เราเชื่อใจเขาได้แค่ไหน?

เราเชื่อใจเขาได้แค่ไหน?

เราเชื่อใจเขาได้แค่ไหน?

"ความไว้วางใจ"  เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่เป็นแฟนกัน เพราะปัญหามากมายที่เกิดขึ้นระหว่างคู่รัก  ลองย้อนถึงที่มีก็มักเริ่มมาจากความไม่เชื่อใจกัน การโกหกกัน และความหวาดระแวง ซึ่งหากเกิดขึ้นกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายแล้ว เชื่อว่าคู่รักนั้นจะไม่พบกับความสุข และสุขได้ไม่นาน ก็ต้องเจอปัญหาเดิมๆ ซ้ำซากไม่มีที่สิ้นสุด การแก้ไขปัญหา ไม่ได้หมายถึงว่า ให้คอยจับผิดและคอยติดตามเขาอย่าให้คลาดสายตา หรือรับฟังเรื่อราวของเขาจากปากผู้อื่นและเชื่อ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เพระาหากเป็นเช่นนี้ เธอก็ไม่ควรจะใช้วีวิตร่วมกันกับเขา เพราะเธอต้องทำอย่างนั้นไปตลอดชีวิตคู่ ต้องคอยหวาดระแวงในพฤติกรรมของเขาตลอดเวลา แล้วความสุขมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

         เราจะเชื่อใจในพฤติกรรมของอีกฝ่ายได้มากแค่ไหน อยู่ที่ว่าเขามีพฤติกรรมอย่างไรต่อเรา เขาเปิดเผลแค่ไหน และเราเป็นคนคิดมากแค่ไหน ก่อนที่จะตกลงเป็นกับใคร เธอต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนว่าเขาเป็นคนอย่างไร ตรงไปตรงมากับเธอแค่ไหน พูดอีกอย่างทำอีกอย่างหรือเปล่า หากมีเหตุการที่เขาดกหกเะอบ่อยๆ ก็ต้องมาคิดดูว่า มันเป็นอย่างนั้นเพระาอะไร ถ้าเป็นเพราะนิสัยเขาเป็นอย่างนั้น แก้ไขไม่ได้ เธอยอมรับได้หรือเปล่า หากเธอต้องกลุ้มใจอยู่เสมอ และไม่ว่าเรื่องอะไรเธอ ต้องมาคอยกังวลว่าเขาโกหกเธอหรือเปล่า เขาพูดจริงพูเล่น เขาปิดบังอะไรเราบ้าง ก็รีบถอนตัวออกมาจากเขาซะเถอะ  ก่อนที่เรื่องโกหกจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ๆ ที่อาจจะทำให้เธอต้องเสียใจมากไปกวานี้  แต่ถ้าการโกหกของเขา สืบเนื่องมาจากอาการรับไม่ได้ของเธอ คือ ถ้าบอกไปเะอต้องรับไม่ได้ เธอต้องกรี๊ดๆ ไม่ฟังเหตุผลและทนไม่ได้หาได้รู้ความจริง วึ่งถ้าพฤติกรรมเธอเป็นอย่างนั้น ใครที่ไหนจะกล้าพูดความจริงกับเธอ ถ้าเขาพิจารณาแล้วว่า ขืนบอกไปตายแน่ เป็นเรื่องที่ผิดพลาด ที่แม้เล็กน้อยเธอก็ไม่ยอมรับฟัง เดี๋ยวก็ต้องมาทะเลาะกันอีด สู้ไม่บอกให้รู้ดีกว่า เมื่อเรื่องราวที่ปิดบัง ถูกเปิดเผยขึ้นในวันหนึ่ง จะด้วยเขาโกหกไม่เก่ง หรือมีเหตุการณ์ใดๆที่ทำให้เธอรู้ความจริง หรือมีผู้หวังดีที่ทำตัวเป็นผู้รู้มากกว่าเธอ  คาบข่าวมาบอก  อาการเดิมของเธอก็กำเริบขึ้น ผู้หญิงทุกคนไม่ชอบให้แฟนตัวเองโกหก และเกลียดมากหากต้องมารู้ทีหลังคนอื่น แต่ต้องถามตัวเองก่อนว่า ยอมรับได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าได้รู้ เพราะเธอเป็นอย่างนี้น่ะสิ ถึงต้องบอกให้เธอรู้หลังสุด หรือไม่รู้ได้ยิ่งดี จะไปโทษเขาไม่ได้ ว่าเขาโกหกเธอทำไมในเมื่อเธอเป็นคนไม่ยอมให้อภัย และไม่ยอมรับฟังเหตุผลเขาเลย



         คนเรารักกันต้องสามารถให้อภัยกันได้  และหากจะใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต ก็ต้องสามารถแชร์ความทุกข์ร่วมกันได้ ทุกคน ย่อมมีเรื่อวผิดผลาดเกิดขึ้นในชีวิตแน่ๆ
 แต่หากเราช่วยกันแก้ไข ทำตัวเป็นคู่คิดที่ดี ของเขา เธอจะได้รับความไว้วางใจรับรู้ทุกๆเรื่องราวทั้งรายและดีจากเขา และเมื่อนั้น เขาจะไม่มีความลับกับเธอเลย เชื่อใจได้ว่า
เธอจะได้รับรู้ในทุกการกระทำของเขา และ  ความเชื่อใจที่มีให้กัน จะทำให้สิ่งที่เธอเห็นเขา คือตัวตนที่แท้จริงของเขาแน่นอน

        ลองหันไปมองช่วงเวลาก่อนที่มาเป็นแฟนกัน แล้วทบทวนซิว่า เขาและเธอรักกันยังไง เธอมีเสน่ห์ตรงไหนที่ทำให้เขามาเป็นแฟนของเธอได้ และมีสิ่งใดบ้างที่ทำให้เราต้องทะเลาะกัน หาทางแก้ไขจุดบกพร่อง และเพิ่มเติมเส่นห์ในตัวเอง
ให้มากขึ้น ไม่ได้หมายถึงว่าให้ทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเธอ เช่น ทำโรแมนติกทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เคย จริงๆ แล้วทำได้มันก็ดี แต่อย่าให้ขัดกับบุคลิคส่วนตัวมาหนัก เพราะมันจะดูแปลกไป เพราะถ้าเขารัก เขาก็รักเธอที่เป็นตัวเธออย่างที่เห็นนี่แหละ เมื่อไหร่ที่ความรักของเธอและเขาหมั่นปรุงให้มันอร่อยอยู่เสมอ ไม่ขาดไม่เกิน เธอก็เลิกคิดได้แล้วว่าเธอจะเชื่อใจเขาได้แค่ไหน ความรักก็จืดจางลงได้ ถ้าเจอกันแล้วทุกข์มากกว่าสุข

      
ถ้าเธอเป็นผู้หญิงช่างถาม ชอบซักไซร้  ถามได้ทุกวันว่ารักเราหรือเปล่า คิดจะแต่งงานด้วยไหม คิดไปไกลแค่ไหน เราจะเป็นคนสุดท้ายของเธอหรือเปล่า เป็นคำถามที่ผู้ชายหลายคนไม่ชอบตอบ เพราะการจะตัดสิ้นใจเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ครองที่แท้จริง มันต้องอาศัยเวลาศึกษาดูใจกันนานพอสมควร มันมีเงื่อนไขอื่นๆ อีกมากมายที่นอกเหนือจากว่า "เรารักกัน" ยังมีปัจจัยอื่นอีกที่ทำให้เราแต่งงานกันได้ หรือเราแต่งงานกันไม่ได้ ถ้าเขายังไม่แน่ใจว่า ตัวเองจะเผชิญปัญหานั้นได้ หรือเปล่า หรือเรายังไม่รู้จักกันดีพอ เขาจะไม่ตอบคำถามเรา เมื่อเขาไม่ตอบเราก็งอน หาเรื่องทะเลาะกันชัดๆ ผู้หญิงหลายคนคิดว่า การที่แฟนตัวเองไม่ตอบ แสดงว่าไม่ได้มีความจริงใจ ไม่ได้รักกันจริง หวังเคลม หวังคบแก้ขัดไปงั้นๆ ถ้าเรารู้จักแฟนเราดี และรู้ด้วยว่ารัดเราเริ่มจากตรงไหน หากเป็นการมองจากภายในใจ ของกันและกัน เธอก็จะน่าเชื่อใจเขาได้ ถ้าเขาตกลงคบเป็นแฟนด้วย นั่นหมายถึงว่าเราเข้ามาสู่ตำแหน่งที่เขาพิจารณามากกว่าคนอื่นแล้ว ว่าสามารถมาใช้ชีวิตคู่กับเขาได้ ส่วนจะใช่เราแน่หรือเปล่า ก็ต้องดูกันต่อไป ว่าคบกันแล้วเป็นยังไง เลิกถามคำถามที่สร้างความทุกข์ให้ตัวเอง ประเภทแกมบังคับให้เขาตอบในสิ่งที่เราต้องการฟัง อนาคตข้างหน้าเรายังไม่รู้ แล้วเธอคิดว่าเขาเป็นหมดดู  หรือไง ถึงตอบได้ชัดถ้อยชัดคำ คู่รักหลายคู่ที่คิดว่าแน่นอน ยังมีการเปลี่ยนแปลงได้จนหยดสุดท้าย  มีปาฏิหารเกิดขึ้นมากมายกับความรักและจะหวังอะไร แน่นอนกับคำพูด ความคิดของมนุษย์ มันเปลี่ยนได้ทุกๆนาทีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเรารักษาความคิด ณ ปัจจุบันจของเราให้นานแค่ไหนเท่านั้นเอง









                                     ขอขอบคุณบทความจาก หนังสือ เป็นอะไรไปความรัก?
                                                                    โดย ว.แหวน
 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์