แนะวิธีง่าย ๆ กินยังไงไม่ให้อ้วน ขอบอกว่าง่ายมากจริง ๆ

เชื่อว่าหลายคนก็คงคิดว่าการลดความอ้วนที่ดีคือการออกกำลังกาย 
แต่ Life Style ของแต่ละคนในชีวิตประจำวันนี้ คำว่า “ออกกำลังกาย” สะกดอย่างไร? ในชีวิตจริงบอกเลยว่าหาโอกาสไปออกกำลังกายยากมาก (หรือเป็นข้ออ้างก็ไม่รู้ ๕๕๕) 

ดังนั้นเราก็ควรโฟกัสวิธีดูแลตัวเองเรื่องของอาหารดีกว่า Teenee.com เลยจะแนะวิธีว่า

ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า อย่างไรที่เรียกว่าอ้วน … ความอ้วนนั้นนอกจากวัดกันด้วยสายตาแล้ว เราก็ยังมีสูตรในการวัดดัชนีมวลกาย หรือ BMI นะจ๊ะ สูตรง่ายๆ ดังนี้

ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว (กก.) / ความสูง x ความสูง (ม.) 

เช่น น้องกอหญ้า มีน้ำหนักตัว 90 กิโลกรัม และมีความสูง 170 เซ็นติเมตร ดังนั้น BMI ของน้องกอหญ้าคำนวณได้จากสูตร

90 / (1.7 x 1.7) = 31.1 

เกณฑ์ประเมินตามที่ WHO (องค์การอนามัยโลก) กำหนด

น้อยกว่า < 18.5 = ผอมเกินไป
ระหว่าง 18.5 – 24.9 = เกณฑ์เหมาะสม น้ำหนักปกติ
ระหว่าง 25.0 – 29.9 = น้ำหนักเกิน (แต่ยังไม่เรียกว่าอ้วน)
ระหว่าง 30.0 – 39.9 = อ้วน 
มากกว่า > 40.0 = อ้วนมาก เสี่ยงต่อภาวะอันตราย
โอเคในเมื่อรู้กันแล้วว่า ตัวเองอยู่ในเกณฑ์ไหน งั้นเราลองมาดูกันซิว่า มีวิธีอะไรบ้างในการกินที่จะไม่ให้อ้วน ลองมาดูกันเลยจ้า

1. กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น 
ผักและผลไม้เป็นอาหารที่เรียกได้ว่าคุณค่ามากล้นเหลือหลาย ผักและผลไม้หลายตัวมีวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะวิตามินเป็นธาตุที่ช่วยทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ถ้าเป็นไปได้น้าอ้วนแนะนำให้ทานผักในรูปแบบที่สดๆ หากนำไปทำอาหารแล้ววิตามินบางตัวจะสูญเสียไป และถ้าเป็นผลไม้แนะนำทานสดๆ เช่นเดียวกันเพราะจะทำให้ได้ไฟเบอร์ที่จะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายด้วยจ้า ตามงานวิจัยแนะนำว่าในแต่ละวันควรจะทานผักไม่ต่ำกว่า 400 กรัมนะจ๊ะ

ประโยชน์ของไฟเบอร์ แม้จะชื่อเหมือนสายไฟแต่บอกเลยว่าประโยชน์มากมาย ทั้งไฟเบอร์แบบที่ละลายน้ำช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (ป้องกันโรคเบาหวาน) และช่วยในเรื่องของการลดปริมาณคลอเรสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ และในส่วนของไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำ เจ้าตัวนี้จะช่วยเรืองของระบบขับถ่ายนะจ๊ะ ใครท้องผูกถ้าทานไฟเบอร์ในปริมาณที่เพียงพอช่วยได้แน่นอน และที่สำคัญช่วยลดความอ้วนได้เพราะจะทำให้เรารู้สึกอิ่มเมื่อทานอาหารประเภทที่มีไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำลงไป (ข้าวกล้องหรือผักต่างๆ)

2. ไม่ควรงดอาหารเช้า 
เคยได้ยินไหมว่า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ และหลายๆ สูตรแนะนำว่าควรจะกินมื้อเช้าอย่างราชา แล้วมื้อต่อมาเป็นยาจก ๕๕๕๕ แนะนำให้ทานมื้อเช้าในช่วงเวลาประมาณ 07:00 – 09:00 น. เพราะกระเพาะอาหารของคนเราจะทำงานได้ดีในช่วงเวลานั้น (เมื่อก่อนน้าอ้วนชอบกินมื้อเช้าประมาณเกือบ 10 โมง แต่ตอนนี้เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินเรียบร้อยแล้ว) เพราะถ้าเรากินข้าวเช้าสาย มื้อเที่ยงก็จะสายตาม และมื้อเย็นก็จะกลายเป็นมื้อดึกไปโดยอัตโนมัติ

3. หากจะทานข้าว (คาร์โบไฮเดรต)
 แนะนำให้ทานเป็นข้าวกล้อง เพราะข้าวกล้องเป็นข้าวที่ทำให้อิ่มได้นาน และย่อยได้ยาก (เพราะเป็นไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ) แต่คุณประโยชน์ของข้าวกล้องนั้นบอกเลยว่ามีมากมายกว่าข้าวขาว เพราะข้าวกล้องจะมีส่วนประกอบของข้าวที่สำคัญเช่นจมูกข้าว และเยื้อหุ้มเมล็ดข้าวซึ่งจะบอกเลยว่าเป็นส่วนที่สารอาหารมีเยอะที่สุด หรือถ้าเป็นขนมปัง น้าอ้วนแนะนำขนมปังตระกูลโฮลวีทจะดีที่สุด

4. เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ควรจะหันมาบริโภค 
เช่นน้ำผลไม้ต่างๆ หรือ นม เป็นต้น หากใครเป็นนักดื่มตัวยง เชื่อหรือไม่ว่าแอลกอฮอล์ที่เราดื่มเข้าไปนั้น ปริมาณ 1 กรัมให้พลังงานถึง 7 กิโลแคลอรี่เชียวนะ (เยอะกว่าโปรตีน และคาร์โบไฮเดรทซะอีก) และที่สำคัญเวลาไปแฮงก์เอาท์กับเพื่อน ดื่มกันน้อยซะที่ไหนหละ (ประสบการณ์ตรงเลยทีเดียว) และเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล เช่นน้ำอัดลม กาแฟสด ฯลฯ ถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงนะจ๊ะ เพราะแต่ละแก้วนั้นแคลอรี่พอๆ กับเรากินอาหารตามสั่งจานหนึ่งเลยจ้า แต่น้าอ้วนว่าเครื่องดื่มที่ดีที่สุดก็คือ น้ำเปล่า นั่นเองเพราะ “น้ำเปล่าทำให้สุขภาพดี มีแคลอรี่เท่ากับศูนย์”

5. เลือกกินของที่มีไขมันน้อย 
เชื่อเลยว่าของอร่อยมักทำให้อ้วน … และของอร่อยเหล่านั้นมันจะเป็นของทอด ๕๕๕๕ แน่นอนหละมีหลายเมนูเลยที่น้าอ้วนชอบมาก เช่นกล้วยแขกงี้ ไข่นกกระทางี้ ชีสเค้กงี้ ฯลฯ ซึ่งแต่ละอย่างล้วนทำให้อ้วน รู้หรือไม่ว่าไขมันปริมาณ 1 กรัม ให้พลังงานตั้ง 9 กิโลแคลอรี่เชียวนะ เยอะที่สุดแล้ว แต่!! ใช่ว่าน้าอ้วนจะไม่แนะนำให้งดเลย เพราะร่างกายยังคงต้องการไขมันเพื่อไปทำละลายวิตามินบางตัว ซึ่งได้แก่ A D E K ดังนั้นทานไขมันในปริมาณที่พอดี อย่ากินเยอะหละ

6. ไม่ควรกินอาหารในปริมาณที่ร่างกายนำไปใช้ไม่หมด
 เคยได้ยินคำว่า Input < Output = ผอม ไหมจ๊ะ? นี่แหละจ่ะ คือคำตอบว่าถ้าเราชอบไปกินหมูกระทะตอนเย็นบ่อยๆ ทำไมน้ำหนักถึงขึ้น เพราะว่าปริมาณของพลังงานที่เรากินเข้าไปในแต่ละวันนั้น มากกว่าปริมาณที่ร่างกายของเราเผาผลาญได้ ร่างกายจะเก็บพลังงานส่วนที่เหลือนั้นไว้เพื่อใช้ในโอกาสหน้า (เก็บไว้ในรูปแบบของไขมัน) ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนที่กินเยอะมักจะมีพุงและชั้นไขมันที่หนา

แนะวิธีง่าย ๆ กินยังไงไม่ให้อ้วน ขอบอกว่าง่ายมากจริง ๆ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์