หน่วยสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI)


หน่วยสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา
(Federal Bureau of Investigation : FBI)


หน่วยสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI)


FBI คืออะไร ?

ที่สหราชอาณาจักร ความสัมพันธ์ระหว่าง MI6 (หน่วยงานที่ดูแลข่าวกรองในต่างประเทศ) และ MI5 (หน่วยงานที่ดูแลข่าวกรองภายในสหราชอาณาจักร) ได้สร้างรากฐานเครือข่ายข่าวกรองทั้งระบบที่เข้มแข็ง ในสหรัฐอเมริกาก็เช่นเดียวกัน คือมี Central Intelligence Agency หรือเรียกย่อๆ ว่า CIA รับผิดชอบดูแลข่าวกรองด้านภัยคุกคามจากต่างประเทศ และมี Federal Bureau of Investigation หรือที่เรียกย่อๆ ว่า FBI รับผิดชอบต่อความมั่นคงภายในประเทศ

FBI เป็นหน่วยงานด้านการสืบสวนสอบสวนของกระทรวงยุติธรรม และเป็น 1 ใน 32 หน่วยงานที่รับผิดชอบต่อการบังคับใช้กฎหมายในสหรัฐฯ ซึ่งแตกต่างจาก CIA ที่ไม่ใช่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย

FBI ต่อต้านอาชญากรรมได้อย่างไร ?
เมื่อแรกเริ่มนั้น FBI มีเจ้าหน้าที่พิเศษ (Special Agent) เพียง 34 คน มีห้องทำการ 1 ห้องอยู่ที่กระทรวงยุติธรรม แต่ปัจจุบันเอฟบีไอมีแบ่งการบริหารเป็น 11 กอง และ 4 สำนักงาน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคาร เจ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี มีสำนักงานในพื้นที่ต่างๆ 56 แห่ง ที่ทำการผู้เชี่ยวชาญ 4 แห่ง ศูนย์ประสานงานต่างประเทศ 40 แห่ง และหน่วยบริการประจำประมาณ 400 แห่ง มีเจ้าหน้าที่พิเศษ 11,400 คน มีพนักงานและเจ้าหน้าที่บริหารกว่า 16,000 คน และมีงบประมาณมหาศาลในแต่ละปี

จึงทำให้ FBI ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรม ต่อต้านการก่อการร้าย องค์กรอาชญากรรม การค้ายาเสพติด อาชญากรรมอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ และอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เป็นอย่างดี

ประวัติความเป็นมาของ FBI

FBI เริ่มถือกำเนิดขึ้นภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล ประธานาธิบดีธีโอดอร์ รูสเวลต์ (Theodore Roosevelt) ในปี 1908 ซึ่งขณะนั้นยังมีความไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลกลางของประเทศจะเข้าไปแทรกแซงอำนาจรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละรัฐ แต่ประธานาธิบดีรูสเวลต์ก็ยังสนใจที่จะตั้งองค์กรของรัฐบาลกลางที่มีอำนาจสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ ได้ทั่วทั้งประเทศ

ในปี 1908 พล.อ.ชาร์ลส์ โบนาปาร์ต (Charles Bonaparte) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงตั้งเจ้าหน้าที่พิเศษ (Special Agent) 34 คน ขึ้นมาทำหน้าที่นี้ โดยตั้งสำนักงานอยู่ในกระทรวงยุติธรรม เรียกว่า The Bureau of Investigation (BI) รับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวนคดีฉ้อโกง คดีล้มละลาย และป้องกันการผูกขาด เพียง 2 - 3 ปีต่อมา สำนักงานก็มีเจ้าหน้าที่ 300 คน และมีพนักงานสนับสนุน 300 คน

BI มีการเปลี่ยนแปลงและขยายงานในช่วงสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง พร้อมกับมีการออกกฎหมายหลายฉบับที่เอื้อให้ BI มีอำนาจหน้าที่กว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่มี เจ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ (J. Edgar Hoover) เป็นผู้อำนวยการในปี 1924 ขณะนั้น BI มีลูกจ้าง 650 คน ในจำนวนนี้มี 441 คน ทำงานที่สำนักงานในเมืองใหญ่ 9 เมือง งานแรกที่ฮูเวอร์ทำคือไล่เจ้าหน้าที่ที่ไม่เป็นมืออาชีพออกไป และเข้าก่อตั้งโปรแกรมฝึกอบรมอย่างเป็นทางการสำหรับพนักงานใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานเจ้าพนักงานให้สูงขึ้น

ปลายทศวรรษนั้น BI มีสำนักงานพื้นที่ใน 30 เมืองใหญ่ และสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค 9 แห่งทั่วประเทศ ต่อมา BI มีงานใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบในช่วงสงครามโลก คือการสืบสวนสอบสวนกิจกรรมของชาวเยอรมัน อิตาลี รัสเซีย และญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่เป็นคอมมิวนิสต์ นาซี และฟาสซิสต์

ปี 1935 ได้มีการปรับโครงสร้าง BI กลายเป็นหน่วยสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (Federal Bureau of Investigation : FBI) โดยมีฮูเวอร์เป็นผู้อำนวยการคนแรก หลังจากนั้นไม่นานก็มีการก่อตั้ง The FBI National Academy เพื่ออบรมตำรวจทั่วสหรัฐอเมริกา

ฮูเวอร์ยังคงเป็นผู้อำนวยการ FBI เรื่อยมาจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1972 ขณะอายุได้ 77 ปี เขาทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการ BI และผู้อำนวยการ FBI ต่อเนื่องยาวนานถึง 48 ปี นับว่าเป็นบุคคลผู้สร้างคุณประโยชน์ให้กับ FBI อย่างมากมายที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมา

ผู้อำนวยการ FBI คนปัจจุบัน คือ โรเบิร์ต สวอน มุลเลอร์ ที่ 3 (Robert Swan Mueller III) ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายน 2001 ต่อจากนายโธมัส เจ พิคการ์ด (Thomas J. Pickard)


หน่วยสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI)


หน้าที่ของ FBI มีอะไรบ้าง ?

หัวใจสำคัญของ FBI ก็คือการสืบสวน ซึ่งสอดรับกับภารกิจในการป้องกันและรักษาสหรัฐอเมริกาจากผู้ก่อการร้ายและหน่วยสืบราชการลับของต่างประเทศ และยังมีอำนาจบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามอาชญากรรมในสหรัฐอเมริกาด้วย โดยภารกิจหลักของ FBI สามารถแบ่งเป็นข้อได้ 10 ข้อ ดังนี้

  1. ปกป้องสหรัฐอเมริกาจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย

  2. ปกป้องสหรัฐอเมริกาจากการสืบราชการลับและการจารกรรมจากต่างประเทศ

  3. ปกป้องสหรัฐอเมริกาจากการโจมตีทางไซเบอร์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีระดับสูง

  4. ปราบปรามการคอร์รัปชั่นในทุกระดับ

  5. ปกป้องสิทธิมนุษยชน

  6. ปราบปรามองค์กรอาชญากรรมระดับชาติ

  7. ปราบปรามอาชญากรทางเศรษฐกิจ

  8. ปราบปรามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอาชญากรรุนแรง

  9. สนับสนุนประเทศ รัฐ เมือง เทศบาล และพันธมิตรระหว่างประเทศ

  10. พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมให้ภารกิจของ FBI สำเร็จลุล่วง
เกร็ดน่ารู้ 5 ข้อของ FBI

  1. Employs almost 11,500 Special Agents (เอฟบีไอจ้างเจ้าหน้าที่พิเศษเกือบ 11,500 คน)

  2. It began life with only 34 agents (เมื่อเริ่มก่อตั้งมีเจ้าหน้าที่พิเศษเพียง 34 คน)

  3. There isn’t a department called the X-Files (เอฟบีไอไม่ใช่หน่วยงานที่เรียกว่า X-Files)

  4. Osama bin Laden is on the 10 Most Wanted list (อุซามะห์ บิน ลาดิน เป็น 1 ใน 10 รายชื่อผู้ที่เอฟบีไอต้องการตัวมากที่สุด)

  5. J. Edgar Hoover was director of FBI for 37 years (เจ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอ เป็นเวลาถึง 37 ปี)

ที่มาข้อมูล : http://www.fbi.gov
ขอบคุณ myfirstbrain


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์