เตือนภัย : ระวังมิจฉาชีพตัวร้ายใน บีทีเอส

ภาพประกอบอินเตอร์เน็ตภาพประกอบอินเตอร์เน็ต


พูดไปใครจะเชื่อคะว่าที่ที่มีคนพลุกพล่านอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอสจะมีพวกมิจฉาชีพคอยฉวยโอกาสหาผลประโยชน์จากเราอยู่ และเจ้ามิจฉาชีพตัวร้ายพวกนี้จะแฝงมาในคราบของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสอย่างพวกเรานี่ล่ะค่ะ เราแทบจะไม่มีทางทราบได้เลยว่าคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เรานั้นจะเป็นพวกมิจฉาชีพหรือไม่

ภาพนี้สำหรับประกอบบทความเท่านั้น


     เรื่องที่จะนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังนั้น เป็นเรื่องของผู้หญิงคนนึงที่เจอกับมิจฉาชีพในคราบของผู้ใช้บริการบีทีเอส และต้องบอกเลยว่าเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนจริงๆ ถ้าเราไม่ได้ระวังตัว


     ... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสยาม อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นสถานีที่มีคนพลุกพล่าน ผู้คนวิ่งเข้า-ออกรถไฟฟ้าด้วยความรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา น้องเอ(นามสมมุติ)เล่าว่า วันนั้นพอรถไฟฟ้ามาจอดเทียบชานชาลา น้องเอก็รอจนคนลงหมดแล้วเดินเข้าไปในตัวรถพร้อมกับมองหาที่ยืนสำหรับตัวเอง


     ช่วงเวลาดังกล่าวปรากฏว่า มีผู้ชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 19-20 ปี ใส่กางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืด ถือกล่องกระดาษใบหนึ่งท่าทางหนักมาก เดินขึ้นมาในขบวนรถ แล้วชนบริเวณด้านหลังของเธอ ซึ่งก็ไม่ได้ชนแรงอะไร แต่เธอเองก็รู้สึกว่ามีอะไรมาโดนที่หลัง ซึ่งตอนนั้นเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ผู้ชายคนนั้นกลับตะโกนว่า "คุณชนผม" ด้วยสัญชาตญาณน้องเอก็หันไปกล่าวคำขอโทษ เพราะเห็นเขาถือกล่องใบใหญ่อยู่


     แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น ... เพราะ ผู้ชายคนนั้นทรุดตัวลงวางของแล้วลงไปนอนกับพื้น แสดงอาการเสมือนว่า บาดเจ็บสาหัส น้องเอก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรเพราะการเดินกระทบกันแค่นั้นไม่น่าจะทำให้ได้รับบาดเจ็บอะไรได้ แต่เขาร้องโอดโอยเหมือนใกล้ตาย จนคนที่นั่งอยู่บริเวณใกล้เคียงทนไม่ไหว ลุกลงไปพยุงขึ้นมานั่งที่เก้าอี้ แล้วถามเขาว่าเป็นอะไร เขาก็ชี้มาที่เธอว่าเป็นคนชนเขาล้มจนได้รับบาดเจ็บสาหัส


     ผู้โดยสารทุกคนในรถก็คงตกใจเช่นเดียวกันว่าทำไมชนกันแค่นี้ถึงกับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้เลยหรือ???


     และตอนนั้นก็มีชายมีน้ำใจคนนึงที่ลุกขึ้นไปให้ความช่วยเหลือชายหนุ่มคนนั้น ชายมีน้ำใจเข้าไปดูที่บริเวณหัวเข่าที่ชายหนุ่มคนนั้นบอกว่าเจ็บมากเพื่อดูว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก็ไม่มีรอยแผลอะไร มีเพียงรอยแดงเหมือนคนนั่งคุกเข่า แต่เขาก็บอกว่าเขาเจ็บมากเหมือนขาเขาหัก ชายมีน้ำใจก็สงสัยจึงถามต่อว่า ขาของคุณ มีปัญหาหรือเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า ชายหนุ่มคนนั้นก็บอกว่า เขาเคยขาหัก


     ชายมีน้ำใจคนนั้นจึงตะโกนว่า "ในรถคันนี้มีใครเป็นหมอหรือพยาบาลบ้าง มีคนหกล้มได้รับบาดเจ็บช่วยเข้ามาดูหน่อย"


     ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่บริเวณประตูอีกด้านหนึ่งก็เดินเข้ามาดู และก็มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่บริเวณนั้นก็พูดเสริมขึ้นว่า เขาอาจจะมีโรคประจำตัว พอเจออย่างนี้ก็อาจจะวูบลงไปได้ เพราะตัวเขาเองเคยเป็นเช่นนี้ต้องนอนโรงพยาบาลตั้ง 3 วัน ผู้ชายคนนี้อาจจะมีปัญหามาก่อน แล้วต้องถือของหนักก็อาจจะได้รับบาดเจ็บได้


     ผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็พูดขึ้นมา ถ้าเจ็บมากขนาดนี้ก็ไปโรงพยาบาลดีกว่า ผู้บาดเจ็บก็พูดสวนขึ้นมาทันควันว่า "ผมไม่ไปโรงพยาบาลหรอก ผมยังเป็นนักศึกษาไม่มีสตางค์ ถ้าไปโรงพยาบาลก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง ผู้หญิงคนนี้ชนผมต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผม แล้วต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ด้วย เพราะของๆ เขาได้รับความเสียหาย กล่องที่ถือมาเป็นจอคอมพิวเตอร์ แอลซีดีที่ต้องนำไปให้คนอื่นไม่ใช่ของตัวเอง"


     จากเหตุการณ์ที่เกิดน้องเอไม่ได้พูดอะไร แต่เธอรู้สึกช็อก!!! แต่หลายคนที่อยู่บนรถไฟฟ้า รวมถึงผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือชายหนุ่มคนนั้นก็บอกกับเขาว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ชน คุณเดินเข้ามาแล้วล้มลงไปเอง แต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังยืนยันว่า น้องเอเดินชนเขาจนได้รับบาดเจ็บ ข้าวของเสียหายและจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับเขา


     ... ผู้ชาย 2 คนที่ยืนข้างๆ น้องเอก็กระซิบให้เธอลงจากรถเมื่อถึงสถานีต่อไป ไม่ต้องไปโต้เถียงกับชายหนุ่มคนนั้น พอใกล้ถึงต่อไปสถานี เด็กหนุ่มผู้ที่บอกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บอย่างหนักก็ตะโกนว่า "มันจะหนีไปแล้ว เดินชนผม ทำของผมเสียหายแล้วหนี"


     พอถึงสถานีราชเทวี น้องเอจึงรีบเดินออกจากรถคันนั้นไป พร้อมกับโทรศัพท์เล่าเรื่องให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อนๆของน้องเอทุกคนต่างตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นขบวนการมิจฉาชีพ เพราะมีข้อพิรุธมากมาย


     เห็นมั้ยล่ะครับว่าเดี๋ยวนี้พวกมิจฉาชีพทั้งหลายจะมีวิธีการในการหลอกลวงที่แฝงมาในหลากหลายรูปแบบ ถ้าหากเพื่อน ๆ  พบเจอเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว แนะนำให้เพื่อน ๆ  โวยวาย ณ ตอนที่กำลังเกิดเหตุเลยค่ะ ถ้าเราแน่ใจว่าเค้าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน ให้ตะโกนบอกคนรอบข้างเลยว่า คนๆ นี้มีพิรุธเค้าอาจเป็นมิจฉาชีพ อย่าไปอายใคร เพราะถ้าเพื่อน ๆ  อายพวกมิจฉาชีพพวกนี้ก็จะลอยนวลไปก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีกก็ได้


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์