เคล็ดลับสุขภาพดีรับปีใหม่


"การเลือกซื้อเนื้อสัตว์ตามตลาดนัด ที่เปิดกันเกลื่อนทั้งในตัวเมืองและชานเมือง หากเนื้อสัตว์ถูกส่งมา จากโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือที่เรียกกันว่าเขียงเถื่อน ไม่มีสัตวแพทย์ควบคุมขณะปฏิบัติการ ผู้บริโภคอาจเสี่ยงเป็นโรคพยาธิใบไม้ในตับได้"


เคล็ดลับสุขภาพดีรับปีใหม่


ช่วงนี้หลายคนคงเตรียมเมนูต้อนรับงานฉลองปีใหม่ จนอาจมองข้ามความสำคัญ ของการคัดสรรคุณภาพวัตถุดิบ ที่จะนำมาประกอบเป็นอาหาร ใช่ว่าไปซื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วจะปลอดภัย ไม่ต้องล้าง ไม่ต้องแช่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ซื้ออาหารจากตลาดนัด หรือซูเปอร์มาร์เก็ตต้องทำความสะอาดตามสูตร 

รศ.ดร.วิสิฐ จะวะสิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า การเลือกซื้อวัตถุดิบสำหรับนำมาประกอบอาหาร นับเป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง หากเลือกไม่ดี คุณภาพไม่คับแก้วแล้ว ผลที่ได้คือร่างกายจะเกิดการสะสมไปเรื่อย จนกระทั่งฟักตัวเป็นโรคร้ายก่อกวนใจในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม และเผ็ดร้อนเกินความจำเป็นของร่างกาย 

"ปกติอาหารจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ อาหารแห้ง และอาหารสด การเลือกซื้ออาหารแต่ละประเภทนั้นมีความจำเป็นที่ต้องดูตั้งแต่สิ่งแวดล้อมภายนอกของร้าน เช่น ความสะอาดร้าน อากาศโดยรอบว่าถ่ายเทสะดวกหรือไม่ พื้นที่หน้าร้านมีน้ำเจิ่งนองตลอดเวลาหรือว่าแห้งสะอาด" ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ แนะแนว 

สิ่งที่ต้องดูถัดมาก่อนซื้อ เช่น ระบบการขนส่งว่ามีบรรจุหีบห่อดีหรือไม่ สุขลักษณะของพื้นที่จัดวางจำหน่ายสินค้า มีแมลงวันตอมหรือวางไว้ใกล้พื้นที่เดินหรือไม่ อาหารที่ต้องแช่เย็นขณะขาย เช่น ผักบางชนิด เต้าหู้ แหนม นม โยเกิร์ต เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ หรืออาหารชนิดอื่นๆ ที่ต้องผ่านการพาสเจอร์ไรซ์เก็บในอุณหภูมิเหมาะสมหรือเปล่า ผู้บริโภคต้องหมั่นสังเกตดูอุณหภูมิที่ร้านกำหนดไว้ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะถ้าซื้อไปโดยไม่ดูให้ดีของที่ซื้ออาจบูดเน่าก่อนเวลาที่ควรเป็นก็ได้ 

"สิ่งสำคัญสุดที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคือ สารเคมีที่เกษตรกรฉีดพ่นเพื่อป้องกันแมลง เร่งความสด กรอบให้ผัก ผลไม้ หรือแม้แต่สารเร่งสี ยืดอายุในเนื้อสัตว์ ผู้ซื้อต้องไม่ยึดถือกับรูปลักษณ์ที่ดูดีของสินค้าจนเกินไป เช่น สีสดสวย ใบไม่มีรอยหนอนเจาะ หรือเนื้อคุณภาพดีแต่ราคาถูก เพราะอาจจะมีปัญหามาจากที่อื่น เช่น การตีกลับจากต่างประเทศ เป็นต้น" ผู้เชี่ยวชาญสาธยายเคล็ดการซื้ออาหาร 

ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคือ การเลือกซื้อเนื้อสัตว์ตามตลาดนัดที่เปิดกันเกลื่อนทั้งในตัวเมืองและชานเมือง หากเนื้อสัตว์ถูกส่งมาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือที่เรียกกันว่าเขียงเถื่อนไม่มีสัตวแพทย์ควบคุมขณะปฏิบัติการ ผู้บริโภคอาจเสี่ยงเป็นโรคพยาธิใบไม้ในตับได้ 

ปัจจุบัน โรงฆ่าสัตว์ในไทยมีอยู่เกือบหมื่นโรง และมีมากกว่า 100 โรงที่ไม่มีสัตวแพทย์ควบคุม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตามตรวจสอบได้ทั่วถึงทั้งหมด ผู้บริโภคต้องดูแลตัวเองด้วยการพิจารณาวัตถุดิบที่จะซื้อก่อนทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่ร่างกายอาจรับสิ่งไม่ดีเข้าร่างกายด้วยตัวเอง 

ส่วนอาหารแห้งหรืออาหารสำเร็จรูป เช่น ผงปรุงรส ซอสปรุงรส อาหารกระป๋อง ผู้ซื้อควรดูฉลากหรือสัญลักษณ์ อย. ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงดูความสมบูรณ์ของภาชนะที่บรรจุว่ามีความสมบูรณ์หรือไม่ บิดเบี้ยวจากเดิมแค่ไหน ผลิตวันที่เท่าไร หมดอายุวันที่เท่าไรก่อนเลือกซื้อ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีไม่เก่าหรือหมดอายุไปรับประทาน 


เคล็ดลับสุขภาพดีรับปีใหม่


ล้างให้หมดจด 

ถึงแม้ผักและผลไม้ปลอดสารพิษมีให้เลือกซื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง แต่ราคายังสูงกว่าผักทั่วไปหลายเท่าตัว ผู้บริโภคจึงเลือกซื้อผักปกติมากกว่า เพียงแค่ล้างน้ำทำความสะอาดให้มากขึ้นก็รับประทานปลอดภัยเช่นกัน 

การล้างผักและผลไม้ที่ซื้อมาประกอบอาหาร แม่บ้านพ่อบ้านอาจใช้ผงฟู ด่างทับทิม หรือปูนกินหมาก มาผสมน้ำเปล่าสะอาดแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 15-30 นาที ก็สามารถที่จะชะล้างสารเคมีรวมทั้งสารลดการตึงผิวหรือแว็กที่ปนเปื้อนมาได้เช่นกัน 

ส่วนผลไม้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเลือกชนิดที่มีเปลือกหุ้มเพื่อลดความเสี่ยงจากสารตกค้าง เช่น กล้วย ส้ม มังคุด ขนุน มะพร้าว ถ้าเป็นผลไม้จำพวก ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิล องุ่น ที่ชาวสวนมักฉีดยาก่อนเก็บมาขาย ควรล้างทำความสะอาดหลายครั้งเหมือนการล้างผักดังกล่าวที่แนะนำข้างต้น 

ผลไม้ที่มีการเคลือบเงาหรือแว็ก เช่น ส้ม ฝรั่ง เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาด้วยการลดการคายน้ำของผิวผลไม้ สามารถล้างออกได้ด้วยการแช่น้ำ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายผู้บริโภค ต่างจากสารเคมีที่ฉีดเพื่อป้องกันแมลงทำลาย แต่ถ้ากังวลก็ทำความสะอาดให้ดีสามารถรับประทานได้ปกติ 

บอกลาอาหารรสจัด 

เมื่อหาซื้ออาหารที่สะอาดปลอดภัยได้แล้ว การปรุงอาหารมีความสำคัญลำดับต่อมา เมื่อสำรวจดูพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนไทย หลายคนชอบอาหารรสจัดครบสูตรหวาน มัน หรือเค็ม เกินความต้องการของร่างกาย นานวันเข้าโรคภัยไข้เจ็บถามหา 

"ทุกวันนี้คนไทยนิยมบริโภคอาหารที่มีรสชาติหวาน เค็ม มันกันมากขึ้นจนกระทั่งสังคมไทยประสบกับปัญหาภาวะโภชนาการเกิน จึงควรนำผักผลไม้มารับประทานแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะในผัก ผลไม้ปลอดสารพิษหากกินได้ก็ถือว่าดี เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับสารพิษและสะสมในร่างกายได้" รศ.ดร.วิสิฐ ให้ข้อสังเกต 

นอกจากรสเค็ม หวานที่ต้องลดแล้ว ปริมาณไขมันที่ร่างกายต้องการระหว่างวันควรดูแลเพื่อสุขภาพด้วย เพราะปกติร่างกายคนเราต้องการเพียง 30%ของปริมาณพลังงานที่ได้รับทั้งวันเท่านั้น การกินก็ควรเลือกกินให้หลากหลายไม่จำเพาะต้องเป็นชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้นเพื่อป้องกันการสะสมของร่างกาย เช่น นม น้ำมันพืช หรือน้ำมันรำข้าว เป็นต้น 

หากรับประทานได้ครบทั้ง 5 หมู่ เช่น เนื้อ นม ไข่ ผักและผลไม้แล้ว อาหารเสริมที่มีการโฆษณากันตูมตามก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปซื้อหามากิน ยกเว้นผู้ที่มีโรคประจำตัวและแพทย์แนะนำให้รับประทานเพื่อเป็นอาหารเสริมสุขภาพ เพราะจะกลายเป็นว่าร่างกายได้รับเกินความพอดี 

นอกจากนี้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงยังมีจำพวกของหมักดอง เพราะผลการศึกษาให้หนูได้รับขัณฑสกรต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน พบว่าส่งผลให้ก่อเป็นมะเร็งได้ในอนาคต 

"ร่างกายที่จะแข็งแรงควรพักผ่อนด้วยการนอนหลับสนิทอย่างน้อย 5-7 ชั่วโมงต่อวัน ประกอบกับการออกกำลังกายประมาณ 30-60 นาทีเป็นประจำทุกวัน และสัมผัสกับแสงแดดบ้างอย่างน้อยวันละ 10-15 นาที โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้ชีวิตทำงานอยู่แต่ในออฟฟิศ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดี ไปเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกบ้าง" ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล บอกเคล็ดสุขภาพดีปีใหม่




ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์