เชื้อรา ต้นเหตุที่ทำให้เป็นโรคหอบหืด

เชื้อรา ต้นเหตุที่ทำให้เป็นโรคหอบหืด

ในบ้านที่ไม่ได้มีการทำความสะอาด มักจะพบเชื้อรายึดติดเกาะกับกระเบื้องตามพื้น หรือบ่อยครั้งที่เราพบเห็นเชื้อราค่อย ๆ ลุกลามไปตามผนังห้องน้ำ!! เราอาจคิดว่าเชื้อราเล็กน้อยเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ แต่เชื่อหรือไม่คะว่า มันเป็นสาเหตุสำคัญที่จะทำให้สุขภาพของเราเกิดปัญหาจนกลายเป็นโรคหอบหืดได้

ศาสตราจารย์ Connie Katelaris ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันวิทยาและโรคภูมิแพ้ มหาวิทยาลัย Western Sydney ได้กล่าวว่า “เป็นที่รู้กันว่าเชื้อราทำให้โรคหอบหืดมีอาการรุนแรงขึ้นและก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้อื่น ๆ ในคนที่รู้ว่าแพ้เชื้อรา แต่งานวิจัยใหม่ได้แสดงให้เห็นว่า เชื้อราอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหอบหืดในคนที่มีลักษณะทางพันธุกรรมที่เสี่ยงจะเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ”

ผลจากการศึกษาพบว่า เด็กที่เสี่ยงจะเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากพ่อแม่ที่เป็นโรคภูมิแพ้นั้นจะยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคหอบหืด ถ้าพบเชื้อราบางชนิดอยู่ในบ้าน และพบว่าเชื้อราบางชนิดที่อยู่ในร่มนั้นเป็นสาเหตุุที่จะทำให้เกิดโรคหอบหืดในคนที่มีลักษณะทางพันธุกรรมที่เสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้

เชื้อราจัดอยู่ในอาณาจักรฟังไจ รวมไปถึงพวกเห็ด ยีสต์ ก็จัดอยู่ในอาณาจักรนี้เช่นกัน เชื้อราอาจอยู่ทั่วไปรอบ ๆ ตัวเรา ในอากาศที่เราสูดหายใจหรือปะปนกับฝุ่นที่อยู่ในบ้าน นั่นเป็นเพราะเชื้อราเมื่อเจริญแล้วจะสร้างสปอร์แล้วปล่อยล่องลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ การสูดดมสปอร์เข้าไปในร่างกายก็มีผลเช่นเดียวกันกับการสูดดมไรฝุ่นหรือละอองเกสรนั่นเอง

ผู้ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเสี่ยงต่อการแพ้หากสูดเข้าไปก็จะเกิดปฏิกิริยาตอบสนองขึ้น สปอร์ของเชื้อรานี้จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาของแอนติบอดีชนิดเฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ และกลไกปฏิกิริยาเหล่านี้ อาจนำมาสู่อาการ hey fever คือ คันจมูก คันตา น้ำมูกไหล น้ำตาไหล เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้อาจพัฒนากลายเป็นโรคหอบหืดได้ในที่สุด

เชื้อราจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา ถ้าระบบภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอ เช่น ถ้าได้รับการรักษาทางการแพทย์ หรือการที่ร่างกายเรามีระบบภูมิคุ้มกันลดลง อย่างเป็นโรคซีสติกไฟโบรซีส (Cystic fibrosis) ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม ที่ทำให้ร่างกายสร้างเยื่อเมือกหนามากผิดปกติในปอดและลำไส้ ทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก หรือเป็นโรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ ที่สำคัญคือบางครั้งคนที่ระบบภูมิคุ้มกันถูกบุกรุกนั้นสามารถที่จะพัฒนาการติดเชื้อได้หลังจากที่ได้สูดเอาเชื้อราเข้าไปแล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่เชื้อราเหล่านั้นจะมีสารพิษ หรือผลิตสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา

สาเหตุปัญหาที่เราไม่สามารถกำจัดเชื้อราให้หมดไปได้ เพราะเราไม่สามารถมองเห็นเชื้อราที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเชื้อราที่เกิดขึ้นมานี้อาจมาจากการรั่วไหลของน้ำจากอาคารก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และในบางบริเวณของบ้านนั้นอาจจะเป็นที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดของเชื้อราก็เป็นได้ ถ้าเราปล่อยปะละเลยจะเข้าไปสำรวจตรวจสอบบ้าน

วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับเชื้อราเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นตั้งแต่แรก คือต้องจัดการกับแหล่งที่มาของความชื้นรอบ ๆ บ้านและจัดการกับรูรั่วของหลังคา ท่อประปา หน้าต่างหรือสิ่งอื่น ๆ ที่จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความชื้นเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งภายในบ้านที่มีความชื้นและบริเวณบ้านที่ปิดอับจะทำให้เชื้อราเจริญและเติบโตได้ดี

ที่สำคัญคือห้องน้ำ ห้องซักรีด และห้องครัว รวมไปถึงเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เครื่องอบผ้า เครื่องซักผ้า ทั้งหมดนี้อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดความชื้นและเป็นบริเวณที่ก่อให้เกิดเชื้อราได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเราจึงควรทำให้บริเวณบ้านให้แห้งสนิทและมีอากาศถ่ายเทได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงกำจัดแหล่งน้ำขัง และเปิดประตูหน้าต่าง หรือติดตั้งพัดลมดูดอากาศ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราด้วย

ในการกำจัดรานั้นโดยทั่วไปนิยมใช้สารฟอกขาว ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่นิยมใช้กันมากที่สุด ซึ่งทำลายพื้นผิวที่เราทำความสะอาด ทำให้เชื้อราเจริญลดลงตามลำดับ โดยจะลดประสิทธิภาพการยึดเกาะของเชื้อรา แต่อย่างไรก็ตามสารฟอกขาวที่ขายตามท้องตลาดนั้นบางชนิดทำได้เพียงให้เชื้อรามีสีขาวแต่ไม่ได้ฆ่าเชื้อราได้จริง ๆ ซึ่งหากจำเป็นต้องทำความสะอาดในพื้นที่เล็ก ๆ ที่มีราขึ้น ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ กับผงซักฟอก น้ำส้มสายชู หรือสารละลายแอลกอฮอล์ก็สามารถกำจัดราให้ออกไปได้เช่นกัน

เพราะบ้านคือที่อยู่อาศัยที่เราอยู่ในทุกคืนวัน หากภายในบ้านเต็มไปด้วยแหล่งสะสมเชื้อโรค แน่นอนว่าสุขภาพของเราก็คงหนีไม่พ้นโรคภัยไข้เจ็บที่อาจค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจนพัฒนากลายเป็นโรครุนแรงได้ในที่สุดค่ะ


ขอบคุณ vcharkarn.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์