แฝงเรื่องเล่า หมื่นทรง พันสี ที่ผมสาว

แฝงเรื่องเล่า หมื่นทรง พันสี ที่ผมสาว



เทรนด์ใหม่ เปลี่ยนไปในยุคนี้

    ในสมัยปัจจุบัน ทรงผมของผู้หญิงไม่ได้เพียงแค่ต้องการให้หนุ่มๆ เหลียวมองเท่านั้น หากแต่ทุกวันนี้ ทรงผมที่เปลี่ยนสไตล์ไปบ่อยครั้งของผู้หญิงทั่วโลก จะเน้นไปเรื่องแฟชั่นและความนำสมัย ตลอดจนเพื่อบ่งบอกถึงบุคลิกความเป็นตัวตนของผู้หญิงชัดเจนมากขึ้น

     ตัวอย่าง ของสาวๆ ที่เปลี่ยนทรงผม รวมถึงสีผม เพื่อเปลี่ยนลุคที่เราเห็นกันอยู่เป็นประจำในโลกมายาของวงการฮอลลีวู้ดก็ เช่น เลดี้ กาก้า, มาดอนน่า, บียอนเซ่, เจ.โล, คริสเต่น สจ๊วต, เมแกน ฟ็อกซ์ ฯลฯ รวมทั้งนางแบบระดับซูเปอร์โมเดลด้วยเหมือนกัน ทั้งนี้ การเปลี่ยนสไตล์ทรงผมของหญิงสาว ก็เพื่อที่จะให้ใบหน้าเปลี่ยนลุค ไม่เกิดความซ้ำซากจำเจนั่นเอง

      แต่เดิมนั้น สาวๆ ทั่วโลกต่างคลั่งไคล้อยากมีเส้นผมตรงเหยียดยาวและสีผมบลอนด์ตัดกับผิวสีขาว นวลสะอาดแบบชนชั้นสูงในยุโรป จึงจะเห็นได้จากรัฐริวเดจาเนโร หรือเมืองบูเอโนสไอเรส ในซูเปอร์มาร์เก็ตแผนกผลิตภัณฑ์สำหรับยืดเส้นผม จะมีผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มากกว่า 40ชนิดด้วยกัน เนื่องจากได้รับความนิยมจากสาวๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวในแถบอเมริกาใต้ที่ต้องการมีเส้นผมที่เหยียดตรง

      นั่นเป็นเพราะการปลูกฝังที่มีมานานว่า ถ้าหญิงสาวมีผมหยักศก สังคมจะประณามและเหยียดหยามได้ เพราะบรรดาทาสสมัยก่อนที่เป็นชาวแอฟริกันส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีผมหยิกด้วย กันทั้งสิ้น


     ในขณะที่ตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์เส้นผมในเมืองไทย มีความแตกต่างจากยุโรปและอเมริกา เนื่องจากเส้นผมในอุดมคติของสาวไทยนั้น ส่วนใหญ่จะชอบให้เหยียดตรงสีดำขลับเป็นเงางาม เห็นได้จากผลิตภัณฑ์ยืดเส้นผมจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับสาวๆ ในประเทศอื่นแถบเอเชีย ยกเว้นเพียงสาวญี่ปุ่นและฮ่องกงเท่านั้น ที่จะกล้าเล่นทรงผมอื่นๆ ที่ไม่ได้ยึดติดเฉพาะแค่ทรงผมเหยียดตรงเท่านั้น รวมทั้งยังกล้าที่จะเล่นสีผมไปตามแฟชั่นอีกด้วย สื่อวัฒนธรรม ผ่านทรงผมการเปลี่ยนสไตล์ทรงผมของสาวๆ ไม่ใช่เพียงแค่การแสดงออกถึงความต้องการตามกระแสเท่านั้น หากแต่ทรงผมยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมประเพณี และความเชื่อที่มีอยู่ลึกๆ ของผู้หญิงได้อีกด้วย


แฝงเรื่องเล่า หมื่นทรง พันสี ที่ผมสาว



Massimo Baldini ผู้เขียนหนังสือ II Linguaggio dei Capelli ที่ว่าด้วยการสื่อสารภาษาผ่านทางเส้นผม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สัญลักษณ์แห่ง Luiss di Roma ได้กล่าวว่า ในประเทศแถบทวีปแอฟริกา ทรงผมของผู้หญิงจะหมายถึงสัญลักษณ์ของการผ่านพ้นจากวัยหนึ่งไปสู่อีกวัย หนึ่ง จากวัยสาวรุ่นแรกแย้ม ไปสู่วัยชราร่วงโรย ส่วนในศาสนาอิสลาม มีกฎข้อห้ามว่า ผู้หญิงทุกคนต้องใช้ผ้าปกคลุมเส้นผมเอาไว้อย่างมิดชิด ซึ่งคนที่สามารถจะยลโฉมเส้นผมอันสลวยของพวกเธอได้ก็คือ คนที่เป็นสามีของเธอเท่านั้น ส่วนในชนเผ่าแอฟริกา และคาเมรูนนั้น เด็กหญิงจะถักเปียเป็นพันๆ เส้นบนศีรษะ และจะถูกตัดออกก็ต่อเมื่อถึงพิธีการฉลองการก้าวเข้าสู่วัยแรกรุ่น เช่นเดียวกับหญิงสาวชาวอาซานตี ส่วนหญิงสาวเผ่ากานา จะตัดหางเปียออกก็หลังจากแต่งงานแล้ว 


     นอกจากทรงผมจะสะท้อนถึงวัฒนธรรมของแต่ละชาติแล้ว ยังจะเป็นตัวบ่งบอกถึงความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันออกไปด้วย อย่างสาวแซมบ้า หรือละตินอเมริกา รวม

ทั้งนางงามเวเนซูเอล่า จะนิยมทำทรงผมให้เหยียดตรงดูพองหนา มีน้ำหนัก และจะไม่ชอบผมลีบแบน เพราะจะได้ดูเหมือนมีชีวิตชีวา มีสุขภาพดี


     แฟชั่นทรงผมในแต่ละยุคที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างในประเทศอังกฤษเทรนด์ผมจะชัดเจนและแรง ส่วนฝรั่งเศสจะเป็นกึ่งโรมัน คลาสสิก ส่วนของไทยจะเปรี้ยวและตามเทรนด์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวชาติไหนในโลก เทรนด์ผมยุคใหม่นี้ จะเน้นที่ความเป็นตัวของตัวเองและความเป็นธรรมชาติมากขึ้น


     ที่สำคัญคือ การดูแลรักษาสุขภาพของเส้นผมให้นุ่มสลวย เป็นเงางาม มีสุขภาพดี แข็งแรง ในทางตำราโหราศาสตร์ของจีน (โหงวเฮ้ง) จะถือว่าเส้นผมเป็นทิศเหนือ ซึ่งจะมีผลต่ออาชีพการงาน ชื่อเสียงเกียรติยศ ผู้ค้ำจุนอุปถัมภ์ และความร่ำรวยมั่งคั่ง ถ้าเราดูแลเส้นผมให้ดี ก็จะทำให้โชคชะตาเราดีขึ้นด้วยไม่ว่าผู้หญิงจะวาดเส้นสายลายสีผมอย่างไร นั่นเป็นเสมือนกระจกสะท้อนความเป็นตัวของตัวเองออกมาสู่สายตาผู้ที่พบเห็น เสมอ




ขอบคุณบทความวาไรตี้ดีดีจาก
yenta4.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์