แอบรักคนโสดสบายใจกว่าเยอะ

แอบรักคนโสดสบายใจกว่าเยอะ



ถ้าชายหญิงต่างมีใจตรงกัน และผูกสมัครรักใคร่ย่อมเป็นเรื่องดีที่ควรไชโยโห่ฮิ้ว ให้กับความรักของพวกเค้าใช่ปะ แต่มนุษย์บางคนไม่งั้นสิ นอกจากจะหาแฟนเป็นตัวเป็นตนด้วยความสามารถของตัวเองไม่ได้แล้ว (...เอ่อนี่ไม่ได้เยาะเย้ยนะฮ้า เพราะหลายคนยังไม่อยากรีบมีแฟนก็มี) แต่บางท่านที่ใช้กำลังภายในก็แล้ว กลับไม่สมประสงค์ในรักสักที จึงได้แต่แอบชอบหรือหลงรักใครๆไปเรื่อย 

ซึ่งการที่คุณจะไปแอบหลงรักหรือชื่นชอบใครก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากคุณยังเป็นโสดอยู่ เพราะแหม...ชีวิตเราช่วงนึงก็ต้องอยากดิ้นรนหาแฟนที่สามารถจะเป็นเพื่อนได้ด้วยดิใช่ไหมล้า
 ทีนี้ปัญหามันอยู่ตรงนี้ท่าน ถ้าเผื่อคุณไปแอบรักใครเข้า แถมในใจของคุณยังเรียกร้องอยากเป็นแฟนเค้าซะด้วย แล้วทีนี้คุณจะรู้ได้ไงล่ะว่าคนที่คุณไปชอบเค้าน่ะ เค้ายังไม่มี "เจ้าของ" เป็นตัวเป็นตนแน่นะ เอ้า...ไม่รู้ซะแล้ว ว่าสมัยนี้คนโสด ที่ยังไม่มีแฟนน่ะหายากจะตาย หันไปทางไหนก็เห็นมีแฟนแล้วทั้งน้าน เพราะบางคู่ควงกันตั้งแต่ สมัยเป็นนักศึกษานู่น พอควงไปควงมาก็เลยลากยาวเป็นแฟนกันไปจนถึงตอนมีงานมีการทำซะเลย เพราะฉะนั้นคุณควรมั่นใจหน่อยนะฮ่ะว่า คุณไม่ได้ไปแอบรักคนมีแฟนแล้ว ให้หัวใจดวงน้อยๆ ของคุณต้องชอกช้ำทรมานใจเอาไงล่ะ แล้วถ้าเผื่อคุณไปเผลอรักคนมีเจ้าของทั้งๆที่รู้ตัว หรือไม่รู้มาก่อนว่าเค้ามีแฟนแล้ว ย่อมทำให้ คุณอึดอัดใจเองนั่นแหละ ว่า...ความรักครั้งนี้ของคุณคงไม่สม-หวังหรอก แม้โอกาสสมหวังจะมีอยู่บ้างอ่ะนะอ้าว ในเมื่อคนที่คุณแอบปิ๊งเค้าน่ะ ดันมีแฟนอยู่แล้วทนโท่ แถมต่อให้เค้าเองก็รู้สึกชอบคุณด้วยก็ตาม (ไอ้นี่เจ้าชู้เว้ยเฮ้ย!) แต่คุณจะแน่ใจได้ไงล่ะว่า เค้าจะทิ้งน้ำพริกถ้วยเก่าที่บ้าน แล้วมาเชิดชูให้เกียรติคุณเป็น "แฟนนัมเบอร์วัน"? ยิ่งถ้าหน้าตาของคุณไม่ได้สวยสดใสเหมือนนางเอกในละครทีวี แถมหุ่นก็ห่างไกลจากการเป็นนางแบบด้วยแล้ว โอกาสที่เค้าจะมาเกาะแกะคุณน่ะก็เป็นไปได้ แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น โห...งี้ทำใจไว้เลยเถอะว่า อย่าไปแอบปิ๊งคนมีเจ้าของเล้ย มันบาปนะน้องนะ

คุณจะกล้าเปิดเผยให้บุพการีของคุณรู้รึว่า คุณรักคนมีเจ้าของแล้ว

ว้ายตาย ขืนไปบอกให้พ่อแม่ของคุณฟัง มีหวังท่านคงหน้ามืด, เป็นลมและจับไข้แน่นอน ก็โห ขนาดบางครอบครัวแค่รู้ว่าลูกสาวของตัวเองไปชอบพ่อม่ายที่เลิกร้างจากเมียเก่าไปแล้ว เชื่อมะบางทียังรับไม่ค่อยจะได้เลย แล้วนับประสาอะไรวะ จะยอมให้ลูกสาวของตัวไปอินเลิฟกับคนมีแฟนแล้ว แถมคู่นั้นเค้ายังไม่ได้เลิกกันซะหน่อย แต่อยู่ดีๆคุณก็เข้าไปเป็นมือที่สามซะงั้น 

ถ้าคุณแอบรักคนมีเจ้าของละก็ คงต้องเก็บความลับนี้ไว้กะตัวแล้วล่ะ
 
เพราะถ้าขืนใครรู้เข้าว่า คุณไปชอบคนมีแฟน แล้วละก็ สังคมอาจมองคุณด้วยสายตาประหลาดๆ ปนตกใจและเสียดาย เอาก็ได้ว่า โถสวยฉิบเป๋งขนาดนี้แล้วยังต้องไปแย่งแฟนคนอื่นมาอีกรื้อ ไม่น่าเลยนะ หล่อน อู้ย...แล้วตกเป็นขี้ปากชาวบ้านแล้วมันดีตรงไหนละแม่คู้ณ สู้ทำตัวให้ชาวบ้านสรรเสริญไม่ดีกว่าเหรอ จะได้ไม่เสียเซลฟ์ (เสียความเชื่อมั่นในตัวเองด้วย) งั้นมามะ หันมาหลงใหลได้ปลื้มหรือแอบรักคนที่ยังไม่มีแฟนดีกว่านะจ๊ะ บางทีถ้าอีกฝ่ายเค้าเห็นความน่ารักน่าพิสมัยปนกะเปิ๊บกะป๊าบของคุณ ไม่แน่น้าถ้าฟลุกๆ บางทีเค้าอาจคิดอยากจีบ คุณเป็นแฟนซะเลยก็ได้ เอ้า ทีนี้มาพิจารณาดูละกันว่า คุณกำลังแอบมีใจให้หนุ่มโสดอยู่รึเปล่า? โดย พิสูจน์จากพฤติกรรมของเค้าดังต่อไปนี้ เช่น....

--------------------------------------------


1. เค้ามักเดินทางมาทำงานคนเดียวรึเปล่า?  
หยั่งงี้คุณต้องเป็นนักสืบหัวเห็ดซะหน่อยแล้วว่า ถ้าส่วนมากหนุ่มในฝันที่คุณแอบปลื้มมักเดินทางมายังที่ทำงานเพียงลำพังบ่อยๆ  โดยไม่มีใครติดสอยหอยตาม...เอ๊ย ติดสอยห้อยตามละก็ นี่ย่อมทำให้คุณมั่นใจไปได้เปลาะนึงแล้วไงว่า เค้าน่าจะเป็นโสดอยู่ แต่ถ้าคุณตามดูพฤติกรรมการมาทำงานของเค้าแล้ว ปรากฏว่า บางวันมีสาวขับรถมาส่งแฮะ เอ...งั้นอย่าเพิ่งฟันธงว่าสาวคนนี้เป็นแฟนเค้าละกัน เพราะขอให้ดูหน้าตาของเธอก่อนเถอะว่า ใบหน้าบอกอายุว่าอ่อนหรือแก่กว่าเค้าแค่ไหน? หากสาวเจ้าในรถหน้าแก่งั่ก อาจเป็นพี่สาว, น้า, อา หรือป้ามาส่งน้องชายหรือหลานก็ได้ แต่ถ้าหน้าตาสาวคนนี้สวยเช้ง แบบนี้ก็น่าสงสัยอยู่นา แต่แค่สงสัยไว้อย่าเพิ่งด่วนสรุป แหม เค้ายังไม่ทันนั่งรถมากะสาวแถมมีเด็กทารกอยู่ในรถด้วยซะหน่อย จึงอย่าเพิ่งตีโพยตีพาย

2. ส่วนใหญ่เค้าไปทานข้าวกลางวันคนเดียว หรือไปเป็นหมู่คณะ 
ถ้าไปทานข้าวคนเดียวก็หวานหมู แสดงว่ายังไม่มีแฟนแหงแก๋ แม้แต่ต่อให้เค้าไปทานข้าวกะเพื่อนฝูง ถ้าในกลุ่มที่ไปด้วยกันไม่มีสาวปนมาเลยสักคน ดังนั้น เปอร์เซ็นต์ที่เค้ายังเป็นโสดอยู่ก็มีความเป็นไปได้สูง แค่นี้คุณก็พอยิ้มออกแล้วใช่ม้า 

3. เค้าใช้เวลาในวันศุกร์ไปไหนนะ
นอกจากจะทำตัวเป็นนักสืบจำเป็นแล้ว คุณก็ขอให้เพื่อนของคุณซึ่งดั๊นเป็นเพื่อนของเค้าช่วยหาข้อมูลส่วนตัวของเค้าให้คุณซะสิ เพราะสิ่งน่ารู้ อย่างนึงก็คือคืนวันศุกร์เค้าเคยมีนัดไปเดทกับสาวที่ไหนรึเปล่า? หากรู้ว่าก็มีบ้างแต่ไม่จริงจังอะไร เฮ่อ...ค่อยโล่งใจได้หน่อย

4. อย่ามัวแต่แอบรัก แต่จงให้เพื่อนคุณช่วยเป็นแม่สื่อแนะนำให้พวกคุณทั้ง 2 ได้เริ่มต้น รู้จักกันซะ
เมื่อรู้จักกันแล้วทีนี้คุณอยากถามอะไรเกี่ยวกับตัวเค้าก็ทำได้เลย    (ไม่ต้องคอยเดาแล้ววุ้ยทีนี้)   งั้นครั้งนี้ขอให้บุพเพอาละวาดสักทีเถอะเพี้ยง!  


ที่มา

เย็นตาโฟร์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์