เทศกิจพิทักษ์นักเรียน


สกัดเด็กหลงทาง... สร้างสำนึกก่อนสาย!!

ภาพเด็กนักเรียนชายหญิงเดินเตร็ดเตร่อยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ในเวลาเรียน ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ สวนสนุก โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ล้วนเป็นภาพที่ชินตาใครหลายคนไปแล้วแต่พฤติกรรม เหล่านี้ไม่ใช่หรือที่เราเรียกกันว่า
เด็กหนีเรียน  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย
   
ในสังคมปัจจุบันมีการเจริญเติบโตในด้านการพาณิชย์และเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
มีห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ร้านอินเทอร์เน็ต และสถานบริการด้านความบันเทิงต่าง ๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั้งใกล้ไกลสถานศึกษา จนกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่นที่หนีเรียนก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น ติดเกม ติดยาเสพติด ดื่มแอลกอฮอล์ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทและมีเรื่องชู้สาว โดยจากสถิติพบว่า มีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ


เทศกิจพิทักษ์นักเรียน



ณรงค์ จงแจ่มฟ้า เลขานุการสำนักการศึกษา อธิบายว่า เรามองเห็นปัญหาของเด็กนักเรียนทั้งหมด ซึ่งโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพฯ มี 435 โรงเรียน มีนักเรียนทั้งหมด 340,000 คน ข้าราชการครูอาจดูแลไม่ทั่วถึง นอกจากเด็กในสังกัด กทม. แล้วยังมีเด็กนักเรียนของเอกชนและตามจังหวัดใกล้เคียงอีกรวมแล้วมีเด็กใน กทม.กว่าล้านคนที่เราต้องช่วยกันสอดส่องดูแล ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาดังกล่าว ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร โดย ทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม. มีไอเดียให้ เจ้าหน้าที่เทศกิจมาช่วยเฝ้าระวังความประพฤติของเด็กเพิ่มขึ้นอีกภารกิจหนึ่ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่เทศกิจ  จะต้องออกตรวจตราพื้นที่เป็นประจำอยู่แล้ว จึงเกิดเป็น โครงการเทศกิจพิทักษ์นักเรียน ขึ้น ซึ่งถือเป็นการลบภาพลักษณ์เก่า ๆ ที่ไม่ดีของเทศกิจออกไปด้วย
   
โครงการนี้เราได้รับความร่วมมือจาก กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ กระทรวงวัฒน ธรรม ส่งบุคลากรในสังกัดมาเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เทศกิจและ บุคลากรเกี่ยวกับการศึกษา รวมทั้งสิ้น 1,174 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ เทศกิจเขตละ 3 คน ครูโรงเรียนละ 2 คน ซึ่งได้มีการฝึกอบรมและทดลอง   ลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริงไปแล้ว และหลังจากฝึกอบรมตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการจนได้รับแต่งตั้งเป็น
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน และนักศึกษา ทั้งหมดแล้ว จะทำการเปิดตัวโครงการและทำงานอย่างจริงจังใน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้
   
เจ้าหน้าที่ที่ผ่านการ อบรมแล้วจะมีอำนาจในการจัดการเด็กที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ดังนี้ เด็กหนีเรียน หรือออกนอกสถานศึกษาโดยไม่ได้รับอนุญาตในช่วงเวลาเรียน เล่นการพนัน
พกพาอาวุธหรือวัตถุระเบิด ซื้อ จำหน่าย แลกเปลี่ยน เสพสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา บุหรี่ หรือยาเสพติด ลักทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่หรือบังคับขืนใจเอาทรัพย์บุคคลอื่น ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น แสดงพฤติกรรมชู้สาวไม่เหมาะในที่สาธารณะ ค้าประเวณี และออกนอกสถานที่พักในเวลากลางคืนเพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่ม อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น 
   


เทศกิจพิทักษ์นักเรียน



ส่วนนักเรียนที่มีพฤติ กรรมที่ไม่เหมาะสมและถูก จับตัวได้จะถูกลงโทษตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ 4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ นั้นสำคัญมากแต่ทางโรงเรียนไม่ค่อยได้จัดให้เด็กได้แสดงออกเท่าที่ควร จึงอยากให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านเกม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ อย่าเห็นแต่ผลประโยชน์เพราะอนาคตของเด็กก็คือ อนาคตของชาติเช่นกัน
   
ที่สำคัญประชาชนเองก็มีส่วนร่วมได้หากพบเห็นเด็กประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือสงสัยว่าเด็กนักเรียนจะหนีเรียนสามารถ โทรฯ มาแจ้งได้ที่หมายเลข 1555 ซึ่งเป็นสายด่วนเมื่อเจ้าหน้าที่รับสายแล้วจะประสานไปยังเทศกิจของเขตนั้น ๆ
เพื่อออกไปตรวจตราบริเวณจุดที่ได้รับแจ้งเพื่อกวดขันควบคุมเด็กส่ง โรงเรียน
   
อย่างไรก็ตามเหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่เราทำนั้นเป็นเพียงแค่การป้องปรามเฝ้าระวัง เท่านั้น ต่อให้ปูพรมมากแค่ไหน ถ้าเด็กไม่ได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัว เมื่อเกิดความเหงาว้าเหว่ก็ จะออกจากบ้านไปหาเพื่อนและชวนกันไปทำสิ่งที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือด้วยความ  ที่อ่อนเยาว์ด้อยประสบการณ์อาจถูกมิจฉาชีพล่อลวงไปกระทำสิ่งผิดกฎหมาย
ยากจะแก้ไข จึงอยากจะฝากให้พ่อแม่ผู้ปกครองหันมาดูแลใส่ใจและให้เวลากันมากขึ้นเพื่อสังคมเราจะได้อยู่กันอย่าง มีความสุข
   
ตอนแรกมองว่า ปัญหา ของเด็กวัยรุ่นเป็นเรื่องที่อยู่ห่างตัวเราที่จะเข้าไปดูแล แต่พอมาทบทวนจึงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก เพราะเด็กเหล่านั้นก็เป็นลูกหลานของเราเอง
   
ยอดขวัญ จุณณะปิยะ หัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขตราชเทวี ผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการเทศกิจพิทักษ์นักเรียน รุ่นที่ 1 บอกเล่าพร้อมเปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากมีหนังสือเวียนขอความร่วมมือปฏิบัติภารกิจคุ้มครองดูแลนักเรียนเพิ่มอีก 1 หน้าที่ จึงตกลงอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการเพราะถือเป็นเรื่องใหม่ที่เราควรเรียนรู้ด้วยตนเอง และเนื่องจากเป็นหัวหน้ามีลูกน้อง 40-60 คน ถ้าหัวหน้าไม่ทราบก่อนแล้วจะสั่งลูกน้องทำงานได้อย่างไร จึงภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมและจะดีใจมาก  ถ้าสิ่งที่ทำได้ผล มีตัวเลขในการกวดขันจับกุมและเด็กอยู่ในกรอบมากขึ้น ในอนาคตอยากให้มีเครื่องแบบ สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายแสดงให้เห็นชัดเจนด้วยว่าเราปฏิบัติภารกิจพิทักษ์นักเรียนด้วยเพื่อง่ายต่อการทำงาน
   


เทศกิจพิทักษ์นักเรียน



โครงการนี้มีหลายหน่วยงานที่มาร่วมกันเพื่อป้องกันพิทักษ์เด็กไม่ให้เข้าสู่กระบวนการที่ไม่ดี นั่นก็คือเริ่มจากการหนีเรียน ถ้าเด็กกล้าหนีเรียนได้ก็ต้องกล้าทดลองยาเสพติดได้ โดยการฝึกอบรมวิทยากรจะสอนเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา จากนั้นมีการแบ่งกลุ่มกันรับผิดชอบไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เด็กชอบไปมั่วสุมได้แก่ สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า ร้านเกม ฯลฯ ซึ่งตนได้   รับมอบหมายให้ไปทดลองปฏิบัติหน้าที่ที่สวนรถไฟ พบว่ามีเด็กนักเรียนชายหญิงทั้งชุดนักเรียนและชุดลำลองอยู่ในสวนรถไฟเป็นกลุ่มจำนวนมาก จึงเข้าไปพูดคุยเพื่อสอบถามทราบถึง ปัญหามูลเหตุที่เด็กหนีเรียนอันดับ 1 คือ เรียนไม่รู้เรื่อง อันดับ 2 คือตามเพื่อน อันดับ 3 เด็กมีความรักและเกิดการเลียนแบบและอันดับสุดท้ายมีปัญหาครอบครัว
   
อย่างไรก็ตามปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้เราสามารถแก้ไขได้ เช่น ถ้าเด็กเบื่อเรียนก็ต้องมีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ให้ทันสมัยไม่น่าเบื่อสอดคล้องกับพฤติกรรมเด็กวัยรุ่นยุคนี้ ส่วนปัญหาอื่น ๆ ถ้ามีรากฐานครอบครัวมั่นคงเด็กก็จะไม่หลงผิดทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น นอกจากนี้ประชาชนเองก็ยังมีส่วนร่วมในการพิทักษ์นักเรียนได้ด้วย
   
หากพบเห็นเด็กนักเรียนประพฤติตัวไม่เหมาะสมสามารถแจ้งได้ที่โทร. 1555 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2553 เป็นต้นไป.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์