เมื่อมีปัญหากับงานหรือเพื่อนร่วมงาน บางคนแก้ปัญหาด้วยการลาออก
เพื่อที่จะพบปัญหาเดิม กับที่ทำงานใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คงเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ถ้าเราจะตามหาจุดที่เรายืนอยู่กับงานที่รัก
ได้โดยไม่มีอุปสรรคแพ้วพาน โอกาสคงเทียบเท่ากับการถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ ที่เราหวังจะมีแต่เพื่อนร่วมงานแสนดี
ทำงานเป็นทีมได้เวิร์คสุดๆ ไม่มีข้อขัดใจ
แต่ในเมื่อโลกไม่ได้มีแค่เราคนเดียว จะไปชี้นิ้วสั่งใครให้ได้ดั่งใจคงไม่มีสิทธิ์
สิ่งที่เราพอจะได้ทำก็คือ ย้อนกลับมาแก้ที่วิธีคิด ปรับเปลี่ยนสายตาที่เรามองโลก
เริ่มที่ยิ้ม
รอยยิ้มเล็กๆ มีพลังยิ่งใหญ่กว่าที่เราคาด การยิ้มมีผลต่อสารเคมีในสมองของเรา และการที่เราส่งยิ้มให้กับคนอื่น สิ่งที่เราจะได้รับกลับมาก็คือรอยยิ้ม ง่ายๆ แบบนี้ที่จะทำให้บรรยากาศในการทำงานดูดีขึ้น
มองหาทางออกที่ดีเสมอ
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น คนตาขวางจะมองเห็นเพียงอุปสรรค แต่สำหรับคนคิดบวกอย่างเราแล้ว เราจะต้องมองหาหนทางแก้ไข ลองเล่นกับมันให้สนุกเหมือนเกมส์ หมุนมองให้รอบด้านว่าเราจะพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร
มีวิธีไหนแก้ปัญหานี้ได้บ้าง ทำอย่างไรให้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมีผลดีตามมา เอาน่า รู้ว่ามันคือชีวิตจริง ไม่ใช่เกมส์ แต่ลองคิดแบบนี้แล้วก็สนุกดีนะ
ฉันนี่แหละมืออาชีพ
ความคิดแง่ลบล้วนมาจากอารมณ์ขุ่นข้อง โกรธเคือง ผิดหวัง ฯลฯ ขอให้พยายามอย่างที่สุดในการเขี่ยอารมณ์เหล่านี้ออกไป ที่ทำงานของเราเป็นพื้นที่สำหรับมืออาชีพ และมันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเป็นมืออาชีพให้ได้ ทำงานตามข้อเท็จจริงและเหตุผล อย่าให้อารมณ์วิ่งขึ้นนำ
หาทางทำให้งานสำเร็จลงด้วยดี แม้บางทีจะมีเรื่องให้หงุดหงิดบ้าง แต่วิถีมืออาชีพเขาก็เป็นกันอย่างนี้แหละ
เคารพผู้อื่น
ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน แม้เขาจะเป็นคนที่เราเหม็นขี้หน้า
แต่เมื่อทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของทีม เราต้องพยายามมองไปที่เป้าหมายเดียวกัน อย่าปล่อยพลังด้านลบออกมา เพราะมันสามารถทำลายทุกสิ่ง ความรู้สึกลบเป็นเหมือนบูมเมอแรง เมื่อเราปล่อยมันออกไป มันก็ต้องกลับมาเขกหัวเราในที่สุด
มองหาสิ่งดีในงาน
เวลาจิตตกอะไรก็เลวร้ายไปหมด แต่ถ้ามอง (ด้วยทัศนคติที่) ดีๆ เราก็จะเห็นว่างานที่ทำอยู่มันก็มีอะไรดีอยู่บ้าง เช่น อย่างน้อยเราก็ได้นั่งอยู่ในห้องแอร์ บางวันอาจได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ท้าทายเกินจินตนาการ
บางคนได้ทำงานนอกสถานที่ ใกล้ชิดธรรมชาติสายลมแสงแดดเหมือนซาวน่าฟรีๆ ขจัดเซลล์เก่าสร้างผิวใหม่เปล่งปลั่ง มีโอกาสได้ตื่นเช้ามืดทันเห็นพระอาทิตย์ขึ้นบนทางด่วนทุกวัน อะไรอย่างนี้เป็นต้น
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
ไม่ว่าจะรู้สึกแย่กับเรื่องอะไรก็ตาม อย่าเอาแต่พร่ำบ่นถึงความทุกข์ยากของตัวเอง
ทำเหมือนเป็นคนที่จัดการสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตไม่ได้ อมทุกข์ อ่อนแอ เกลียดชังไปซะทุกอย่าง
ทั้งที่ในที่สุด ปัญหาพวกนั้นก็จะผ่านไป
อย่าเอาแต่นั่งบ่นถึงมันเลย ไม่มีใครอยากทำงานกับคนที่เอาแต่พูดเรื่องปัญหาของตัวเอง เพราะทุกคนต่างก็มีปัญหา
และก็อย่างที่เราผ่านมาได้ทุกครั้ง ครั้งนี้มันก็จะผ่านไปเช่นกัน
ที่สุดแล้ว ถ้ามันยากมากที่จะมองเห็นความสวยงามของโลกได้ด้วยตัวเอง
ลองพยายามมองหาคนอื่นที่เขาอาจช่วยได้
ใครสักคนที่มองโลกในแง่ดี ใครสักคนที่มีรอยยิ้มให้คุณ ใครสักคนที่กำลังสนุกกับการใช้ชีวิต
อาจเป็นเด็กน้อยที่เล่นสนุกอยู่ในสวนสาธารณะ
ไปนั่งเงียบๆ มองดูพวกเขา ฟังเสียงหัวเราะพูดคุย สิ่งเหล่านี้มันติดต่อถึงกันได้
สำคัญที่ใจของเรา จะมองเห็นหรือได้ยินความสุขนั้นหรือไม่
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
