เวรกรรมมีจริง ! ! !

เวรกรรมมีจริง ! ! !





เรื่องนี้เป็นเรื่องของกรรมที่ต้องชดใช้ในเวลาอันรวดเร็วดัง

ที่โบราณกล่าวไว้ว่าภายใน 3 วัน 7 วัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

เพราะเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว!!เรื่องนี้ ท่านดร.พระราชวรมุนี รองเจ้าคณะภาค 17
 
และรองเจ้าอาวาสวัดดุสิดาราม กทม. ได้นำมาเล่าให้ฟังอีกต่อหนึ่ง


ท่านเจ้าคุณเล่าว่า

วันหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ให้ไปสวดศพแม่ครัวที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

แม่ครัวคนนี้ถึงแก่กรรมด้วยอุบัติเหตุที่ ไม่น่าเชื่อ

คือตกหม้อข้าวต้มตายแล้วท่านเจ้าคุณก็ขยายความต่อไปว่า

แม่ครัวผู้นี้เป็นมารดาของข้าราชการระดับสูงท่านหนึ่ง

เธอเป็นแม่ครัวรับจ้างทำอาหารเลี้ยงแขกที่มาในงานศพที่วัดแห่งนี้

แบบผูกขาดมานานจนร่ำรวย สามารถส่งเสียลูกๆเรียนจบมหาวิทยาลัย

ได้ดีไปหลายคนกรรมที่ทำให้เธอต้องมาพบอุบัติเหตุจนถึงแก่ความตายนั้น

เรื่องมีอยู่ว่า
 
วันหนึ่ง แม่ครัวผู้นี้เห็นว่าเนื้อหมูจำนวนมากที่นำมาสับเพื่อเตรียมทำข้าวต้มหมู

เลี้ยงแขกที่มาในงานศพนั้น หายไปอย่างผิดปกติทั้งๆที่เพิ่งสับเสร็จไม่นาน

แค่หันไปหยิบเครื่องปรุงหรือไปทำอย่างอื่นแค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว

พอหันกลับมาอีกครั้งเพื่อจะนำเนื้อหมูที่สับวางทิ้งไว้บนเขียงใส่ลงหม้อข้าวต้ม

ปรากฏว่าเนื้อหมูอันตรธานหายไปหมด โดยไม่มีร่องรอย

พอถามคนโน้นคนนี้ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง

เพราะต่างก็วุ่นกับงานของตัวเองแรกๆเธอก็คิดว่าไม่เป็นไร

แต่ครั้นเป็นอย่างนี้ติดต่อกันบ่อยครั้งเข้าใน

ทุกครั้งที่เผลอ เธอจึงอดรนทนไม่ได้

ดังนั้นจึงได้วางแผนที่จะจับเจ้าขโมยตัวดีเธอทำทีเป็นสับเนื้อหมูวางไว้

บนเขียงไม้เหมือนเดิมแล้วก็แสร้งหันไปทำอย่างอื่นเหมือนเคยแต่ทว่าตาคอย

แอบจับจ้องอยู่ที่เขียงไม้ตลอดเวลาทันใดนั้นก็มีลูกสุนัขผอมโซตัวหนึ่งซึ่งแอบ

ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะทำกับข้าวนั่นเองปีนขึ้นมากินเนื้อหมูสับจนหมดอย่างรวดเร็ว

แล้วก็กระโดดวิ่งหนีไปเมื่อเห็นว่าเจ้าหัวขโมยเป็นลูกสุนัข

เธอจึงรู้สึกโกรธแค้นมากจึงได้วางแผนที่จะจัดการเจ้าลูกสุนัขตัวนี้

ดังนั้นในวันรุ่งขึ้นเธอก็ทำทีสับเนื้อหมูทิ้งไว้บนเขียงไม้เหมือนเช่นเคย

แต่คราวนี้เธอไม่ได้วางเขียงไม้ไว้ที่เดิม

แต่กลับนำเขียงไม้ไปพาดกับปากหม้อข้าวต้มใบใหญ่ที่กำลังเดือดพลั่กๆ

อยู่แล้วเอาปลายไม้ข้างหนึ่งพาดหมิ่นๆไว้ที่ปากหม้อข้าว

จากนั้นเธอจึงเดินออกไปแอบดูอยู่ใกล้ๆฝ่ายเจ้าลูกสุนัขเมื่อเห็นไม่มีคนอยู่ตรงนั้น

มันจึงกระโดดเต็มแรงเพื่อขึ้นมากินเนื้อหมูสับอย่างเคย

แต่ทว่าปลายไม้ที่วางหมิ่นๆพาดกับปากหม้อข้าวไว้นั้นได้กระดกขึ้นมา

ทำให้เจ้าลูกสุนัขตกลงไปในหม้อข้าวต้มที่กำลังเดือดพลั่กๆทันทีผลคือตายคาที่

โดยไม่มีโอกาสได้ร้องเลยสักแอะเดียว

อนิจจา..เจ้าหมาน้อย



เมื่อจัดการกับเจ้าลูกสุนัขได้แล้วเธอก็รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจเป็นอันมากเพราะไม่

ต้องมาคอยกังวลว่าเนื้อหมูสับจะหายไปอีกเพียงไม่กี่วันเธอก็ลืมเรื่องนี้เสียสนิท

ประกอบกับหลังจากนั้นไม่มีงานศพที่วัดเธอจึงไม่มีงานที่ต้องมาทำอาหารเลี้ยง

แขกเวลาผ่านไป 7 วันครบวันที่ลูกสุนัขตายพอดี

วันนั้นเผอิญมีงานศพที่วัดแม่ครัวคนนี้ก็เข้าไปรับงานจัดเลี้ยงเหมือนเดิม

วันนั้นเป็นวันแรกของงานศพเธอจึงได้ต้มข้าวต้มหมูเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆมา

ขณะที่ข้าวต้มกำลังเดือดพลั่กๆอยู่นั้นเธอก็บอกคนงานให้มาช่วยยกหม้อข้าวลง

จากเตาไฟแต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นหูหิ้วหม้อข้าวต้มข้างที่เธอถือนั้น

เกิดหักหลุดจากมือ ตัวเธอจึงถลำลื่นหัวทิ่มลงไปในหม้อข้าวต้มใบใหญ่ที่กำลัง

เดือดพลั่กๆ นั้น ตายทันทีโดยไม่ทันได้ร้องสักแอะเดียว

เป็นชะตากรรมเดียวกับที่เธอทำกับเจ้าลูกสุนัขตัวนั้นอย่างไม่ผิดเพี้ยน!!

ลูกสุนัขกับแม่ครัวคนนี้คงจะเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาหลายภพหลายชาติ

ผูกพยาบาทอาฆาตกันไม่จบสิ้น ในชาตินี้จึงมาสร้างกรรมทำเวรซึ่งกันและกัน

เพิ่มเข้าไปอีก

ผู้เขียนขอย้ำว่ากฏแห่งกรรมนั้นมีจริง

เป็นจริงได้ตลอดเวลาโดยไม่คาดฝันสุดแท้แต่ว่าจะให้อโหสิกรรมต่อกัน

เลิกอาฆาตพยาบาทจองเวรกันและกันหรือไม่หากไม่ได้

ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เจริญสติปัฏฐาน 4ก็จะไม่รู้ซึ้งถึงกฏแห่งกรรม

จะไม่รู้ถึงการให้อภัยทานการเลิกอาฆาตพยาบาทกันและกัน

กฏแห่งกรรมนั้นนอกจากจะมีจริง

เป็นจริงแล้วยังเกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่อีกด้วยดังนั้นคงไม่มี

อะไรประเสริฐเท่ากับความมีเมตตา ให้อภัยต่อกัน ไม่ว่ากับคนด้วยกัน

หรือกับสรรพสัตวเพราะต่างก็มีชีวิต มีความรู้สึกเจ็บปวด ทุกข์ทรมานเหมือนๆกัน




P.s ขอขอบคุณบทความจาก อารมณ์ดีดอทคอม


เวรกรรมมีจริง ! ! !


เวรกรรมมีจริง ! ! !


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์