แนะบริโภคน้ำมันอะโวคาโดลดอาการป่วย

แนะบริโภคน้ำมันอะโวคาโดลดอาการป่วย


นักวิจัยในเม็กซิโกเผยน้ำมันอะโวคาโดช่วยป้องกันโรคเบาหวาน-ความดันโลหิตสูง อะโวคาโด  เป็นที่รู้จักกันดีเรื่องคุณสมบัติในการช่วยลดคอเลสเตอรอล แต่ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้วิจัยพบว่า อะโวคาโดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันเซลล์ถูกทำลายจากปัจจัยทางสภาพแวดล้อมต่างๆ อาทิเช่น การแพร่กระจายของมลภาวะทางอากาศ ได้ด้วย

เม็กซิโก เป็นประเทศที่ปลูกอะโวคาโดมากที่สุดในโลก จากข้อมูลของสำนักเลขาธิการด้านเศรษฐกิจของเม็กซิโก ระบุว่า ในปี 2553 เม็กซิโก มีอะโวคาโดเป็นผลิตผลถึง 1.8 ล้านตัน ซึ่งส่งออกไปยังสหรัฐ ญี่ปุ่น แคนาดา และยุโรปเป็นหลัก เฉพาะรัฐมิโชอากังแห่งเดียว  ก็ผลิตอะโวคาโดเป็นจำนวนราว 18% ของอะโวคาโดทั้งโลก และราว 95% ของอะโวคาโดทั้งประเทศ

นายคริสเตียน กอร์เตส โรโจ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งมิโชอากัง ในเมืองซาน นิโคลัส ฮิดัลโก กล่าวว่า อะโวคาโด  มีบางสิ่งบางอย่างนอกเหนือไปจากรสชาติ ลักษณะ และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งเขาและทีมงานได้ค้นพบว่า น้ำมันอะโวคาโด มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ที่ช่วยป้องกันผลกระทบจากโรคต่างๆ ในกรณีที่ระบบเซลล์ไมโทคอนเดรียถูกขัดขวาง

ทั้งนี้ ไมโทคอนเดรีย เป็นส่วนประกอบในเซลล์  ที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ และแปลงพลังงานจากโมเลกุลของอาหาร ไปสู่สารให้พลังงานสูงแก่เซลล์ รวมไปถึงการแบ่งตัวของเซลล์ด้วย อย่างไรก็ตาม ไมโทคอนเดรีย  ยังมีโมเลกุลของออกซิเจน ซึ่งสามารถถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นอนุมูลอิสระ หลังจากสัมผัสกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมบางประการ ซึ่งรวมถึงการสูบบุหรี่ รังสี และมลภาวะ อนุมูลอิสระนี้สามารถแปลงโมเลกุล ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีหน้าที่สร้างเซลล์ ให้กลายเป็นอนุมูลอิสระได้เช่นกัน และนั่นเป็นการทำลายการทำงานของเซลล์

จากการทดลองร่วมกับยีสต์เซลล์ ทำให้เห็นผลว่า คุณสมบัติของอะโวคาโด มีส่วนช่วยต้านความชราและโรคบางโรคได้ เช่น โรคเบาหวาน และ โรคความดันโลหิตสูง

“การค้นพบที่สำคัญคือ น้ำมันอะโวคาโด ช่วยเพิ่มพูนกระบวนการทำงานไมโทคอนเดรียของยีสต์เซลล์ ในระหว่างเวลาที่อนุมูลอิสระลดลง นี่เป็นสิ่งสำคัญ  เพราะน้ำมันอะโวคาโด  อาจจะสามารถให้ผลเช่นเดียวกันนี้ในมนุษย์ ในกรณีของโรค ที่ทำให้ไมโทคอนเดรียถูกทำลาย น้ำมันอะโวคาโด ก็จะช่วยให้อวัยวะทนทาน หรือต่อต้านอนุมูลอิสระได้มากขึ้น” นายโรโจ  กล่าว

อะโวคาโด ซึ่งประกอบไปด้วยโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 เช่นเดียวกับวิตามินอี เป็นที่รู้จักในฐานะที่มีคุณสมบัติในการต้านสารอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่หลอดเลือด ด้วยการลดคอเลสเตอรอลและลดอัตราการเสี่ยง ที่หลอดเลือดจะถูกทำลาย สารต้านอนุมูลอิสระ ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มความแข็งแรง ให้แก่ผนังหลอดเลือด ทั้งยังช่วยให้หลอดเลือดปรับตัวได้ดีขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิตอย่างฉับพลัน

ด้วยคุณสมบัติหลากหลายประการนี้ บางพื้นที่ในรัฐมิโชอากัง จึงขนานนามอะโวคาโดว่าเป็น “ทองคำสีเขียว” เพราะเป็นเสมือนอนาคตของเศรษฐกิจท้องถิ่น นอกจากนี้ น้ำมันอะโวคาโดยังมีราคาอยู่ที่ลิตรละ 7.15 ดอลลาร์ เทียบเท่ากับราคาน้ำมันมะกอกเลยทีเดียว



ขอบคุณ : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์