แฉปากีสถานทำลายทิ้งรังบินลาเดน

           ประธานาธิบดีโอบามาออกสื่อแฉยังสงสัยเหตุใดปากีฯไม่รู้เรื่อง "โอซามา บิน ลา เดน" เข้ามากบดานอยู่ใต้จมูก แต่ยอมรับลุ้นระทึกช่วงนาทีจับตายด้วยฝีมือหน่วยซีลของสหรัฐโวได้หลักฐานมาเพียบพร้อมกำจัดให้ราบคาบ “อัล-กออิดะห์” เผยต้องระเบิดทิ้งรัง “อับบอตตา บัต” ไม่อยากให้สื่อเข้าไปวุ่นวาย ด้าน มท.1 ปากีฯ เผยรู้ตอนบุกแล้ว 15 นาที
   
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 พ.ค. แจ้งความคืบหน้าของปฏิบัติการไล่ล่าติดตามจนสามารถจับตายผู้ก่อการร้ายคนสำคัญของโลก นายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย “อัล-กออิดะห์” ที่เมืองอับบอตตาบัต ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา
   
ต่อมา ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “60 มินิทส์” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า รู้สึกกระวนกระวายในช่วงหน่วยรบพิเศษหน่วยซีลของกองทัพเรือสหรัฐ บุกเข้าไปสังหารนายบิน ลาเดน ถึงในบ้านพัก เพราะกังวลเรื่องแผนการทั้งหมด เหตุการณ์นี้กินเวลาประมาณ 40 นาที แต่เป็น 40 นาทีที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของตน
   
ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวต่อไปว่า แม้สหรัฐไม่ได้กล่าวถึงโดยตรงว่า รัฐบาลปากีสถานเข้ามาเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการลับสังหารผู้นำก่อการร้ายคนสำคัญ แต่รัฐบาลสหรัฐก็อยากให้รัฐบาลปากีสถานช่วยผ่อนปรนกระแสความไม่ไว้วางใจต่อกันที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยการยินยอมให้เจ้าหน้าที่สอบสวนของสหรัฐเข้าไปร่วมสอบภรรยาม่าย 3 คนของนายบิน ลาเดน ซึ่งอยู่ในความควบคุมของทางการปากีสถาน ซึ่งอาจจะได้ข้อมูลสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับกลุ่มอัล-กออิดะห์
   
ทั้งนี้ สหรัฐคิดว่าอาจมีเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนนายบิน ลาเดน อยู่ภายในประเทศปากีสถาน และสหรัฐก็จะกดดันให้รัฐบาลปากีสถานสอบสวนด้วยว่า เหตุใดจึงปล่อยให้นายบิน ลาเดน เข้าไปหลบอยู่ในปากีสถานนานตั้ง 5 ปี โดยที่ไม่ระแคะระคายเลย ซึ่งบ้านพักของนายบิน ลาเดน ก็เป็นเมืองที่ตั้งกองทหาร ห่างจากเมืองหลวงกรุงอิสลามาบัดประมาณ 56 กม.เท่านั้น
   
ประธานาธิบดีโอบามา ยังกล่าวอีกว่า ข้อมูลสำคัญมากมายที่เจ้าหน้าที่สหรัฐยึดมาได้ทั้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์, ฮาร์ด ไดร์ฟ และ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจากบ้านพักของนายบิน ลาเดนนั้น เป็นโอกาสที่ดีของสหรัฐในอันที่จะกำจัดกลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ให้ราบคาบ แต่ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกันสำหรับงานด้านข่าวกรอง ทั้งวิเคราะห์และประเมินข้อมูลที่รวบรวมมาได้ ประธานาธิบดีสหรัฐยังให้เครดิตกับผลงานของหน่วยซีลที่ปฏิบัติการจับตายนายบิน ลาเดน ได้สำเร็จ
   
นายทอม โดนิลอน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงประจำทำเนียบขาว แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐขอระงับแผนการที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีโอบามาจะไปเยือนประเทศปากีสถานอย่างเป็นทางการในปี 2554 นี้ ตามที่ประธานาธิบดีโอบามาได้ประกาศไว้เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว
   
สาเหตุนั้นก็มาจากกระแสความสงสัยเกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลปากีสถาน ซึ่งไม่รู้เรื่องเลยที่มีหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายคนสำคัญระดับโลกเข้าไปหลบอาศัยอยู่ในประเทศปากีสถาน จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับปากี สถานในขณะนี้ค่อนข้างหมางเมินต่อกัน
   
ด้านกลุ่มก่อการร้าย อัล-กออิดะห์ ได้ถือโอกาสแสดงการอาลัยต่อการเสียชีวิตของนายบิน ลาเดน ด้วยการประกาศว่า การลุกฮือขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลโดยประชาชนในหลายประเทศของโลกอาหรับนั้น เป็นชัยชนะ    ของกลุ่มอัล-กออิดะห์ นอกจากนั้นยังมีเทปเสียงที่บันทึกไว้ของนายบิน ลาเดน ก่อนเสียชีวิต ซึ่งสื่อโดยตรงไปถึงประธานาธิบดีโอบามาว่า สหรัฐจะไม่มีวันได้รับความปลอดภัย โดยปราศจากความมั่นคงปลอดภัยของชาวปาเลสไตน์
   
ส่วนที่ประเทศปากีสถาน มีรายงานว่า จากคำบอกเล่าของพยานทราบว่า เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงถึงอย่างน้อย 2 ครั้งในเมืองอับบอตตาบัต ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักนายบิน ลาเดน สำหรับที่มาของระเบิดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ผู้สื่อข่าวที่ปักหลักทำข่าวอยู่ที่นั่นนับตั้งแต่เหตุการณ์จับตายนายบิน ลาเดน กล่าวว่า ไม่พบวี่แววผิดปกติอะไร แต่มีความเป็นไปได้ว่า ทางการปากีสถานอาจจะต้องการระเบิดทิ้งบ้านพักของนายบิน ลาเดน ในเมืองอับบอตตาบัต เพราะไม่ต้องการให้สื่อเข้าไปทำข่าวในเมืองนั้นอีกต่อไป
   
นายเรห์มาน มาลิก รมว.มหาดไทยของปากีสถาน ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์อัล-อราบิยา โดยระบุว่า ตนทราบเรื่องปฏิบัติการของหน่วยรบพิเศษของสหรัฐที่สามารถสังหารนายบิน ลาเดน ได้สำเร็จนั้น หลังจากเหตุการณ์เริ่มขึ้นไปได้ 15 นาที แต่ไม่รู้ว่าใครคือเป้าหมาย
   
อย่างไรก็ตาม รมว.มหาดไทยของปากีสถาน ยอมรับถึงความร่วมมืออย่างถาวรในด้านความมั่นคงระหว่างปากีสถานกับสหรัฐ แม้สหรัฐได้ออกมาแสดงความวิตกเรื่องความน่าเชื่อถือของปากีสถานในสงครามต่อต้านก่อการร้าย.