หายสงสัย!!เวลาปวดเราควรกินยา “พาราเซตามอล” กี่เม็ดกันแน่??


เมื่อเรา เกิดอาการปวดศีรษะ หรือส่วนต่างๆ ของร่างกาย เรามักจะนึกถึง ยาพาราเซตามอล เพราะเชื่อว่า จะสามารถบรรเทาปวดจากสาเหตุต่างๆได้หลากหลาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดจากข้อเสื่อม ปวดกล้ามเนื้อ เคล็ด ขัด ยอก ดังนั้น หลายท่านจึงมียาพารา ติดตู้ยาที่บ้านและมักเป็นยาที่นึกถึงเป็นขนานแรกเมื่อมีอาการปวดเป็นประจำ แต่ทราบหรือไม่ว่า พาราเซตามอลมีฤทธิ์ลดอาการปวดจำกัด รักษาได้เพียงอาการปวดขั้นอ่อนถึงปานกลางเท่านั้น มีบางอาการปวดที่ยาพาราไม่สามารถออกฤทธิ์รักษาได้ หรืออาจไม่ใช่ยาที่เหมาะสม เช่น

อาการปวดขั้นรุนแรง เช่น ความปวดจากแผลผ่าตัดใหญ่ หรือจากมะเร็ง วิธีการประเมินความปวดอย่างง่ายวิธีหนึ่งคือการให้คะแนนความปวดจาก 0 ถึง 10 ให้เลข 0 แทนความรู้สึกที่ไม่มีอาการปวดแต่อย่างใดและเลข 10 แทนความรู้สึกปวดมากที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ หากประเมินแล้วตัวเลขตกอยู่ในช่วง 7-10 นั่นหมายถึงการมีอาการปวดขั้นรุนแรง ยาพาราเซตามอลแต่เพียงขนานเดียวไม่สามารถรักษาได้แม้ว่าจะใช้เกินขนาดไปเท่าใดก็ตาม ดังนั้นผู้ป่วยที่มีความปวดระดับดังกล่าวห้ามใช้พาราเซตามอลเกินขนาดที่แนะนำเพื่อหวังผลลดปวดและควรพบแพทย์เพื่อรับยาที่เหมาะสมต่อไป

อาการปวดที่มีลักษณะอาการแบบแปลกๆ เช่น อาการปวดโทยทั่วไปที่พาราเซตามอลมีผลรักษาเช่น ปวดตื้อ หรือ กดเจ็บ จากเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบ หรือปวดศีรษะทั่วไป แต่มีอาการบวดบางแบบที่พบได้ในผู้ป่วยเช่น ปวดแสบปวดร้อน เสียวแปลบเป็นพักๆ ปวดเหมือนเข็มเล็กๆทิ่มแทง ปวดเหมือนไฟช๊อต ปวดร้าวไปที่บริเวณอื่นๆ อาการปวดเหล่านี้อาจบ่งถึงอาการปวดจากการที่เส้นประสาททำงานผิดปกติ ปวดร่วมกับอาการชา ยาพาราเซตามอลมีผลน้อยมากในการรักษาอาการดังกล่าว ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเส้นประสาทมักมีอาการเรื้อรังจึงอาจใช้ยาพาราเซตามอลเองเป็นระยะเวลานานซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตับ หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

อาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น การใช้ยาพาราเซตามอลรักษาอาการปวดศีรษะบ่อยๆ โดยเฉพาะการใช้ยามากกว่า 15 วันต่อเดือนประมาณ 2-3 เดือนติดต่อกันจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิด ?โรคปวดศีรษะเหตุใช้ยาเกิน (medication overuse headache)? ดังนั้นผู้ที่อาการปวดศีรษะบ่อยครั้ง เช่นปวดศีรษะไมเกรนมากกว่าเดือนละ 3-4 ครั้ง หรือปวดศีรษะจากความเครียดที่มีลักษณะอาการปวดเหมือนศีรษะถูกบีบรัดมากกว่า 15 วันต่อเดือน ควรปรึกษาบุคคลากรทางการแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนและอาจจำเป็นต้องรับยาอื่นที่ไม่ใช่พาราเซตามองเพื่อป้องกันอาการปวดศีรษะต่อไป

คำแนะนำการใช้ยาพาราเซตามอลในการระงับปวดให้ปลอดภัย คือการรับประทานยาอย่างเคร่งครัดตามที่ได้รับการแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ หรือห้ามใช้เกินขนาดที่แนะนำ

ขนาดยาพาราเซตามอลโดยทั่วไปเมื่อใช้ในการรักษาความปวดเบื้องต้นในผู้ใหญ่คือ 500 มิลลิกรัมครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ใน 1 วัน (24 ชั่วโมง) ไม่เกิน 8 เม็ด (4,000 มิลลิกรัม) จากขนาดยาดังกล่าวสังเกตว่าหากรับประทานครั้งละ 2 เม็ดทุก 4 ชั่วโมง จะเท่ากับ 6,000 มิลลิกรัมซึ่งเกิน 4,000 มิลลิกรัม ให้ระมัดระวังการใช้ยาในขนาดสูงดังกว่า ขนาดยาที่แนะนำในผู้ใหญ่นี้ ใช้สำหรับรักษาความปวดเบื้องต้น แนะนำให้รับประทานติดต่อกันไม่เกิน 5-7 วัน หากจำเป็นต้องใช้นานกว่านี้ควรปรึกษาแพทย์


หายสงสัย!!เวลาปวดเราควรกินยา “พาราเซตามอล” กี่เม็ดกันแน่??


และ ทุกครั้งที่เราอ่านฉลากข้างกระปุกยาพารา มักจะเขียนว่า ผู้ใหญ่ควรทาน 1-2 เม็ด ทุกๆ 4-6 ชั่วโมง หากบางคนจึงจัดไป 2 เม็ด หากเราทานตอน 6 โมงเช้า ทุก 4 ชั่วโมง ครั้งละ 2 เม็ด เท่ากับ 1 วันเราทานไป 10 เม็ด ซึ่งดูแล้วเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

แล้วทำไมหลายคนถึงเลือกที่ทานครั้งละ 2 เม็ด? เหตุด้วยว่าเริ่มมาจากที่บางคนมีอาการปวดหัวมาก คิดไปเองว่าพาราเม็ดเดียวไม่น่าจะเอาอยู่ เลยซัดไป 2 เม็ดแบบไม่คิดอะไรมาก เพราะเห็นว่าที่ฉลากเขียนว่ารับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ครั้งละ 1 เม็ด ก็เพียงพอต่อการบรรเทาอาการปวดได้

นอกจากนี้ การรับประทานยาพาราเซตามอลมากเกินไป หรือติดต่อกันนานเกินไป ยังอาจทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคตับอักเสบได้อีกด้วย

หายสงสัย!!เวลาปวดเราควรกินยา “พาราเซตามอล” กี่เม็ดกันแน่??


ขอบคุณข้อมูลข่าวสารดีๆ จาก > > thaihealth


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์