เลิก “ถ้า” ก่อนจะสาย

เลิก “ถ้า” ก่อนจะสาย



ผมเห็นตัวอย่างคนไข้หลายๆ คนที่รู้สึกเสียใจว่า ถ้าทำหรือปฏิบัติเสียก็จะดีต่อตนเอง แต่บางคนก็สายไป

 

          คุณสมชาย (นามสมมุติ) เป็นพาหะของตับอักเสบไวรัส บี เมื่อ 20 ปีที่แล้วมาพบผมเพราะเพลีย และตรวจพบว่านอกจากมีไวรัส บี แล้ว ตับยังอักเสบและเรื้อรังด้วย คือมีการอักเสบ (ค่า SGOT, SGPT สูงกว่าปกติ) เป็นเวลาหลายเดือน

 

          ในช่วงนั้นไม่มียารักษาไวรัส บี หลังจากที่เจาะเนื้อตับไปตรวจแล้ว พบว่ามีพังผืดแต่ไม่มาก ผมแนะนำให้ดูแลตัวเองโดยมีวินัยในการกินและอยู่ ผมเน้นมากๆ คือ งดดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด ให้เลี่ยงถั่วลิสง พริกป่น เพราะมีสารอัลฟ่าท็อกซิน และไส้กรอกทั้งอีสานและฝรั่ง เพราะมีสารก่อมะเร็ง เช่น พวกไนโตรซามีน และออกกำลังกายสม่ำเสมอและพักผ่อนให้พอ จะช่วยให้ร่างกายและตับแข็งแรงพอต่อสู้กับไวรัสได้

 

          ไม่กี่ปีต่อมา การอักเสบลดลงและเป็นปกติ แต่ยังมีไวรัส บี แต่สามารถทำงานในตำแหน่งการงานได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมงานและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

          คุณหมออย่าบอกความจริงน้องชายนะครับ จ้อยเป็นน้องชายคนเล็ก” “ผมว่าอาการหนักครับจริงๆ คุณจ้อย ผอม แก้มตอบ น้ำหนักลดลงมากในเวลาสั้นๆ มีตาเหลืองชัดเจน ผิวหนังสีคล้ำ

 

          คุณจ้อยบอกว่า น้ำหนักลดไป 6 กิโลกรัมใน 3 เดือนนี้เอง และสังเกตว่าปัสสาวะสีเข้มได้ 1 เดือน
ครับ ผมดื่มเบียร์ ไวน์ บางทีก็วิสกี้ ดื่มทั้งนั้น เบียร์ก็ 2 ขวด ไวน์ก็ครึ่งขวดหรือกว่านั้น ผมดื่มตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยนี่ก็ 20 กว่าปีแล้ว
คุณจ้อยพูดแล้วหลบตา แล้วคุณทราบว่ามีไวรัสหรือไม่ผมถามหลังจากพลิกดูรายงานเจาะเลือด คุณสมชายพี่ชายสอดมาให้ก่อนแล้ว ผมทราบครับเพราะตรวจกันทั้งครอบครัวและเป็นกันหมดเลย...

 

          นอกจากตับโตมาก คุณจ้อยยังมีน้ำในท้องและผิวหนังมีลักษณะของตับแข็งด้วย คือมีใยแมงมุมสีแดงบริเวณหน้าอก 4-5 จุด ฝ่ามือก็แดงคล้ำด้วย ผลอัลตราซาวนด์ตับของคุณจ้อยในวันต่อมา พบก้อนขนาด 8 เซนติเมตรในกลีบขวาและอีกก้อน 2 เซนติเมตรในกลีบซ้าย ค่ามะเร็งตับคือ Alpha-fetoprotein (AFP) สูง ถึง 32000 IU ซึ่งค่าปกติไม่เกิน 13

 

          เพื่อความแน่ใจอีก ผมส่งตรวจคลื่นแม่เหล็ก MRI (Magnetic Resonance Imaging) ผลก็ยืนยันว่า มะเร็ง คุณจ้อยเสียชีวิต 3 เดือนต่อมา พี่ชายมาเล่าให้ผมฟังทีหลังว่า ไม่กี่วันก่อนตาย น้องชายบอกว่า เสียดายและเสียใจมากที่ไม่ดูแลตนเอง และขอให้ช่วยเตือนพี่ชายพี่สาวให้ดูแลสุขภาพดีๆ

 

          คุณบุญชมคนไข้อีกคนที่เป็นโรคตับเหมือนกัน แต่เป็นโรคไขมันแทรกตับที่ไม่รุนแรงอะไร ไม่ดื่ม แต่สูบบุหรี่ วันละ 2-3 ซอง 10 ปีที่แล้ว ผมเริ่มสังเกตว่า คุณบุญชมพูดแล้วมีอาการหอบๆ ฟังหัวใจเสียง 1 และ 2 ค่อยลง รอบหน้าอกกลมโตขึ้น ที่สำคัญ เสียงหัวใจและปอดเบาลงและบางทีมีเสียงวิ้ดๆ เหมือนหลอดลมตีบ งดบุหรี่เถอะ เพราะถุงลมเริ่มพองแล้ว” คุณบอกว่าเหนื่อยง่ายเพราะว่าปอดหายใจได้ออกซิเจนเข้าไปน้อยลง และออกซิเจนซึมจากถุงลมเข้าไปในเลือดก็น้อยลง ครับ ผมจะพยายาม 10 ปีผ่านไป คุณบุญชมก็ยังสูบเท่าเดิม ผมอยากจะเลิก - เลิกไปได้ 3 เดือน แต่อาชีพผมมันเครียด ขายของที่ต้องรบกับคนทุกชั้นทุกประเภท บางที 2-3 บาทก็ต่อ แล้วไม่ซื้อ กว่าจะขายได้เหนื่อย (ใจ) ต้องเลี่ยงไปอัดควันเข้าปอด คลายเครียด

 

          10 ปีเท่านั้น ภรรยาคุณบุญชมแอบเล่าให้ผมฟังว่า สามีถึงกับน้ำตาไหลหลายครั้ง เวลาหอบและเหนื่อย ผมน่าเชื่อคุณหมอ ครับ สายไปแล้ว ถ้า (If) กลับตัวเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว อาจยังทัน แต่ขณะนี้มันสายไปเสียแล้ว

 

          ท่านผู้อ่านลองนึกดูน่ะครับว่า ถ้า (If) มีอะไรบ้าง บางเรื่องเราไม่ทราบ ก็ลองไตร่ตรองหาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วเดินหน้าเลยครับ ถ้าได้ยินได้ฟังหรืออ่านพบว่ามีประโยชน์หรือมีโทษ

 

          ความเห็นของผมเกี่ยวกับสุขภาพ ขอแนะนำให้รู้จักกิน กินให้เป็น เช่น กินผัก ผลไม้ เลี่ยงอาหารที่จะเป็นอันตราย เช่น ขนมหรืออาหารจำพวกแป้งที่ละเอียด โดยเฉพาะน้ำตาล ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป บุหรี่ไม่เด็ดขาด ไม่ประมาทในการตรวจเช็กร่างกาย แล้วออกกำลังกายสม่ำเสมอ อยากให้รักษาศีล 5 ทำบุญทำทาน นั่งสมาธิได้ก็ดี ทำไว้ เพื่อก่อนตายจิตจะได้สงบ มีสิ่งยึดให้จิตไปเกิดในสถานที่สูงส่งยิ่งขึ้น

 

          รู้จักกิน รู้จักอยู่ ออกกำลังกาย และระวังป้องกันไว้ก่อนชีวิตจะมีความสุขและยืนยาว

 

 

 

 

 

ที่มา : วารสารการเงินธนาคาร โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เติมชัย ไชยนุวัติ

และ สสส.thaihealth.or.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์