เรื่องราวชีวิตจริง...อย่า จูบ เพื่อนสนิท เพราะนั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน

ชื่อลำดวนค่ะ ปู่ตั้งให้ (โบราณไปนิดแต่ชินแล้ว) เพราะเป็นชื่อ คนรักคนแรกของปู่ ส่วนแม่เรียก หมวยเล็ก ไม่ก็ไอ้หมวย ไอ้เล็ก /b]
เรื่องของเราเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2535 เราเกิดวันพฤหัส เดือนกุมภา     ที่โรงบาลเล็กๆแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน 
แม่เล่าให้ฟังว่า วันที่แม่คลอด ตรงกับวันที่ บ้านตรงข้ามย้ายเข้ามาใหม่พอดี และที่สำคัญ บ้านหลังนั้น เพิ่งจะมีเด็กผู้ชาย
เกิดได้ประมาณสองเดือน   พอแม่พาเราออกจากโรงพยาบาล   ก็สนิทกับบ้านตรงข้าม เพราะลูกเล็กเหมือนกัน ฝากกันเลี้ยงบ้าง 
จนทั้งสองบ้านผูกเสี่ยวกันให้ ( ผูกแขนเพื่อให้เป็นเพื่อนสนิทกัน หรือเพื่อนตายกัน ประมาณนี้ ) ตั้งแต่ประมาณขวบนึง


บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ    แม่จะเอาญาติมาส่งเรียนหนังสือ รุ่นแล้วรุ่นเล่า  จนเราประมาณ 7 ขวบ 
ก็มีสมาชิกในบ้าน 8 คน รวมถึง สมาชิกที่แวะเวียนมาสิงที่บ้าน ไม่ยอมกลับบ้านตัวเองอีก สี่ห้าคน
สรุปคือแม่เลี้ยงเด็กๆ 10 กว่าคนในบ้าน ทำให้ตอนนั้น เริ่มมีปัญหากับพ่อ


อ้าวเราลืมแนะนำชื่อ เพื่อน(เสี่ยว) ของเราที่อยู่บ้านตรงข้าม ชื่อ ไอ้มะม่วงค่ะ แม่มันชอบกินมะม่วงมากตอนท้อง
เลยเอามาตั้งชื่อลูก (ถ้าเอ็งเข้ามามาอ่าน เอ็งคงไม่ว่านะถ้าใช้ชื่อจริง )   มันก็เป็นอีกคนนี่แหล่ะที่มาสิงบ้านเรา ไม่ยอมกลับ ตอนนั้นเราเป็นหัวโจก ของแก๊ง  ทีประกอบด้วย พี่บาส พี่บอล (แฝดนรกลูกเจ้าของตลาด ) อายุมากกว่า แต่มาอยู่บ้านเราต้องเรียกเราลูกพี่เฉื่อย( เป็นเบ๊ประจำกลุ่ม) แกเป็นเด็กวัด ปัจจุบันนี้บวชเรียนอยุ่ เรากลับไปที่นั่นก็จะไปนมัสการตลอด
มีไอ้เงาะ ไอ้เจแปน น้องทิพย์ น้องอาย บลาๆ คือเยอะมาก ทั้งญาติทั้งเด็กแถวนั้น
มารวมกันที่บ้านหมด ช่วงนั้นสนุกกันมาก 


เวลานอนทุกคนจะแย่งกันนอนข้างเรา เพราะเราคือหัวหน้า แม่จะปูที่นอนปิกนิค ต่อกันยาวๆ แล้วเด็กๆจะนอนเรียงๆกัน
เวลาใครโดนรังแกที่โรงเรียน เราก็ไปต่อยให้  ตอนอยู่ ป.สอง ไอ้มะม่วงโดนรุ่นพี่ป. หก พลัก    เรารู้ปุ๊บ เราวิ่งไป ห้องป. หก 
แล้วกระโดดถีบพี่คนนั้นล้ม แล้วกระทืบๆ จนแม่เค้ามาเอาเรื่องที่บ้าน ตอนนั้นเราสนุกกันมากจริงๆค่ะ ใครอยู่แก๊งเราเราจะดูแล 
(เราขาใหญ่ เตะหนัก ปู่สอนชกมวยแต่เล็ก) ปกติก็เป็นไอ้มะม่วง นี่แหล่ะที่นอนข้างๆเรา 


ช่วงป.หนึ่ง ป.สอง สงสัยเราเริ่มมีเค้า ความหน้าตาดีโผล่มาบ้าง เพราะบังเอิญน่าตาไปทางพ่อ ซึ่งเรียกว่า พี่ติ๊กก็พี่ติ๊กเถ๊อะ
เจอครูชาติ เข้าไป สูสีๆ นั่นแหล่ะพ่อเลยเจ้าชู้มากๆ เพราะหล่อเกินไป
เราเลยได้ แต่งชุดไทยเป็นนู่นเป็นนี่ บ่อยๆ
ที่จำได้แม่นมีสองเหตุการณ์ คือตอนที่เป็นนางนพมาภ ตอนป.หนึ่ง เราใส่โจงกระเบนชุดสีชมพู กับเสื้อคอกระเช้าสีขาว
นั่งอยู่บนรถที่มีกระทง ขบวนแห่ก็แห่ไปรอบอำเภอ พวกลูกน้องเราก็จะมายืนข้างถนน แล้วตะโกน เรียกหัวหน้าๆ หัวหน้าสวยที่สุด
แม่เล่าว่า  เรานี้เชิดหน้ายิ้มหวาน แบบ ทำหน้าพอใจอย่างที่สุด ผู้ใหญ่หลายคนก็ขำๆ


ตอนที่ขบวนหยุดไฟแดง เรามองไป ตรวจดูว่า สมาชิกในกิลด์ มาครบป่าว หัวหน้าสวย ต้องมาชื่นชม ใครไม่มาโดนเตะแน่ ( หลงตัวเองแต่เด็ก ) แต่เราไม่เห็นไอ้มะม่วง เราเลยตะโกนถามแก๊งเรา พวกนั้นบอกว่า ไอ้มะม่วงแต่งตัวยังไม่เสร็จ
คือมาตอนนี้ นึกย้อนกลับไปก็ฮามาก กับสภาพมันตอนนั้น เราเห็นเด็กชายเล็กๆ หัวเกรียนๆ สูงเท่าหูเราเอง
เดินมาในชุดกางเกงยีนส์หล่อๆ เสื้อเชิตพ่อตัวใหญ่รุ่มร่าม  ใส่เนคไท ปะหลาดๆ วิ่งมา แถมมีแว่นตาดำ ที่ตาด้วย


มันก็วิ่งมายืนข้างรถ แล้วก็พูดว่า
"หัวหน้าต้องมีบอดี้การ์ด เพราะเราไม่ยู้หรอก แก๊งอื่นจะโจมตีเราตอนไหน
แต่ม่วงเห็นว่าตอนนี้หัวหน้ากำลังอ่อนแอ ม่วงเลยต้องเตรียมพร้อม "
ในตอนนั้นรู้สึกเราจะโกรธๆนะ ที่โดนหาว่าอ่อนแอ เราเลยถามกลับไปว่า เราอ่อนแอตรงไหน เะราเป็นหัวหน้าแถวนี้นะ (คือตอนนั้นเด็ก ดูหนังตีกันเยอะไปหน่อย การืตูนก็พวก โรงเรียนลูกผู้ชาย โจโจ้ล่าข้าม อีกา บลุ ไรพวกนี้ เลยติดความเกเรมาหน่อยๆ )


มันตอบกลับมาว่า " หัวหน้าอ่อนแอ ตอนที่กำลังสวยสุดๆ มะม่วงไม่อยากให้ศรัตูเห็น "
น่อวววววว หวงเราแต่เก็กแฮะไอ้ม่วงงงง  โถ่ววว  เรานี่สวยแต่เด็กจริงๆ 55555555


ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ คิดแค่ว่า เออ มันพูดดีแฮะ ความสวยเริ่มสำคัญกว่าความแข็งแกร่ง เราคงเริ่มเป็นสาวตั้งแต่ป.หนึ่งล่ะ


พอรถเคลื่อน ออก ไอ้ม่วงของเรา ก็เดินตามรถที่เรานั่งต้อยๆ  ตะโนถาเราตลอด  หัวหน้าร้อนมั้ย
หัวหน้าหิวมั้ย   มันแหงนหน้ามองเราตลอดเลย  หลายกิโลนะ กว่าขบวน จะเคลื่อนมาถึง สนามกีฬา ที่มีเวทีประกวด
หนุน้อยนพมาศ  และด็ไอ้มะม่วงนี่แหล่ะที่เดินเหงื่อแตกเหงื่อแตน ตามมาจนถึง สนามกีฬา  คือถ้าเราจินตนาการไม่ผิด
มันคงเฝ้ามองเราด้วยสายตายกย่องบูชา  เตารพในความแข็งแกร่งของเรา 555555555


คิดดูสิคะ .. เดินกลางแดดร้อนๆ ด้วยเสื้อผ้าแบบนั้น แค่จะเดินตามเรา ถ้าย้อนกลับไปได้ เราคงกระโดดกอดมันแรงๆซักทีอ่ะ


เรามีความสุขมากค่ะ แต่มีช่วงนึงที่ชีวิตเราลงเหวมาก
พอเราเป็นคนเจ้าชู้  เวลาเมาจะตีแม่ เราเลยเกลียดผู้ชาย และมีความรู้สึกว่าเราต้องควบคุมผู้ชายให้อยู่ต้ำอำนาจเราให้ได้
จะไม่ให้ใครมามีอิทธิพล เหนือความรู้สึกเราเป็นอันขาด  เราอาจรู้สึกแบบนี้ก็ได้
เราจึงชดเชยความรู้สึกแหว่งๆหายๆนี้ ด้วยการมีลูกน้องเยอะๆ คอยเดินตาม ค่อยฟังคำสั่ง


แต่เวลาผ่านไปอะไรๆก็เปลี่ยนค่ะ  เราเริ่มโต เด็กผู้ชายคนอื่นก็เริ่มโต จากที่เคยฟังเรา บางครั้งก็ออกแนวห้ามๆหวงๆ ทำเหมือนเราเป็นเด็กเล็กๆ  แต่ก็ยังเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น พอบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน  


เราขึ้นม.1 ที่โรงเรียนเดียวกับไอ้มะม่วง  มันก็ยังเป็นเบ๊ที่ดี  คอยดูแล ไปซื้อข้าวให้ ถือกระเป๋าให้  เคยซักกางเกงในให้ด้วย
จำได้ว่า เราแช่กุงเกงในไว้  ไอ้มะม่วงชวนเราไปดูช้างเตะฟุตบอล  ที่วัดมีงานเทศกาล   เราไปไม่ได้จนกว่าจะซักกุงเกงในเสร็จ


มันก็นั่งลงข้างๆเราช่วยเราซักกุงเนงในน้อยๆของเรา ในกะละมังจนเสร็จ


ความเปลี่ยนแปลงเริ่มตอน ม.3   อยุ่ไอ้ม่วงของเรา ที่เราเคยไล่เตะ ใช้ให้มันบีบนวด ให้เราขี่หลัง  อยู่มันก็สูงแบบพรวดพราด แถมเสียงมันก็แปลกๆอีกด้วย เสียงแหบๆ ดูน่าแหยง สำหรับเรามากตอนนั้น  เราเลยสั่งมันว่า ห้ามพูดจนกว่าเราจะอนุญาต  

มันเข้าชมรมบาสเกตบอล  เราก็พึ่งสังเกตว่า ลูกน้องเราคนนี้ เริ่มมีสาวๆ มาสนใจมากขึ้นๆ  แต่เราก็เฉยๆนะ ใครฝากของให้มัน เราก็กินเองหมด ของลูกน้องก็เหมือนของหัวหน้า  ข้าไม่อิ่มเอ็งอย่าโวย  มันก็ไม่ว่านะ แต่ชอบขยี้ผมเรา  แรกๆเราเคืองมาก คือมันลบหลู่เราอ่ะเราเป็นคนส่งเสริมให้มันเติบโตมาแบบปลอดภัย ไม่มีศัตรูคนไหนจะทำร้ายมันได้  คิดดู๊วววว  มันมาลูบหัวอันสูงส่งของเรา  แต่พอด่ามัน ไล่เตะมัน  มันกลับยิ่งสนุกๆ  หลังเราได้แต่ปล่อยเลยตามเลย  ได้แต่ด่ามันแบบอุบๆอิบๆ    
เพราะถ้าด่าดัง  มันจะบีบปากเรา ดึงหูเรา ( คือไม่สำนึกในบุญคุณที่เราเอ็นดูมันมาเลย )


เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาเรื่อยๆ ตัวติดกันตลอด ส่วนลูกน้องคนอื่น ก็แยกย้ายไปเรียนที่ต่างๆ เหลือเรา ไอ้มะม่วง  พี่เฉื่อย(ตอนนั้นเป็นเณรเฉื่อยแล้ว) และก็เด็กๆ ไม่กี่คน  ก็เหงาๆนะ คิดถึงตอนเด็กๆ เล่นมวยปล้ำ จับทุ่ม เล่นตำรวจจับโจร


ตอนนั้น เรารู้สึกว่า ไอ้ม่วงเนี่ย มันยิ่งกว่าพี่น้องซะอีก ถ้าขาดมัน เราก็คงเหงาตายแน่  เราเคยบอกมันว่า
เอ็งอย่าทิ้งลูกพี่นะ  เอ็งไปอยุ่ที่อื่น หัวหน้าคนอื่นไม่รักเอ็งแบบข้าหรอก ไอ้ม่วง    มันก็พยักหน้านะ ก่อนจะจับเราทุ่ม


เราเล่นกันแบบนี้จน ม.4   ตอนนั้นพ่อกลับมาเยี่ยมบ้าน เพราะเลิกกับเด็กในสังกัดคนที่ 200 ได้มั้ง  คนล่าสุดนะ แก่กว่าเราไม่กี่ปีเอง  เอิ่มขุ่นพระ  คาสโนว่า เรียก พระเจ้าเลยล่ะ 


วันนั้นเรานอนเล่นบนเตียง  ฟังเพลง ปี่ปั๊บ โปเตโต้อยู่ ไอ้ม่วงก็นอนตอยุ่ปลายเตียงอ่านวันพีช   คือเสื้อมันเลิกขึ้นมา เราแอบเห็นขนหน้าท้องมัน  เราบอกว่า “น่าเกลียดว่ะ ทำไมไม่โกน” 


มันก็ไม่สนใจ อ่านการ์ตูนต่อ แล้วตอบแบบเรียบๆมาก “ผู้ชายเค้ามีกันหมดแหล่ะเจ้ ใครเค้าโดนกัน”
เราก็ยังเถียงนะ “มันน่าเกลียดนี่หว่า ถ้าพรุ่งนี้เอ็งไม่โกนไม่ต้องมาบ้านข้านะ”   ไอ้ม่วงของเรามันเลยบังอาบเอาเท้าถีบเรา ก็เบาๆแหล่ะ  แต่เรากำลังจะลุก เลยเสียหลักกลิ้งตกเตียง  (คือไม่ช่วยนะไอ้ม่วงนะ) 


เราโมโหมาก (ทำไมขี้โมโหจังแว๊” เลยกระโดด เอาหัวพุ่งชนท้องมัน  มันเลยล็อกตัวเราไว้ท่านั้นแหล่ะ ที่หัวเราดุนๆท้องมัน เราก็ไม่หมดความพยายาม  พยายามเอาหัวกระแทกท้องมันอย่างไม่หยุดยั้ง (เอ็งต้องตายยยยยย)


เราก็เล่นกันแบบนี้  คือเราไม่รู้สึกว่ามันเป็นผู้ชายอ่ะ เจี๊ยวมันก็เคยเห็นมาแล้วตอนเด็กๆ อาบน้ำด้วยกัน  เลยไม่มีความรู้สึก พิศวาส หรืออะไรเลยแต่มันซวยตรงที่พ่อเปิดประตูเข้ามา  แล้วเห็นเราคร่อมไอ้ม่วงอยู่อ่ะจิ  กรี๊ดแตกเลยๆ  ไอ้ม้วงโดนพ่อดึงคอเสื้อ  แทบลากลงมาข้างล่างเลยล่ะ


เราก็อธิบายว่าไม่มีไรเลย เล่นกันมาต่เล็ก  พ่อก็ด่าไอ้ม่วง ด่าๆๆๆๆๆ  พ่อแม่ไม่สั่งสอน เลว อะไรมากมาย ( ขุ่นพระ พ่อเจ้าชู้ คบไม่เลือก แต่ดันหวงลูกสาวตัวเอง หนุเข้าใจค่ะ ว่าหนูสวยมาก)


เราเลยโพร่งไปว่า “พ่ออย่าไร้สาระน่ะ  ไอ้ม่วงมันก็แค่ลูกน้องหนู  หนุไม่มีทางคิดอะไรกับมันหรอก อ้วกแตกพอดี”  ไอ้ม่วงหันมามองหน้าเรามันตาแดง สงสัย โดนพ่อด่าเยอะไป  มันเลยลุกขึ้นแล้วเดินออกจากบ้านไป  


พ่อสั่งห้ามไม่ไอ้ม่วงขึ้นไปบนห้องอีก เราก็ค่ะๆไปเรื่อย  แล้วพ่อก้บอกว่า จะคุยเรื่องนี้กับแม่ (ฝันไปเถอะ แม่ไม่มองหน้าเลยยังไม่รู้ตัวอีกนะลุงนะ แง่มๆ)


หลังจากที่พ่ออาละวาด ไอ้ม่วงก็ดูเงียบๆหายไปสองสามวัน  ไม่มาบ้านเลย เจอที่โรงเรียนก็เหมือนหลบเราๆ  เราก็แบบตอนนั้นเห็นแก่ตัวมาก คิดว่ามันจะตีตัวออกห่าง หรือมันอาจจะทนเป็นลูกน้องเราไม่ไหวแล้ว  เลยจะไปจากเรา


ด้วยนิสัยแย่ๆ เราเลยเดินไปกระชากคอเสื้อมัน แล้วบอกว่า “มุงเป็นไรวะ เป็นอะไรทำไมไม่พูด มุงโกดอะไรตูวะ ตูจะรู้มั้ย เงียบแบบนี้”  
มันก็มองหน้าเรานิ่งๆ คือก็แปร๊บๆอ่ะ มันอธิบายไม่ถูก คือรู้สึกว่าทำไรผิดแน่เลย แต่นึกไม่ออก 
มันจับมือเราที่กุมคอเสื้อมันอยู่แล้วดึงออกอ่ะ 


“ หมวยเล็กก็ไม่เคยรู้อะไรซักอย่างหรอก”   ผ่าง!!!!!!!!   ช็อกสิคะ ช็อก!!!  ท่านผู้ช๊มมมมมมมมมมมมม
ช็อกที่หนึ่ง  มันไม่เคยเรียกชื่อเราเลยตั้งแต่จำความได้ มันไม่เรียก ลูกพี่ หัวหน้า ก็เจ้  ไม่มีคำว่าหมวยเล็กออกมาจากปากมันเลย (ตอนนั้นยังมีคิดอีกนะ ว่ามันลามปามเรา ดูนิสัยเราดิ)
ช็อกที่สอง ตอนที่มันดึงมือออก มันบีบแรงมาก  ทั้
ๆที่เมื่อก่อน มันแพ้กำลังเราตลอด แม้แต่ตอนงัดข้อ (หรือมันอ่อนให้ก็ไม่รู้)
ช็อกต่อมา ...  คือมันเดินหนีเราไปเลยค่ะ ไม่รอคำตอบ ไม่รอคำถาม ไม่รอให้หายช็อก  


เรานี้น้ำตาจะแตกเลยค่ะ  แต่ด้วยความแข็งแกร่งที่ฝึกฝนมา  เราเลยไปร้องไห้ที่บ้านแทน


ประมานเดือนที่สองของการขึ้น ม.4  พี่ๆม.5 จะคัดดาวโรงเรียน เพื่อถือป้าย  และทำกิจกรรมอื่นๆ  
อิอิ ไม่ต้องเดาค่ะ  อิฉันนี่แหล่ะค่ะ อิฉันเองงงงงงงงงงงงง !! เถื่อนแต่สวยนะคะ 555555    เค้าก็โหวตกัน ตอนนั้น
มาปังที่เราแหล่ะค่ะ  อิหมวยเล็กจะครองโลก 555555555555555555  


วันประกาศเป็นงานโรงเรียน ก็มีคนเข้ารอบ ห้าคน เราก็หนึ่งในห้า  พอคัดเหลือสาม  เราก็ตึกๆตักๆ  ตูแน่ๆ ตูแน่ๆ 
คิดแบบนี้จริงๆ (อายจุง)


ก็นะ พอประกาส ปุ๊บ เป็นชื่อ “หมวยเล็ก   ประไพมาลา  อุบล.............. (เซนเซอร์นามสกุล)   ก็จะมีเดือนโรงเรียน มามอบดอกไม้  ชื่อพี่ หลุยส์ (คือชื่อฝรั่ง แต่หน้าไทยโพดดดด) ก็คนนี้แหล่ะ เป็นรักแรกของเรา  
หลังจากลงเวที  พี่หลุยก็มาขอเฟส กับ hi5 เรา ตอนนั้นเล่นเฟสไม่เป็น มีแต่ hi5  ก็เลยให้ไป  พี่หลุยให้พวงกุญแจ รูปดอกไม้สีฟ้าเราอันนึง  วินาทีนั้นแหล่ะค่า
ไอ้ม่วงก็โผล่มา


มันคว้าหมับ! เข้าที่พวงกุญแจ  “ ขอบคุณฮะพี่ เดี๋ยวผมเก็บให้หัวหน้าเอง เนอะหัวหน้าเนอะ”  มันหันมาพูดกับเราตบท้าย  งงสิคะ  นี่ข้ากับเอ็งดีกันแล้วหรอ ไม่คุยกันเป็นอาทิตย์ นี่ดีกันแล้วหรออ  เราก็ เอิ่ม  เคๆ เอ็งดี ข้าก็ดีฟะ
ครั้งนี้จะให้อภัยในความเหลวไหล ของลูกน้องคนนี้ครั้งนึงละกัน


หลังจากนั้นเราก็กลับมาดีกันเหมือนเดิน มันขับมอไซ มารับเช้า เย็นแวะร้านเช่าการ์ตูน  ไม่ก็ซื้อ C-Kid แล้วกลับมาอ่านที่บ้านเรา  มันกินข้าวเย็นบ้านเราแล้วก็กลับ   


ในระหว่างั้น เราก็เริ่มคุยกับพี่หลุยส์


ตอนแรกที่เราคุยกับพี่หลุยสื เราปิดไอ้ม่วงไว้ค่ะ เพราะแบบว่า มันอายน่ะ กลัวมันจะแซว 
ม่วงมันมารู้ตอนที่พี่หลุยส์มาหาเราที่ห้องเรียน ถามว่า เมื่อวานทำไมไม่รับสายเลย ไอ้ม่วงก็ทำหน้างง คือเรานั่งข้างหน้า ส่วนไอ้ม่วงนั่งหลังเราไปสองโต๊ะ มันก็ลุกขึ้น เดินมาขนาบข้างเรา


เหมือนสมัยเด็กๆเลย เวลามีเรื่องมันจะชอบเดินมายืนประชิดหลัง แม่ะๆ เป็นลูกน้องที่ดีมากๆ แต่ตอนนี้ ให้ฉันได้ อ่อย ผช ก่อนได้มั้ย


พี่หลุยส์ก็ดู ไม่พอใจ ที่อยู่ๆม่วงมันเดินมายืนคร่อมเก้าอี้เรา มันเอาคางมาเกยๆหัวเรา แล้วมองหน้าพี่หลุยส์ 
เราเลยแบบ ว่ามัน “ ไอ้นี่หนิ คนจะคุยกัน ไปนั่งที่ไป๊” มันก็มองหน้าเรา แล้วเดินไปนั่งที่ ปึงปังๆ


พี่หลุยมองเราแล้วถามว่า เราเป็นอะไรกับมะม่วง เรานี่แทบลิ้นพันกันเลย ตอบไปว่าไม่มีอะไร แค่เป็นเพื่อนกันเท่านั้น 
เพื่อนแต่เด็ก ม่วงมันจะชอบทำแบบนี้เวลามีเรื่อง เพราะจะปกป้องเรา 
พี่หลุยก็ชวนเรา ไปกินข้าวเที่ยง เราก็ตกลง 


เที่ยงนั้น เรา ให้ไอ้ม่วงไปกินข้าวกับเพื่อนผู้ชาย ส่วนเราไปโรงอาหารกับพี่หลุย ไอ้ม่วงก็กวนบาทาสุดๆ มันมานั่งตะถัดไปจากเรา แล้วก็คุยเสียงดังมาก จนเรากับพี่หลุยพูดกันไม่รู้เรื่อง 


คือเราอดทนนะคะ เพราะพึ่งดีกับเพื่อน แต่ตอนนั้นไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเป็นอะไรของมัน หรือมันโกรธที่เราไม่เล่าหั้นฟังทุกเรื่อง


สองสามวันต่อมา มันก็ยังเป็นอยู่แบบนี้ คอยมากวนเราตลอด
จนเย็นวันนั้น มันนอนดูทีวีที่โซฟาบ้านเรา ก็คุยกันไปเรื่อยๆ เม้าเรื่องนั้นเรื่องนี้ คือถ้าไม่มีเรื่องพี่หลุยส์ มันจะปกติ เอาใจ กวนเรา
ฟังคำสั่งเราตลอด 


เราเลยถามมันว่า
“ม่วง ช่วงนี้เป็นไรวะ ทำไมชอบทำแย่ๆใส่พี่หลุย โกรธหรอที่ไม่ได้เราให้ฟังแต่แรก” เราก็พูดลอยๆ ไม่มองหน้ามัน มันก็เงียบ
“เออๆ ต่อไปมีอะไรจะเล่า เล่าทุกอย่างแหล่ะ หัวหน้าจะรักจะชอบใคร หัวหน้าก็ไม่ทิ้งเอ็งหรอก เอ็งน่ะ จะเป็นลูกน้องเบอร์หนึ่งตลอดไปเลย” เราพูดต่อ บีบแก้มมันด้วย 


มันก็เขยิบเข้ามา ขะยี้หัวเรา แล้วดมๆ 
“ใช้โดฟหรอ หอมดี” 
-..- เอิ่มมม ที่ตูพูด คุณมุงไม่ได้ฟังเลยใช่มั้ย


หลังจากนั้น เราก็เล่าทุกอย่างให้ไอ้ม่วงฟังนะ พี่หลุยส์ดีกับเรามาก เอาใจ และอดทนกับไอ้ม่วงสุดๆ จนวันนึงพี่เค้าพูดกับเราว่า


“น้องแคระ (สรรพนามเรียกเรา น่ารักป๊าววว อิอิ) ไปดูหนังกันไหม ไปแบบสองคนนะ” เราก็หันหน้าไป อยากไปใจจิขาด
แต่ถ้าไม่ชวนลูกน้องคนสนิท มันก็จะโกรธเราอีก ช่วงนั้นไม่รู้เป็นไร เรากลัวไอ้ม่วงโกรธมากๆเลย
“หมวยเล็กชวนมะม่วงไปได้มั้ยคะพี่หลุยส์ เดี๋ยวนี้มันผีเข้าผีออก มันจะงอนอีก” เราลองถามดู
“พี่ว่า น้องควรห่างๆจากม่วงบ้างนะ คือต่อไปเข้ามาลัยก็ต้องแยกกัน ตัวติดกันแบบนี้ ตลอดไม่ได้ แล้วหมวยเล็กจะไม่มีเวลาส่วนตัวเลยนะ ต้องลองดู ให้มะม่วงอยุ่คนเดียวบ้าง” 


เราก็อืม จริงแฮะ แต่ทำไมมันหวิวๆไม่รู้ แค่คิดถึงชีวิตที่ไม่มีมัน เราก็เหงาแปลกๆแล้ว


สรุปเสาร์นั้น เราโกหก มะม่วงว่า จะไปธุระกับที่บ้าน แล้วหนีไปดูหนังที่ห้างกับพี่หลุยส์ 
เราสูญเสียความบริสุทธ์ของแก้ม ให้พี่หลุยส์ในโรงหนังนี่แหล่ะ 
จำได้ว่า เราสองคนนั่งจับมือกันตลอด พี่หลุยส์กระซิบข้างๆหูเราว่า “พี่รักน้องแคระมากๆเลยรู้มั้ย” 
โหยย เรานี่อ่อนระทวยเลยค่ะ ละลายสุดๆ 
แล้วพี่เค้าก็ ยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มเรา เบาๆ อะเหื้อออออ!
ขนลุกตั้งแต่ตาตุ่มถึงซอกหู ตอนนั้นเรารู้สึกว่า นี่แหล่ะคือความรัก


เราเริ่มตัวติดพี่หลุยส์ จนถึงม.5 เลย  คบกันเกือบๆปีได้  ไอ้ม่วงก็ยังอยู่ในชีวิตเราปกติ บางวันก็มาค้างบ้านเรา  
หัวเตียงเราจะติดรูปคู่พี่หลุยส์ ไว้หัวเตียงเยอะมากๆ สูงเกือบติดเพดาน  เวลาม่วงมาห้องเรา มันก็จะบ่นๆ  เราเห็นบางรูปมันแอบเติมนวด ให้พี่หลุยส์ด้วย 


มันยังเป็นลูกน้องที่ดีเสมอ วันไหนที่มาค้างที่บ้าน  มันก็จะนอนฟังเราคุยโทรศัพท์ กับพี่หลุยส์จนดึกดื่น  ตอนแรกเราก็อายๆ กลัวมันแซว  แต่ผิดคาด มันฟังอย่างสงบ  และเงียบมากจนเหมือนไม่ได้อยู่ในห้อง
พอมันไม่แซว เราก็ไม่อายจ้า  จะรัก จะคิดถึง จะจุ๊บๆ ก็พูดต่อหน้ามันเลย 


พี่หลุยส์ชอบให้พูดว่าคิดถึงเสียงดังๆ ก่อนวางสาย
คือจะบอกว่า “อะไรนะ พูดใหม่ ไม่ได้ยินคะ”  จนเราต้องตะโกนใส่ พี่หลุยส์ก็จะหัวเราะ     ช่วงนั้นคุยกันเยอะ เพราะพี่หลุยเข้า ปีหนึ่ง ทำให้ยุ่งมาก ไม่มีเวลามาเจอ


พอพี่หลุยส์จบออกไป  เราก็เริ่มมีคนมาจีบเยอะขึ้น ได้ดอกไม้ ได้คิตแคต แล้วก็ลูกอม ขนมเยอะแยะ
ส่วนไอ้ม่วงก็ไม่แพ้กันจ้า   คือจำไม่ได้ว่ามันมาหล่อตอนไหน  คือเห็นมันทุกวันๆ  แต่สาวกรี๊ดมากๆ  วาเลนไทน์นะ ได้ขนมเยอะกว่าเราอีกแต่ก็ลาภปากเราทั้งนั้น หุหุหุ


ช่วงประมาณเทอมสอง  เราสนิทกับรุ่นนน้องคนนึง ขอใช้ชื่อสมมุติว่า แต้ว  น้องแต้วตัวเล็กกว่าเราอีกนะ น่ารัก ผมสวยด้วย  สนิทกันเพราะอยู่สีเดียวกัน เป็นหลีดด้วยกัน  


ไอ้ม่วงเวลาซ้อมบาสเสร็จมันจะมานั่งรอเราซ้อมหลีด  น้องแต้วก็จะเข้ามาคุยกับเราบ่อยๆ  วันนึงน้องถามว่า
“พี่หมวยเล็กเป็นแฟนพี่มะม่วงหรอคะ”  เราก็หัวเราะ
“จะบ้าหรา  พี่เห็นมันตั้งแต่เจี๊ยวยังเท่าหอยหมา ตอนนี้เท่าหอยช้างแล้วมั้ง ถ้าจะเป็นแฟนกัน นี่คบกันนานแล่ววว” น้องแต้วเลยยิ้มๆ
“หนูชอบพี่มะม่วงค่ะ พี่หมวยเล็กช่วยหนุหน่อยสิ หนูเลี้ยงติมลุงหนวด” เราก็ อาห๊า ไอติมลุงหนวดในตำนาน ใครเลิกช้า อด หมดแน่ เพราะแกขายดี 
“ โอเช นี่เบอมัน เอาไป โทรเลย อยากได้ อยากโดน ต้องห้าม ป๊อด” เรากดเบอร์ไอ้ม่วงให้น้องแต้ว น้องแกจดเร็วมาก (เห็นเงียบๆฝาดเรียบ เดี๋ยวบอกทีหลัง)
พอจดเสร็จ ไม่ถึงสิบนาทีเราก็ซ้อมต่อ แต่ก็เห็นไอ้ม่วงมานั่งรอแล้ว เพราะเราต้องซ้อนมอไซมันกลับบ้าน


คืนนั้นพ่อแม่มันไม่อยู่ มันมาค้างบ้านเรา (หลังจากพ่ออาละวาดครั้งนั้น เรากับมันเลยต้องนอนหน้าที่วี ในวันที่มันมาบ้าน ต้องอยู่ในสายตาผุ้ใหญ่)


เสียงโทรศัพท์มันสั่น มันเปิดดูแล้วก็บ่นๆ
“ใครวะ”    เราเลยแย่งมาดู เป็นข้อความว่า “ฝันดีนะคะ ผู้ชายในฝันของแต้ว” 
อะเหื้ออออออ  นางออกตัวแรงมาก  เราเลยบอกม่วงไปว่า
“น้องแต้วไง คนที่สวยๆน่ารักๆ ที่ซ้อมหลีดกับข้าน่ะ” มันก็บอกว่า ไม่ได้สังเกตุ  แล้วมันก็ไม่ตอบ  จนเราต้องว่ามันแล้วก็พิมพ์กลับไปหาน้องเค้าเองว่า“ฝันดีครับน้องแต้วคนสวย  จากพี่มะม่วง” น้องแกตอบมาว่า “ ดีใจจังเลยค่ะ พี่ตอบแต้วด้วย  พรุ่งนี้จะมาดูที่ซ้อมมั้ยคะ” เรานึกสนุกเลยพิมพ์ตอบไปว่า “ไปสิจ๊ะ ปดูน้องแต้วไง”


มะม่วงเห็นเลยรีบดึงมือถือกลับ แล้วเอาหมอบทุบหัวเรา เราก็เอาคืนสิจ๊ะ ตีๆ ทุบๆ  มันเลยรวบแขนเราสองข้าง กดไว้กับพื้น (จำได้แม่น เพราะเราตกใจสุดๆ)


มันกดเราไว้ แล้วโน้มตัวมาใกล้มาก  เรานี้ใจเต้นรัวๆเลย  เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าสู้มันไม่ได้ ทั้งๆที่มันอยู่ใต้คำสั่งเรามาตลอด


เรานี่กลั้นหายใจเลยนะ คิดว่ามันคงโกรธจริง  มันโน้นตัวมาจนปลายจมูกเราแต่กัน
“หมวยเล็กอยากให้ ... อยากให้เรามีแฟนจริงๆหรอ”  คือน้ำเสียงมันจริงจังโพดๆ เราแบบทำตัวไม่ถูก ไม่กล้ามองหน้ามัน 
เราทำไรไม่ถูก ก็เลยโพล่งไปว่า “ก็เออสิฟะ นี่จะจบมัธยมละอีกปีกว่า หาแฟนไม่ได้ หรือเอ็งเป็นตุ๊ดแว๊” เราก็พยายาม ฮาๆไป พอจะสบัดตัวออก มันยิ่งกดแรงขึ้น


“ออกไปได้แล้ว เจ็บจะตาย เดี๋ยวนี้ลามปามนะไอ้มะม่วง” เราแว๊ดๆต่อ แต่พอสบตามันก็ต้องรีบหุบปาก (ฉันโดนลูกน้องต่อยแน่ๆ)
มันตอบเสียงจริงๆจังว่า
“หัวหน้าจะลองดูมั้ย จะได้รู้ว่าเราเป็นผู้ชายหรือเปล่า”  
อื้หืออออออออออออออ!! 
ต้องอื้อหือสิท่านผู้ช๊มมมมมมมมมมม
มันกล้ามากกกกกกกกกก  อารมเดือดปุดก็มา ความรู้สึกแปลกๆก็มี   เราเริ่มน้ำตาคลอ  
ก่อนมันจะลุกขึ้นแล้วก็หัวเราะ แบบวัวตาย  
“เย่ มะม่วงชนะหัวหน้า แค่นี้ ก็กลัว แว๊ๆๆๆ หัวหน้าไม่เจ๋งนี่หว่า”  เรานี่ไล่เตะมันเลย  มันเลยรวบตัวเราไว้แล้วบอกว่าไปนอนข้างบนไป  ม่วงจะนอนข้างล่าง 
“ก็นอนหน้าทีวีนี่แหล่ะ ไม่เล่นละ เหนื่อย” มันก็ยังยืนยันให้เราไปนอนข้างบน     พอเราเห็นน้ำเสียงมันจริงจังก็เลย  หยิบหมอนแล้วเดินขึ้นห้อง


คือเราก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไร แต่มารู้ตอนหลังว่า คืนนั้น มะม่วงกำลังพยายามยับยั้งชั่งใจ ไม่ไปตามอารมณืจนทำอะไรแปลกๆกับเพื่อน


สองสามวันต่อมา  น้องแต้วกับไอ้ม่วงก็คุยกันมากขึ้น เรางี้แซวจนน้องแต้วอาย  จากที่เคยไปไหนกันสองคน 
ก็มีน้องแต้วไปด้วย 
แหม่ะ ไม่อยากจะเม้า เด็กนี่มันร้ายกาจ


ช่วงนั้นเรางอนพี่หลุยส์บ่อย  อาจจะเพราะเห็นไอ้ม่วงกับน้องแต้ว สวีทกัน เราเลยอิจฉา คิดถึงพี่หลุยส์ด้วย   มีครั้งนึงโกรธมาก เพราะมีผู้หญิงคนนึงมาโพสเพลงให้พี่หลุยส์ แล้วพี่หลุยส์ไปเม้น ทำหน้ายิ้มให้ คือเราเคืองมาก แต่พี่แกบอกว่าไม่มีอะไร  ประกอบกับ ปีหนึ่งรับน้องเสร็จแล้ว  เพื่อนๆพี่หลุยสืเลยจะปาร์ตี้กัน   พี่เค้าเลยชวนเราไปด้วย


แน่ล่ะท่านผู้ชมมมมมมมม  ไอ้มะม่วงมีหรือจะพลาด  
แล้วไอ้ม่วงไป  น้องแต้วก็ไปด้วยยย   ทีนี้แหล่ะเด็ดดดดดด


เรามีเรื่องเยอะแยะที่ต้องคุยกับมะม่วง แต่ไม่มีโอกาส ไม่กล้าด้วย 


มีความรู้สึกอยากจะเล่าให้ใครสักคนฟัง  เลยลองพิมพ์ไปเรื่อยๆ  ไม่น่าเชื่อว่าพรั่งพรูขนาดนี้
......
(ขอเล่าแบบละเอียดยิบเลยนะคะ)
วันนั้นเป็นปาร์ตี้ จบรับน้อง ก็มีสายรหัสพี่หลุยส์ และเพื่อนๆพี่หลุยส์ เกือบๆ 20 คน  เค้าจัดกันที่ร้านเหล่าแห่งหนึ่งที่ชั้นบนเป็นหอพัก  (พี่หลุยเรียนมหาลัยที่มีร้านเหล่าอยู่หลัง ม. ยังกะเมืองเมืองหนึ่งเลย)  


เราก็จัดเต็มสิคะ เพราะรู้แน่ว่า ผู้หญิงคนที่โพสเพลงให้พี่หลุย ไปด้วยเพราะอยู่สายรหัสเดียวกัน   พี่หลุยส์มารับเราที่บ้าน ส่วนไอ้ม่วงจะไปรับน้องแต้ว แล้วตามไปที่ร้าน


ตอนที่เราเดินลงบันใดนะ ยังกะฉากในหนัง(มโนเอง) พี่หลุยส์ยืนยิ้มแป้น แล้วทักว่า “โตเป็นสาว สวยขึ้นกว่าเดิมนะน้องแคระ”  เราก็ยิ้มเขินๆ ไม่ค่อยได้แต่งตัวสวยๆแบบนี้เท่าไหร่ ตอนนั้นเราไปซื้อกระโปรงที่ห้าง เลยล่ะ พันกว่าบาท แต่ใส่แล้วดูสวยมาก ดูมีเอว มีสะโพก  แล้วก็เสื้อแขนกุด สีขาว เอวลอยนิดๆ (เราอยากให้เซกซี่ เพราะรูปโปรไฟล์ ผู้หญิงคนนั้น เซ็กซี่มาก) แต่ก็ไม่อยากให้โป๊ ไป เลยแขนกุดนิดๆหน่อยๆละกัน  ( ตายจริง ม.5 เริ่มตะแล๊ดแต๊ดแต๋ซะแล้ว)  


พี่หลุยส์พูดชมไม่ขาดปากเลย  แล้วก็มีกลิ่นเหล้านิดๆ พี่เค้าบอกว่าโดนรับน้องมาตั้งแต่บ่ายแล้ว เลยมึนหน่อยๆ 
“หมวยเล็กสวยขึ้นทุกวันเลยเนอะ พี่ว่าตอนเข้ามหาลัย ต้องได้เป็นดาวแน่เลย สงสัยหนุ่มจะจีบเยอะแน่” พี่หลุยส์พูด
แม๋ๆๆๆ ตอนนี้ก็เยอะย่ะ จงภูมิใจซะไอ้พี่หลุยส์ 


เรามาถึงงาน  พี่หลุยส์ เปิดประตูรถให้  แล้วก็โอบเอวเราลงรถ จักกะจี๋ จนบอกไม่ถูกแฮะ
ตอนนั้น ไอ้ม่วงมาถึงงานก่อนแล้วพักนึงแต่รออยู่ข้างหน้า น้องแต้วไปเข้าห้องน้ำ


พอมันเห็นเราเดินมากับพี่หลุยส์ มันก็ส่งสายตาไม่พอใจมา 55555  รอนานล่ะสิเอ็ง
มันเดินมาหาเราแล้วถอดเสื้อคลุม ลายสะกอต (พิมพ์ถูกป่าว) ที่มันใส่ทับเสื้อกล้าม มาคลุมไหล่เรา   พี่หลุยส์ก็ดูตกใจ 
“ข้างในหนาวมาก” มันพูดแค่นี้
“พี่ว่

เรื่องราวชีวิตจริง...อย่า จูบ เพื่อนสนิท เพราะนั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน


เรื่องราวชีวิตจริง...อย่า จูบ เพื่อนสนิท เพราะนั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน


เรื่องราวชีวิตจริง...อย่า จูบ เพื่อนสนิท เพราะนั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน

ขอบคุณกระทู้พันทิป จากสมาชิกหมายเลข 2068218


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์