เอาน้ำ(แร่)ลูบท้อง

เอาน้ำ(แร่)ลูบท้อง



สำหรับคนกระเป๋าหนัก แค่น้ำสะอาด 8 แก้วต่อวัน อาจจะไม่เพียงพอ เพราะ "เขา" ว่า น้ำแร่จากธรรมชาติดีกว่า กินแล้วสวย สุขภาพดี แถมมีรสนิยม


บารัก โอบามา ประธานาธิบดีเมืองลุงแซม เป็นลูกค้าระดับพรีเมียมของน้ำแร่แบรนด์ดัง


ม.ล.จิราธร จิรประวัติ ศิลปินสุดอาร์ตฝั่งไทย ก็รักสุขภาพถึงขนาดได้เป็นลูกค้าวีไอพีบริษัทน้ำแร่ชั้นนำ ใหม่ เจริญปุระ นักร้องซูเปอร์สตาร์ ผันตัวเองมาเป็นแม่ค้าขายน้ำแร่ยี่ห้อ "ใหม่ เจริญปุระ" นี่ยังไม่นับรวม Celebrity ทั่วโลก ดาราฮอลลีวู้ด บอลลีวู้ด ดาราไทย เกาหลี ญี่ปุ่น และอีกหลายๆ ประเทศ ที่ยกให้น้ำแร่เป็นเวชสำอางมหัศจรรย์ ช่วยดูแลทั้งผิวพรรณและสุขภาพ


น้ำแร่ เป็นน้ำบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ มีแหล่งกำเนิดหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นใต้ดิน ใต้ทะเล หรือในหุบเขา ซึ่งความแตกต่างของที่มานี้เองทำให้น้ำแร่มีสารละลายที่มีคุณสมบัติต่างกันออกไป


น้ำแร่ที่มีเกลือซัลเฟตของโซเดียมหรือแมกนีเซียม จะเป็นยาระบายช่วยขับถ่าย น้ำแร่ที่มีฟลูออไรด์เป็นองค์ประกอบ มีประโยชน์ในการป้องกันฟันผุ น้ำแร่ที่มีฤทธิ์เป็นเบส ซึ่งมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในนั้น จะช่วยขับปัสสาวะ หรือน้ำแร่ที่เป็นด่างมีเกลือไบคาร์บอเนต อาจช่วยลดกรดในกระเพาะได้ ฯลฯ


เพราะน้ำแร่มีแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ มากกว่าน้ำสะอาดธรรมดาทั่วไป นั่นจึงเป็นเงื่อนไขที่ทำให้หลายๆ คนหันมาดื่มน้ำแร่แทนน้ำเปล่า ยิ่งคนที่มีต้นทุนในกระเป๋า ยิ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งสุขภาพดี


แร่นัก-นัก


การปรากฏตัวของ "ห้องสมุดน้ำ" หรือ Water Library ที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารจามจุรีสแควร์ สร้างความตื่นตัวให้กับผู้รักสุขภาพชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นแหล่งรวมน้ำแร่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยรวบรวมน้ำแร่คุณภาพดีจากทั่วโลกไว้มากถึง 11 ประเทศ


 "น้ำเปล่าไม่เพียงพอแล้ว น้ำแร่เป็นเหมือนทางเลือกหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ถ้ามีกำลังซื้อ สุขภาพก็คือการลงทุนอย่างหนึ่ง" ณัฐวิชช์ ชินธนภูมิไพศาล ผู้จัดการร้าน Water Library บอก


ณัฐวิชช์ ว่า หลายปีมานี้ คนไทยหันมาดูแลเรื่องสุขภาพกันมาก และน้ำแร่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยม ร้าน Water Library จึงเกิดขึ้น เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับคนที่รักการดื่มน้ำแร่ ซึ่งน้ำแร่ที่มีให้บริการในร้านนี้มาจากแหล่งน้ำแร่บริสุทธิ์จาก 11 ประเทศ ทั่วโลก เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมัน นิวซีแลนด์ เวลส์ ฯลฯ


ภายในแกนทรงกลมที่ตั้งอยู่กลางร้าน มีขวดน้ำหลายรูปแบบหลากสไตล์ตั้งอยู่ ผู้จัดการร้านคนเดิม บอกว่า มีลูกค้าจำนวนมากที่รักการดื่มน้ำแร่จึงเข้ามาใช้บริการที่ร้าน แต่ก็มีไม่น้อยเหมือนกันที่ตกหลุมรักบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ถึงขั้นซื้อไปสะสมกันเลยทีเดียว


สำหรับน้ำแร่ที่มีจำหน่ายในร้านนี้มีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิด อย่างเช่น Fine น้ำแร่จากญี่ปุ่น ที่มีอายุมากกว่าพันปีจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากเป็นพิเศษ จึงช่วยสร้างคอลลาเจนและเติมเต็มความงามให้กับเส้นผมและเล็บ หรือรสชาติหวานเล็กๆ เพราะมีปริมาณคาร์บอเนตสูงของน้ำแร่ Sole จากเมืองลอมบาร์ดี (Lombardy) ที่อยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี ก็มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต รวมถึงช่วยย่อยอาหาร สำหรับผู้ที่มีปัญหาการย่อยจึงเหมาะกับน้ำแร่ที่เมืองลอมบาร์ดีเป็นพิเศษ


Wattwiller เป็นน้ำแร่ธารน้ำธรรมชาติ จากแคว้นอาลซัส (Alsace) ประเทศฝรั่งเศส มีความบริสุทธิ์ปราศจากสารปนเปื้อน สำหรับผู้ที่กำลังควบคุมความดันโลหิต หรือผู้ที่ต้องการอาหารที่มีปริมาณเกลือต่ำ เหมาะกับน้ำแร่ชนิดนี้ เพราะไม่มีส่วนประกอบของไนเตรต


"น้ำตกลงบนพื้นโลกถ้าอยู่สถานที่ต่างกันก็จะได้แร่ธาตุที่ต่างกัน แต่ละพื้นดินไม่เหมือนกัน เช่น น้ำแร่จากญี่ปุ่นจะมีน้ำตกจากภูเขาไฟ แร่ธาตุตรงนั้นจะมีซิลิกา เยอะมาก ซึ่งจะดีต่อผม ต่อเล็บ...น้ำแร่ยี่ห้อ VOSS ของนอร์เวย์ เป็นน้ำจากน้ำแข็ง ที่เจาะมาจากใต้พื้นโลกโดยตรง จึงไม่โดนมลภาวะ แต่ที่ดีที่สุดคือ SQ เดนมาร์ก น้ำจะมีออกซิเจนเยอะมาก เทลงไปเหมือนโซดา ดื่มแล้วจะสดชื่นทันที"


จากแหล่งที่มาอันแตกต่าง ทำให้ราคาน้ำแร่ในร้าน Water Library ค่อนข้างสูง แต่สำหรับกลุ่มคนที่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะจ่าย น้ำขวดราคาหลักร้อย ไม่ถือว่าสิ้นเปลืองอะไรเลย


ราคาน้ำแร่โดยเฉลี่ยภายในร้าน ถ้าเป็นแบบ 75 มิลลิลิตร น้ำแร่แบบปกติ (still water) ราคา 170 บาท น้ำแร่แบบ Sparkling ราคา 220 บาท แต่ถ้าเป็นแบบ 1 ลิตร ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 240-280 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับต้นทุนนำเข้า ซึ่งมีบางขวดที่ราคาสูงถึง 380 บาทเลยทีเดียว


"ถ้าลงทุนกับสุขภาพ ผมว่าน่าจะดีกว่ามาป้องกันทีหลัง เพราะป้องกันอาจจะใช้ต้นทุนสูงกว่า ถ้าเราดูแลสุขภาพของเราดี ชีวิตของเราก็จะยาวออกไปอีก" ผู้จัดการร้านสรุป
 
รักน้ำแร่


น้ำแร่มาจากธรรมชาติ เพราะเป็นน้ำที่มาจากใต้ดิน ซึ่งมีแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ นั่นจึงทำให้ใครต่อใครเชื่อว่า น้ำแร่ดื่มแล้วดี จึงกลายเป็นเงื่อนไขที่บางคนนำมาใช้ในการเลือกน้ำดื่ม 


นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ บอกว่า น้ำแร่สำหรับดื่ม ควรเป็นน้ำที่ได้จากแหล่งธรรมชาติที่ไม่มีการปนเปื้อนแร่ธาตุที่เป็นพิษมากจนเกินมาตรฐานความปลอดภัย อาทิเช่น ตะกั่ว, สารหนู (Arsenic) ซึ่งข้อดีของการดื่มน้ำแร่คือ ได้ความชุ่มชื้น (Hydration), ลดอาการขาดน้ำ (Dehydration), เติมแร่ธาตุ (Mineral supplement), ปรับความดันโลหิต (Regulate blood pressure), สร้างสมดุลเกลือแร่ (Balancing electrolyte), ช่วยการทำงานกล้ามเนื้อ (Maintaining muscle function) และช่วยส่งกระแสประสาท (Nerve conduction)


ส่วนข้อเสียนั้น คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรวัฒน์ บอกว่า


 "ข้อเสียมีน้อยมากครับ เพราะน้ำแร่จากธรรมชาติที่ได้มาตรฐานสากลมักมีปริมาณแร่ไม่มากจนเกินไป และคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ดื่มน้ำแร่ทุกมื้อทุกวัน  ข้อควรระวังหากจะมีก็คงเป็นในกรณีที่มีภาวะพิเศษประจำตัว"


กลุ่มคนที่อยู่ในข่ายต้องระวังนั่นก็คือ ผู้ที่มีภาวะโรคไตหรือการทำงานของไตบกพร่อง เพราะจะทำให้ขับแร่ออกไปไม่ได้ จนมีแร่ธาตุเกิน ส่วนในคนที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก็อาจจะกระทบกับสุขภาพ เพราะแร่ “โพแทสเซียม” ซึ่งมีอยู่ในน้ำแร่มีผลต่อการเต้นหัวใจ นอกจากนี้ในรายที่มีปัญหาทางเดินปัสสาวะผิดปกติ ก็จะมีความเสี่ยงในการเกิดนิ่ว หรือเด็กที่ได้รับแร่ฟลูออไรด์มากพออยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำแร่เพราะการได้ฟลูออไรด์มากไปก็ไม่ใช่เรื่องดี


 น้ำแร่จากแต่ละแหล่งมีปริมาณแร่ธาตุต่างกันไปเสมือน “signature” หรือลายเซ็นเฉพาะของน้ำแร่จากแต่ละมุมของโลก แม้ปริมาณจะต่างแต่โดยส่วนใหญ่ชนิดของแร่ที่อยู่ในน้ำจะคล้ายกัน โดยมีตัวสำคัญหลักๆ ดังนี้ แคลเซียม, แมกนีเซียม, โปตัสเซียม, ฟอสฟอรัส, กำมะถัน (หากเป็นสายน้ำแร่น้ำพุร้อน) แร่ธาตุปกิณกะส่วนน้อย เช่น โบรอน, เหล็ก, สังกะสี, โครเมียม, แมงกานีส, ฟลูออไรด์ ฯลฯ


"สำหรับการดื่มน้ำแร่มีเทคนิคอยู่อย่างหนึ่ง คืออย่าหวังได้แร่ธาตุจากน้ำแร่แต่เพียงแหล่งเดียว เพราะไม่ได้มีปริมาณมากขนาดจะทดแทนแร่ธาตุสำคัญได้ทุกชนิด  แหล่งแร่ธาตุที่เราควรกินเติมเข้าไปนอกจากน้ำแร่คืออาหารธรรมชาติที่เรากินอยู่ทุกวันครับ หากทานได้ครบทั้งอาหารสดและน้ำบริสุทธิ์ก็ถือเป็นสิ่งที่เพียงพอ"


ต่อข้อซักถามที่ว่า มีศิลปินดาราทั้งเมืองไทยและต่างประเทศมากมายให้ความสนใจกับการดื่มน้ำแร่ และใช้ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ในการบำรุงผิวพรรณ เรื่องนี้คุณหมอกฤษดา ยืนยันว่า ช่วยได้จริงๆ


 "คำถามนี้ดีมากๆ ครับ เพราะเกี่ยวกับจิตใจเป็นหลัก สังเกตดูนะครับ พอเรารู้สึกว่าน้ำแร่ 'ไม่ใช่น้ำธรรมดา' เวลาดื่มก็รู้สึกดี  ยิ่งถ้าได้เอามาล้างหน้าหรือสเปรย์เข้าที่ใบหน้าก่อนแต่งหน้าก็ยิ่งรู้สึกพิเศษ คล้ายกับพระนางคลีโอพัตราที่รู้ว่า น้ำนมเป็นของหายากในอียิปต์โบราณ เมื่อได้เอาของแพงมาสรงสนานเล่นก็รู้สึกว่าน่าจะช่วยบำรุงผิวได้ สรุปว่า การใช้น้ำแร่ล้างหน้าก็ไม่เสียหายแต่อย่างใดครับ"


 เพิ่มเติมจากข้อซักถามนี้ คุณหมอชี้ถึงกลไกแห่งการรู้สึกดี นอกจากความสุขใจแล้ว น้ำสะอาดที่ชุ่มฉ่ำจะไปช่วยเติมน้ำให้ชั้นหนังกำพร้าที่แห้งผากให้ชุ่มชื้น ทั้งยังรู้สึกเย็นตอนน้ำนั้นค่อยๆ ระเหยออกไป ส่วนแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำแร่เมื่อรวมกับน้ำแล้ว จะช่วยลดอาการหน้าแห้งและไฟฟ้าสถิตบนผิวหน้าโดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแห้งอยู่เป็นเนืองนิตย์


 "น้ำแร่เป็นของที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาให้กับมนุษย์ครับ ฉะนั้นจึงถือเป็นของดีอย่างหนึ่ง ทุกอณูของน้ำที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ หรือแม้แต่กระแสน้ำที่ท่วมประเทศไทยอยู่ก็ล้วนเป็นอณูเดียวกับที่เมื่อมีกำเนิดโลก  มีอายุนับพันล้านปีพอๆ กับอายุของโลกเราแล้วพอผ่านกาลเวลาอันยาวนาน ไหลผ่านปฐพี หินผา จากยุคน้ำแข็งมาถึงยุคโลกร้อน น้ำนั้นก็สะสมสิ่งต่างๆ ผ่านกาลเวลาไว้มาก ดุจดั่งคนที่มีประสบการณ์สูงผ่านร้อนหนาวมามาก จึงมีทั้ง “น้ำ” และ “แร่ธาตุ” จากธรรมชาติรอบข้าง"


 แม้จะดูไม่มีพิษภัย แต่น้ำแร่ก็จัดเป็น "อาหารควบคุมเฉพาะ" โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 146 พ.ศ. 2535 ระบุว่า น้ำแร่ที่ดีต้องใส ไม่มีตะกอน และมีปริมาณแร่ธาตุไม่เกินกำหนดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่สำคัญคือ ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ทุกขวดต้องแสดง "คำเตือนบนฉลาก"


"การดื่มน้ำแร่ให้ดีก็อยู่ที่ 'ความพอดี' ครับ ดื่มสลับกับน้ำธรรมดาบ้าง นอกจากนั้นสำหรับผู้ที่ไม่อาจดื่มน้ำแร่ได้ก็ยังมีทางเลือกอื่นอีกนั่นคือ น้ำเปล่าครับ การดื่มน้ำเปล่าให้พอก็สามารถให้ความสดชื่นแก่ร่างกายได้ไม่แพ้น้ำใดๆ เหมือนกัน" นี่คือคำยืนยันปิดท้ายจากนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรวัฒน์



ขอบคุณ : bangkokbiznews.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์