เตรียม 6 ขั้นตอนก่อนดูดวง

เตรียม 6 ขั้นตอนก่อนดูดวง



6 ขั้นตอนเตรียมตัวเพื่อการดูดวง(กับหมอดูจริงๆ)

บางคนอาจเคยมีปัญหาว่าอยากดูดวง แต่ไม่รู้ต้องทำอย่างไร ต้องเตรียมตัวหรือเปล่า ต้องถามอะไรบ้าง เรื่องอย่างนี้อาจเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับนักดูดวงมืออาชีพ แต่สำหรับมือใหม่หัดดูเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว ผมมีข้อแนะนำให้เป็นแนวทางสำหรับการดูดวงอย่างมืออาชีพ

ขั้นแรก : วันเดือนปีเกิด และเวลาเกิด

ในกรณีที่เราไม่รู้วันและเวลาเกิดเลย ก็คงต้องเลือกดูประเภทไพ่ยิบซี ลายมือ โหว้งเฮ้ง เพราะสามารถพยากรณ์ได้โดยไม่ต้องใช้วันและเวลาเกิดเลย (อย่างไรก็ตามถ้าเรารู้วันเดือนปีเกิด หรืออย่างน้อยอายุของเรา นักพยากรณ์ศาสตร์ประเภทนี้ก็สามารถพยากรณ์ได้แม่นยำมากขึ้น)

ผมแนะนำว่าให้แปลงวันและเวลาเกิดเข้ามาอยู่ในระบบสากลเสียก่อน และก็ต้องบอกหมอดูว่าเราอ้างอิงตามหลักสากลนะ เพื่อป้องกันการสับสนทั้งเราและหมอดู เพราะโหราศาสตร์มีหลายแขนง ซึ่งใช้ปฏิทินแบบสุริยคติ (เช่นเดียวกับปฏิทินที่เราใช้ในปัจจุบัน)
และจันทรคติ (เช่น ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล)

หาเวลาเกิดที่ใกล้เคียงที่สุด พร้อมระบุแหล่งที่มา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบสำหรับหมอดูว่า มีความน่าเชื่อถือได้แค่ไหน ขอย้ำว่าให้แปลงเป็นเวลาสากลเสียก่อนนะครับ เพราะหมอดูบางคนอาจจะไม่ทราบข้อมูล หรือวิธีการแปลง เช่น เวลาเป็น "โมงยาม" ของไทย หรือเวลาเป็น "ซี่" ของจีน รวมถึงเวลาที่ครอบครัวเท่านั้นที่รู้ เช่น ตอนรถไฟกำลังผ่านหน้าบ้านพอดี พ่อพาวัวไปกินหญ้า หรือ แม่กำลังนั่งเล่นไพ่แล้วปวดท้องขึ้นมา ฯลฯ

ขั้นที่ 2 การเลือก หมอดู

หลังจากทดลอง ทดสอบมาหลายศาสตร์ พบปะพูดคุยกับ หมอดู มาก็มาก ตั้งแต่ระดับสุดยอด โหราจารย์ ยันนักเรียนใหม่หัดทาย สุดท้ายผมก็พบว่าจริงๆแล้วศาสตร์การพยากรณ์ทุกแขนงให้ความแม่นยำเที่ยงตรงในการพยากรณ์แทบทั้งสิ้น ความแม่นยำนั้นขึ้นอยู่กับหมอดู ว่าจะเก่งและเชี่ยวชาญเพียงไหน ดังนั้นเราไม่ต้องไปเชื่อคำโฆษณาว่า ศาสตร์นี้แม่นที่สุด แบบนั้นไม่แม่น แบบนี้แม่นกว่า เราเลือกหมอดู ศาสตร์ไหนก็ได้ ให้ถูกกับจริตเรา คือ เราชอบ เท่านั้นพอ
ในปัจจุบันเราสามารถหาข้อมูลสถานที่ติดต่อ และเบอร์โทรศัพท์ของหมอดูได้ไม่ยาก ทั้งจากเวปไซต์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร สถานที่ประจำที่เรารู้จักกันทั่วไป เช่น ท่าพระจันทร์ วัด สมาคมที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ทั่วไป รวมถึง AudioText 1900<

แต่วิธีการที่ผมแนะนำมากที่สุด คือการให้ลองสอบถามจากเพื่อน หรือคนรู้จักว่าประทับใจ หมอดูท่านไหนบ้าง เพื่อเราสามารถตรวจสอบลักษณะเบื้องต้นของ หมอดู ได้ ว่าเราถูกใจหรือไม่ ผมพอจะ สรุปลักษณะของ " หมอดู " ที่ดี ได้ดังนี้

- ใช้หลักในพยากรณ์ทำนาย จริงๆ ไม่ใช่เป็นอวดอ้างอิทธิฤทธิ หรือปาฏิหาริย์
- มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการพยากรณ์ มากน้อยขึ้นอยู่กับระดับความสำคัญของเรื่องที่ต้องการปรึกษา
- ใช้ภาษาทั่วไปที่เข้าใจง่าย ไม่พูดศัพท์เทคนิคจนเราฟังไม่รู้เรื่อง งง และสับสน
- ไม่เป็นคนตัดสิน หรือกำหนดชะตาชีวิต หรือทางเลือกให้เรา แต่เป็นผู้ให้ข้อมูลเหตุการณ์ หรือแนวโน้มของเหตุการณ์ในอนาคตที่เราจะเผชิญ
- พร้อมให้เราสอบถามเพิ่มเติมได้ตามสมควร ไม่เรื่องมาก หรือหงุดหงิดใส่เรา
- และสุดท้าย อัตราค่าบริการสมเหตุสมผล เหมาะสมกับฐานะ และความพึงพอใจของเรา

ขั้นที่ 3 ถามอะไรดี

ผมรวบรวมคำถามทั่วไปยอดฮิตในการ ดูดวง มาให้ เพื่อเป็นแนวทางในการถามของไว้ตามหมวดหมู่ดังนี้

* ธุรกิจ และการเงิน
o จะรวยไหม สุดยอดคำถามอันดับ 1
o สามารถขอกู้ หรือหาหุ้นส่วนได้ไหม
o ธุรกิจจะมีปัญหาการเงินหรือไม่ ตอนไหน
o ช่วงไหนเหมาะสมในการขยายธุรกิจ
o ธุรกิจไหนเหมาะสมกับดวงชะตา
o ลูกหนี้จะเบี้ยวไหม เก็บหนี้ได้หรือเปล่า
o ซื้อ/ขาย ที่ดิน หรือสินทรัพย์ได้ไหม

* การงานและอาชีพ
o ทำอะไรรวย สุดยอดคำถามอันดับ 1
o งานที่เหมาะสมกับดวงชะตา
o เปลี่ยนงานได้ไหม เปลี่ยนแล้วดีไหม
o ได้เลื่อนตำแหน่งเมื่อไร

* การศึกษา
o เข้าเรียนต่อได้ไหม
o เรียนคณะไหนดี
o มีเกณฑ์เรียนต่างประเทศไหม
o ได้ทุนเรียนหรือเปล่า

* ครอบครัว
o เมื่อไรมีลูก หรือความสามารถในการมีลูก
o ปัญหาภายในครอบครัว หรือในเครือญาติ
o ทรัพย์สมบัติ หรือมรดก

* ความรัก และการแต่งงาน
o เมื่อไรจะมีแฟน
o เมื่อไรแต่งงาน
o แนวโน้มความรักในปัจจุบัน
o ลักษณะแฟน หรือเนื้อคู่
o ปัญหา หรือประเด็นสำคัญในชีวิตคู่

* สุขภาพ
o สุขภาพทั่วไป ต้องระวังอะไรบ้าง
o เกณฑ์การผ่าตัด หรืออุบัติเหตุ

* ทั่วไป
o เกณฑ์ท่องเที่ยว หรือการเดินทางไกล

ขั้นที่ 4 การให้ข้อมูล และสอบถามระหว่างการพยากรณ์

ในการพยากรณ์ หมอดูมักจะเริ่มต้นจากการทำนายพื้นดวงชะตาของเรา พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลว่าถูกต้องหรือไม่ เราควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนแก่หมอดูเมื่อถูกสอบถาม ไม่ตอบแบบอ้อม หรือไม่ตรงประเด็น
เพราะหมอดูจะสอบเทียบดูปัจจัยในดวงชะตา กับการดำเนินชีวิตของเรา ว่าปัจจัยอะไรส่งผลสำคัญต่อเจ้าชะตา ดังนั้นข้อมูลที่ถูกต้องมีความสำคัญมาก ทำให้การพยากรณ์นั้นแม่นยำมากขึ้น และเนื่องจากความหมายในการพยากรณ์นั้น จะอยู่ในภาษาของสัญลักษณ์ หรือ ปรัชญา ซึ่งสามารถตีความ หรือสื่อความหมายได้หลายรูปแบบ ดังนั้นเมื่อหมอดูออกคำพยากรณ์ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราก็ควรให้ข้อมูลตามสถานการณ์จริงในปัจจุบันประกอบ หมอดูจะสามารถถอดความหมายในการพยากรณ์นั้น
ให้สอดคล้องกับเหตุการณ์จริงในปัจจุบันมากขึ้น และเราควรสอบถามกับหมอดูเพิ่มเติมว่า นอกจากเรื่องที่บอกมาแล้วนั้นสามารถเป็นเรื่องใด หรือเหตุการณ์ลักษณะใดได้อีก

ขั้นที่ 5 การจดบันทึก หรือการบันทึกเทป

การจดบันทึกสามารถทำได้อยู่แล้ว ปัจจุบันกลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว เพราะเห็นบางที่มีบริการทั้งกระดาษ ปากกา ดินสอ ลูกค้าแทบไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลย การบันทึกให้แบ่งเป็นหัวเรื่องไว้ให้เข้าใจง่าย เช่น พื้นดวง คำทำนาย 3 เดือน คำทำนายในปีนี้ คำทำนายในปีหน้า เป็นต้น ควรจดบันทึกเฉพาะประเด็นสำคัญ พร้อมรายละเอียดหลักพอประมาณ ไม่จำเป็นต้องจดทุกคำก็ได้ เพราะเมื่อหมอดูเริ่มพยากรณ์ ผมไม่แนะนำให้ขัดจังหวะ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมก็ควรรอให้จบประเด็นนั้นเสียก่อน ส่วนเรื่องการบันทึกเทป ปกติไม่ได้มีกฏกติกาหรือข้อห้ามแต่ประการใด แต่เพื่อป้องกันปัญหา หรือข้อพิพาทใดๆ ที่อาจจะเกิดได้ เราควรสอบถามกับหมอดูเสียก่อนว่าสามารถบันทึกเทปได้หรือไม่

ขั้นที่ 6 เราคือผู้ตัดสินใจ

สุดท้าย ผมขอย้ำว่าหมอดูไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะสามารถล่วงรู้ทุกเรื่อง สิ่งที่หมอดูทำ คือ ให้การปรึกษาแก่เราเรื่องแนวโน้มชีวิตในอนาคตของเรา จากการแปลภาษาของดาว หรือสัญลักษณ์ที่ใช้ในการพยากรณ์ ตามช่วงเวลาที่เราประสงค์หรือสนใจ ให้อยู่ในรูปแบบภาษามนุษย์ เราเป็นผู้ตัดสินใจ หรือดำเนินการตามคำปรึกษานั้นนะครับ ไม่ใช่หมอดูเป็นผู้กำหนดชีวิตชะตาชีวิตเรา


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์