เจตนาดีกับลมปาก

เจตนาดีกับลมปาก


ในยุคที่การลดความอ้วนเป็นแฟชั่น หลายคนดีใจเมื่อเพื่อนทักว่า

"คุณผอมลงนะ" คนขับแท็กซี่หลายคนชอบเปิดเพลงในรถ ด้วยเจตนาดีที่หวังบริการลูกค้ามากกว่าแค่การไปถึงจุดหมาย เพื่อนร่วมงานไม่น้อยชอบเปิดเพลงดัง ด้วยเจตนาดีหวังให้คนอื่นได้อิ่มเอิบกับดนตรีด้วย

ฝรั่งมีวลีหนึ่งว่า

Take it for granted หมายถึง  การทึกทักเอาเองว่าอีกฝ่ายหนึ่งยินยอม เช่น หยิบกระดาษบานโต๊ะของเขาไปใช้โดยไม่ขออนุญาตก่อน ตักอาหารให้เขา ตบไหล่ของเขา ฯลฯ


เจตนาดีเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สัมมาวาจาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง


"คุณผอมลงนะ"  : คุณรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายหนึ่งอยากผอม ?


"เมื่อไรคุณจะมีลูก  : คุณรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ป็นหมัน หรือกำลังกลุ้มใจที่ไม่มีลูก ?


"เมื่อไรจะเลิกเช่าบ้านอยู่เสียที ?" : คุณรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีเงินเหลือ


"ชุดสีเขียวไม่เข้ากับคุณเลย" : คุณรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้รักสีเขียวอย่างที่สุด ?


เจตนาดีจะสมบูรณ์เมื่อมาพร้อมสัมมาวาจา
 

"คุณผอมลงนะ" ในความหมายว่าเขาอ้วนเกินไป อาจพูดว่า "คุณดูดีขึ้นนะ"


"คุณผอมลงนะ" ในความหมายว่าเขาผอมเกินไป อาจพูดว่า "ดูแลสุขภาพด้วยนะ อย่ามัวแต่ทำงานล่ะ"


สุนทรภู่เขียนไว้ว่า "อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย" มิได้หมายความว่าเราต้องโกหกตอแหล แต่การเอาใจเขามาใส่ใจเราทำให้เราไม่ไปทำร้ายจิตใจใครโดยไม่รู้ตัว


คำพูดง่ายๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่กลั่นกรองจากใจและปาก อาจช่วยทำให้คนฟังมีความสุขทั้งวันหรืออาจดจำได้ไปตลอดชีวิต และนั่นคือสัมมาวาจาที่แท้จริง


 
จากหนังสือ รอยเท้าเล็กของเราเอง
วินทร์ เลียววาริณ
ตอนหนึ่งในหนังสือ เรื่อง เจตนาดีกับลมปาก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์