แก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง

แก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง



           สาวๆ เคยเกิดอาการแบบนี้กันไหมคะ ที่เวลาเดินทางท่องเที่ยวจะสนุกสนาน ตื่นเต้นกับสิ่งรอบข้างและประสบการณ์ใหม่ๆ ลืมความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ากันไปเลย แต่หลังจากกลับมาจากการเดินทางแล้ว ร่างกายจะขาดสมดุล รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง จิตใจไม่แจ่มใส บางคนอาจจะปวดศีรษะ หรือไม่สบายไปเลยก็มี ดังนั้น เรามีวิธีทำให้ร่างกายกลับมากระปรี้กระเปร่าและรู้สึกดีขึ้นได้หลังจากการเดินทางค่ะ


ดื่มน้ำผลไม้
ผลไม้มีประโยชน์ในทุกสถานการณ์จริงๆนะคะ เพราะเมื่อร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง วิธีที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายนั้นก็คือ การดื่มน้ำผลไม้ประเภทสมูทตี้ (Smoothie) คือการใช้ผลไม้สดทั้งผลปั่นแบบไม่กรองกาก  เช่นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จะช่วยให้ร่างกายกลับคืนสู่สมดุล (rebalance) ได้เร็วขึ้นค่ะ

รับประทานอาหารแต่เช้า
ร่างกายคนเรามีระดับการเผาผลาญอาหารสูงสุดในช่วงเที่ยงวันค่ะ อาหารที่ดีคือ อาหารที่รับประทานแต่เช้า (คือภายในชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน) ควรรับประทานมื้อเช้าและมื้อเที่ยงเป็น "มื้อหลัก" โดยให้หนักไปทางโปรตีนและไขมัน

ส่วนอาหารมื้อเย็นควรเป็นมื้อเล็กหน่อย หนักไปทางคาร์โบไฮเดรต เช่น ผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสีที่มีคุณค่าสูง อาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย หลับสบาย และช่วยล้างพิษในช่วงที่เราหลับอยู่ค่ะ

หลับอย่างไรให้สนิท
ช่วงหลังกลับมาจากเดินทางบางคนอาจจะมีอาการนอนไม่หลับกระสับกระส่าย เนื่องจากร่างกายต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนเวลา อากาศ และสภาพแวดล้อม ดังนั้น ควรหาวิธีช่วยให้หลับสนิท โดยการดื่มนมอุ่นๆ เพราะนมมีกรดอะมิโนที่ช่วยในการนอนหลับ นอกจากนั้น ห้องนอนก็ควรมืดสนิทและเงียบ หลีกเลี่ยงการตั้งนาฬิกาปลุกในช่วง 45-120 นาทีแรก เพราะเป็นช่วงที่เรากำลังหลับลึก ถ้าตื่นในช่วงนี้จะทำให้เราเวียนศีรษะและไม่สดใสนะคะ

หายใจให้เป็น
ทำการฝึกหายใจแบบสบายๆ วิธีการฝึกทำได้โดยการหาที่นั่งเงียบๆ สัก 5 นาที นั่งหลังไม่งอและไม่เกร็ง วางมือข้างหนึ่งไว้ที่หน้าอกเบาๆ วางอีกข้างไว้ที่หน้าท้องเบาๆ หายใจเข้าและหายใจออกอย่างช้าๆ  พร้อมกันนี้ ให้ทำความรู้สึกว่า "หายใจเข้า...ฉันผ่อนคลาย"  "หายใจออก...ฉันผ่อนคลาย"  ช่วยคลายกล้ามเนื้อสมอง ลดความเครียดลง และผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ

ลองค่อยๆฝึกทำวิธีเหล่านี้ดูนะคะ อาการอ่อนเพลียหลังเดินทางอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวสักหน่อย แต่ก็จะดีขึ้นได้เองโดยมีวิธีไม่ยากและใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ





ที่มา vcharkarn

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์