อึ๋มก็กลุ้ม-ไม่อึ๋มก็กลุ้ม

อึ๋มก็กลุ้ม-ไม่อึ๋มก็กลุ้ม


อึ๋มก็กลุ้ม-ไม่อึ๋มก็กลุ้ม ตัดเต้า-เสริมเต้า กังวลกาย ป่วนจิต


เป็นประเด็นต่อเนื่องจากกรณี “ชายใจหญิงตัดอัณฑะ” ที่ก็ฮือฮาไม่น้อย...สำหรับกรณี “หญิงใจชายตัดเต้า” แต่จริง ๆ แล้วกรณีหลังนี่ก็มิใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งจะเกิดในช่วงนี้ กรณีนี้เกิดมานานระยะหนึ่งแล้ว
 
“ตัดเต้า” ก็เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ “ไม่พอใจเต้า” 
 
ไม่แน่ว่าต่อไปอาจเป็นเรื่องธรรมดาเหมือน “เสริมเต้า”
 
“เสริมเต้า” และ “ตัดเต้า” ผิวเผินอาจจะเป็นเรื่องทางกาย ของหญิงใจหญิงที่ไม่พอใจในความไม่อึ๋มของตนเอง และของหญิงใจชายที่รู้สึกรับไม่ได้ที่ตัวเองอึ๋ม แต่เรื่องนี้ลึก ๆ แล้ว “เกี่ยวกับจิต” ด้วย !!
 
กับกรณีเสริมเต้านั้น ก่อนหน้านี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เคยสะท้อนผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ ประมาณว่า... เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่มีความละเอียดอ่อนทางสรีระมากกว่าผู้ชาย เช่น สัดส่วน, น้ำหนัก และ “เต้า” ซึ่งใครที่รู้สึกว่าตนเองเป็นหรือมีไม่สมบูรณ์ก็มักจะไม่พึงใจ
 
“ผู้หญิงมักกล้าเจ็บตัว และกล้าลงทุนมากกว่าผู้ชาย” ...นพ.ทวีศิลป์ระบุ และยังบอกอีกว่า... คนที่หมกมุ่นกับการสร้างความสนใจ-ดึงดูดใจเพศตรงข้ามมากเกินไป หรือยึดติดกับร่างกายจนเกินพอดี ไม่ว่าหญิงหรือชาย ดีไม่ดีอาจจะส่งผลให้เกิด “อาการทางจิต” ได้ ซึ่งถึงจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดเป็นโรคจิต แต่ก็ทำให้เกิดความรู้สึก “ไม่พอใจสรีระตัวเอง” “หงุดหงิด” “วิตกจริต” จนอาจเป็นเหยื่อตุ๋น มีค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น
 
“บางรายเสียเงินผ่าตัดมา 10-20 ครั้งก็ยังไม่พอใจ”
 
อย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้บางครั้งก็ไม่ได้เกิดจากความรู้สึกภายใน แต่เกิดจากการ “ถูกเร้า” จากปัจจัยภายนอก เช่นจากภาพของนักร้อง, นักแสดง, นางแบบ ที่สื่อออกมา ทำให้เกิดทัศนคติ ค่านิยม รวมทั้งบุคคลรอบข้างก็มีส่วนกระตุ้นให้รู้สึกว่าสังคมยอมรับผู้หญิงที่รูปร่างดี มีส่วนโค้งส่วนเว้าดึงดูดใจ รวมถึง “อึ๋ม”
 
“นี่เป็นเรื่องที่สังคมควรต้องมาทำความเข้าใจร่วมกัน ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับรูปร่าง มาเป็นค่านิยมที่ชื่นชมเรื่องความสามารถจะดีกว่า” ...นพ.ทวีศิลป์ว่าไว้อย่างนี้
 
ขณะที่คนที่ทำงานเกี่ยวกับผู้หญิงอย่าง พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้ประสานงานโครงการสตรีของฟอรั่มเอเซีย ก็เคยสะท้อนเรื่องการ “เสริมเต้า- เสริมอึ๋ม” ของผู้หญิงไว้ว่า... เพราะการมองความสวยงามของผู้หญิงในสายตาผู้ชายไทยนั้น แทบจะมีระดับเดียวคือ... “ต้องขาว ต้องอึ๋ม ต้องเซ็กซี่ ถึงจะเป็นผู้หญิงที่ดูดี”
 
ผู้ชายไทยกลุ่มหนึ่งจะตั้งคำถามกับแฟนตัวเอง เช่น ทำไมเธอไม่หุ่นดีเหมือนคนนั้น ? ทำไมเธอไม่มีหน้าอกเหมือนคนนี้ ? จุดนี้มัน “กดดัน” จนทำให้เป็นภาระของผู้หญิงที่จะต้องทำตัวให้เหมือนกับคนที่ผู้ชายหรือสังคมคิดว่าคือสิ่งที่ดี จนผู้หญิงไทยจำนวนไม่น้อยยอมเสี่ยง-ยอมจ่ายแพง ๆ เพื่อปรับปรุงสรีระ-เพื่อทำอึ๋ม
 
“แต่ก็คงต้องยอมรับความจริงในบางด้านด้วย คือแม้ผู้ชายชอบมองผู้หญิงแต่เรื่องเพศ แต่ขณะเดียวกันผู้หญิงบางกลุ่มเองก็สนใจเรื่องเสริมความงามเพื่อดึงดูดใจในเรื่องเพศเช่นกัน” “ผู้ชายก็เป็นเหยื่อ ผู้หญิงก็เป็นเหยื่อ ทางแก้ไขคือต้องพยายามสร้างสังคมในภาพรวมให้มีกระแสทางเลือกด้านความสวยความงามมากกว่านี้ ไม่ใช่มีกระแสเดียวอย่างทุกวันนี้” ...คนทำงานด้านผู้หญิงระบุ
 
จาก “เสริมเต้า” เปลี่ยนฟากมาดูที่ “ตัดเต้า” ที่มีข่าวหญิงไทยใจชาย หรือ “ทอม” นิยมทำ ซึ่งเรื่องนี้มีมานานแล้ว รายที่เคยฮือฮาก็คือเมื่อเดือน ส.ค. ปี 2549 มีข่าวว่าอดีตนางงามรายหนึ่งที่ค้นพบตัวเองว่า “รักหล่อ” มากกว่ารักสวยรักงาม ตัดสินใจ “ตัดเต้าทิ้ง” แถมล่าสุดมีข่าวว่าแปลงเพศเป็นชายเลยด้วย !! 
 
ทั้งนี้ นักจิตวิทยาชื่อดัง ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม ก็เคยสะท้อนเรื่องนี้ผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” โดยบอกว่า... คนที่เป็นทอมนั้นจะเป็นกลุ่มที่ไม่ชอบที่จะมีร่างกายแบบผู้หญิง ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น เพราะฉะนั้นจึงพยายามจะทำให้ร่างกายของตัวเองไม่เหมือนผู้หญิง พยายามทำให้คล้ายผู้ชายมากที่สุด
 
และยิ่งกระแสสังคมไทยดำเนินมาถึงยุคที่เรียกว่าเป็น “ยุคเพศเสรี” ก็ทำให้คนกลุ่มที่มีจิตใจมิใช่ชายจริง-หญิงแท้ กล้าแสดงออก-กล้าเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองกันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งบางคนอาจจะรู้ตัวเองมานานแล้วว่ามีจิตใจตรงข้ามกับร่างกาย แต่ที่ผ่านมานั้นยังไม่กล้าที่จะแสดงออก อาจจะเป็นเพราะมีสาเหตุหลาย ๆ อย่าง จึงต้องรอเวลา แต่ก็มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่นานแล้ว พอถึงจุดที่พร้อมก็ทำ
 
“ถึงจุดหนึ่งที่ทนไม่ไหว ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และมองว่าทุกอย่างก็พร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การแพทย์ และสังคมที่ยอมรับมากขึ้น จึงทำอย่างที่ใจปรารถนา” ...ดร.วัลลภระบุ ซึ่งนี่ก็หมายรวมถึงการยอมเสียเงินหลักแสน หรือล่าสุดมีข่าวว่าลดลงเหลือประมาณ 5 หมื่นบาท เพื่อ “ตัดเต้า”
 
“ถ้ารู้สึกดีที่เอาส่วนที่เกินออกจากร่างกายได้ และไม่มีปัญหาอะไร ก็ดีไป แต่บางรายหากเกิดมีอาการทางด้านจิตใจ เกิดการลังเลสับสน ก็จะแย่” ...นักจิตวิทยาคนเดิมกล่าว ซึ่งประเด็นนี้มิใช่เฉพาะการตัดเต้า แต่ยังหมายรวมถึงการแปลงเพศจากหญิงเป็นชาย ซึ่งหญิงไทยหัวใจชายจำนวนหนึ่งก็ทำ-อยากจะทำ
 
ว่ากันเรื่องของ “เต้า” บางคน “ไม่อึ๋มเลยกลุ้มใจ”
 
แต่กับบางคน “ไม่อยากอึ๋มแต่ดันอึ๋มก็เลยกลุ้ม
 
ตัดสินใจเสริม-ตัดสินใจตัด “ไม่ถูก-อาจเสี่ยง
 
เรื่องนี้ก็ “เกี่ยวกับจิต” คิดกันให้รอบคอบ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์