เตือนสาวออฟฟิศปวดล้าถึงปลายประสาท

เตือนสาวออฟฟิศปวดล้าถึงปลายประสาท

ดร.มนต์ทณัฐ โรจนาศรีรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ไคโรเมด สหคลินิก แนะนำการดูแลโครงสร้างร่างกายของสาวๆ ในยุคนี้ ว่า พฤติกรรมของผู้หญิงในปัจจุบันมีความเสี่ยงต่ออาการปวดของกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ รวมไปถึงการเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือเสื่อมและบานปลายจนกลายเป็นการกดทับของเส้นประสาทในที่สุด

สาเหตุเกิดได้ทั้งจากพฤติกรรมการใส่รองเท้าส้น สูงมากกว่า 2 นิ้วขึ้นไป การนั่งทำงานนานๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมง การนั่งขับรถนานๆ ตลอดจนการเดินช็อปปิ้งติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโครงสร้างร่างกายโดยรวมทั้งสิ้น

"คนส่วนใหญ่ ร้อยละ 70 มีลักษณะโครงสร้างที่เสียสมดุล มีฝ่าเท้าผิดรูปสังเกตจากการรับน้ำหนักของเท้าทั้งสองข้างว่าเท่ากันหรือไม่หรือเวลาที่เท้า เปียก วางเท้าบนผ้าเช็ดเท้า แล้วดูว่า รอยเท้าเต็มหรือมีส่วนเว้ามากน้อยเพียงใด ผู้ที่มีรอยเท้าเต็มน้ำหนักจะลงไปที่ด้านในมากเกินไป ดังนั้นการเลือกรองเท้าจึงมีความสำคัญ ควรเลือกรองเท้าที่รองรับอุ้งเท้าเต็มที่ เพื่อรับน้ำหนักร่างกายอย่างสมดุล สำหรับท่านั่งทำงาน หรือการใช้คอมพิวเตอร์นานๆ ควรเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ที่ยึดเกร็งเป็นเวลานาน"

ผลการวิจัยของนักวิจัยมหาวิทยาลัยไอโอวาสหรัฐ พบว่า การเดินด้วยรองเท้าส้นสูง ทำให้เกิดแรงกดที่ข้อเท้า แรงกระแทกจะเคลื่อนขึ้นไปกดดันภายในหัวเข่า นานเกินไปจะทำให้ข้อเสื่อม นอกจากนี้ผู้ที่ใส่รองเท้าที่มีความสูงมากกว่า 2 นิ้วจะทำให้ข้อต่างๆ เปลี่ยนตำแหน่งไป เช่น ตาตุ่ม เข่าสะโพก และลำตัว ทำให้เกิดแรงเค้นที่แผ่นหลังส่วนล่าง ทำให้โครงสร้างเสียสภาพจากแนวที่สมดุล ก่อให้เกิดการรับน้ำหนักที่มากเกินไปของกระดูกข้อและกล้ามเนื้อ

เตือนสาวออฟฟิศปวดล้าถึงปลายประสาท

อาการที่เริ่มแสดงออกในช่วงแรก จะเป็นอาการปวดล้า ตึง เมื่อผ่านระยะเวลา 3 เดือนขึ้นไป มักจะเป็นมากขึ้น ถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้น รวมถึงรู้สึกอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เพราะว่าใช้ร่างกายหนักจนเกินไป ต้องพักผ่อนและออกกำลังกายอย่างถูกวิธี ให้ร่างกายผ่อนคลายบ้าง

อาการในระยะแรกจะเป็นอาการปวดกล้ามเนื้อ จากนั้นจะส่งกระทบต่อหมอนรองกระดูกและข้อเสื่อม และเมื่ออาการเรื้อรังไปนานๆ จะทำให้ระบบเส้นประสาทบริเวณปลายประสาทเกิดการอักเสบได้

การนวดสปาเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เมื่อนวดอาการจะดีขึ้น แต่เมื่อใช้ชีวิตตามปกติไป โดยไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันจะทำให้อาการกลับมาแย่ลงเช่นเดิม ดังนั้น จึงควรปรับเปลี่ยนความเคยชินในการใช้ชีวิตใหม่ อาทิ การเลือกใส่ส้นสูงก็ควรใส่ไม่เกิน 2 นิ้ว เมื่อสะพายกระเป๋าหนัก ให้สลับข้างอย่าให้น้ำหนักของกระเป๋ากดอยู่บนไหล่ข้างเดียวนานเกินไป เวลานั่งทำงานนานๆ หรือนั่งประชุมนานๆ ให้เปลี่ยนอิริยาบถ เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายจากอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการปวดมาก หรือคิดว่ามีความผิดปกติของร่างกาย ควรที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมจะดีกว่า ซึ่งที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของอาการปวดในผู้หญิงทำงาน






ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของสสส. และ วิชาการดอทคอม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์