิน และพฤติกรรมที่ดูเหมือน"ความเบี่ยงเบน"ในกลุ่มเพนกวินรุ่นเยาว์ ทั้งตัวเมียและตัวผู้ที่ยังไม่ได้จับคู่ ซึ่งรวมถึง "การชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ" "การขู่เข็ญให้มีเพศสัมพันธ์" "การคุกคามทางเพศและร่างกายของลูกเพนกวิน" "การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน" และ"พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ"

อย่างไรก็ดี พฤติกรรมข้างต้น ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจในสมัยเมื่อ 100 ปีก่อน รายงานดังกล่าวไม่ได้รับการตีพิมพ์ร่วมกับรายงานการสำรวจชิ้นอื่นๆ แต่ถูกคัดลอกให้แก่ผู้เชี่ยวชาญด้านเพนกวินเพียง 100 คนเท่านั้น โดยมันถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิดร่วมกับเอกสารเกี่ยวกับนกฉบับอื่นๆ และเพิ่งถูกค้นพบโดยนายดักลาส รัสเซลล์ ภัณทรารักษ์ประจำพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอังกฤษ

นายรัสเซลล์มองว่า การบันทึกในครั้งนั้นถือเป็นสิ่งที่ล้ำหน้ามากในยุคนั้น และถือเป็นความพยายามครั้งแรกที่จะเปิดเผยพฤติกรรมของเพนกวินที่ไม่มีใครทราบมาก่อนให้เผยแพร่ในวงวิชาการ



 


สุดช็อค! เผยด้านมืด เพนกวินสุดหื่น พฤติกรรมทางเพศที่ถูกปิดบังนาน 100 ปี


แต่เดิมทีนพ.เลวิคอาจรู้สึกช็อคต่อสิ่งที่เขาได้เห็น จึงพยายามปิดบังข้อมูลต่างๆโดยการจดบันทึกเป็นภาษากรีก โดยระบุในตอนหนึ่งว่า "ไม่มีการก่ออาชญากรรมใดที่จะรุนแรงน้อยกว่าเพนกวินพวกนี้อีกแล้ว"

ตัวอย่างเช่น ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 1911 เลวิคได้จดบันทึกเป็นภาษากรีกแปลได้ว่า "เมื่อบ่ายนี้เขาได้เห็นสิ่งน่าประหลาดใจที่สุด เพนกวินตัวหนึ่งแสดงพฤติกรรมร่วมเพศกับเพนกวินที่ตายแล้ว ซึ่งดำเนินไปนานกว่าหนึ่งนาที ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดวิสัยของการร่วมประเวณีของสัตว์ทั่วไป"

และบันทึกเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมปีเดียวกัน ระบุไว้ว่า "เขาได้เห็นพฤติกรรมที่ชวนสลดหดหู่อีกครั้ง เพนกวินตัวหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณหลังเท้า ได้คลานอย่างทุกข์ทรมานโดยใช้หน้าท้องไถไปกับพื้น ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะช่วยมันหรือไม่ เพนกวินเพศผู้ตัวหนึ่งได้ขึ้นคร่อมและข่มขืนมันต่อหน้าเขา"

ด้านนายรัสเซลล์ และวิลเลียม สลาเดน จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ และดร.เดวิด เอนลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมของเพนกวินอะเดลี กล่าวว่า พฤติกรรมระหว่างผสมพันธุ์ของเพนกวินเพศเมีย ซึ่งแสดงท่านอนลงกับพื้น ปีกแนบกับลำตัวแน่น และดวงตาปิดลงเล็กน้อย มีส่วนคล้ายคลึงกับท่าทางของเพนกวินที่ตายแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับบันทึก

รัสเซลล์เสริมว่า นพ.เลวิคมีแนวโน้มที่จะนำแนวคิดด้านมานุษยรูปนิยมมาใช้กับนก แต่นกอย่างไรก็ไม่วันเหมือนคน และเราจำเป็นต้องตีความพฤติกรรมของพวกมันในบริบทของสัตววิทยา


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์