โชคดีแค่ไหนแล้วที่มีตาอ่านหนังสือ

โชคดีแค่ไหนแล้วที่มีตาอ่านหนังสือ


โชคดีแค่ไหนแล้วที่มีตาอ่านหนังสือ


รู้ใช่ไหมว่า คนตาบอดเขาอ่านหนังสือได้อย่างไร..?
ถูกแล้วครับ เขาอ่านโดยใช้นิ้วสัมผัส(ในความนูนของ)อักษรเบล

กว่าจะได้แต่ละอักษร ประกอบมาเป็นคำ เป็นประโยค ไม่บอกก็รู้ว่าต้องใช้เวลานานเพียงใด แต่เพียงเพื่อจะได้รู้ว่าโลกภายนอก(ที่สายตาของเขาไม่อาจมองเห็น)เป็นอย่างไร จะลำบากเพียงใดก็มิย่อท้อ

..ทีละตัว..ทีละคำ..ทีละประโยค.. ..ทีละตัว..ทีละคำ..ทีละประโยค..ๆๆๆๆ อยากรู้.. ๆ ๆ

คิดถึงเขา คิดถึงเรา เรายังดีกว่าเยอะนะ แล้วทำไมเราไม่ขยันอ่านหนังสือล่ะ
หรือจะรอให้ตาบอดซะก่อน อยากให้รู้จังว่าเราโชคดีมากเพียงใด

กิร...ได้ยินว่า ที่ญี่ปุ่นมีชายตาบอดคนหนึ่ง โชคร้ายจัง ที่อ่านหนังสือได้ไม่สะดวกเหมือนเพื่อน ๆ ที่ตาบอดทั้งหลาย เพราะความที่ในอดีตเคยเป็นโรคเรื้อนอย่างรุนแรง ทำให้ปัจจุบัน ปลายประสาททั้งนิ้วมือและเท้าของเขาไร้ความรู้สึก มิสามารถสัมผัสถึงความนูนของอักษรเบลได้...

งงล่ะซิว่าเขาอ่านหนังสือได้อย่างไร
..ทีละตัว..ทีละคำ..ทีละประโยค.. ..ทีละตัว..ทีละคำ..ทีละประโยค..ๆๆๆๆ อยากรู้.. ๆ ๆ

ด้วยฉันทะ สนใจใคร่รู้โลกอย่างแรงกล้า..โดยไม่ย่อท้อ..
เขาใช้ "ลิ้น" ครับ
ทีละเล็กทีละน้อย ..ทีละตัว..ทีละคำ..ทีละประโยค
กว่าจะจบบรรทัด กว่าจะจบหน้า
ค่อย ๆ ลากลิ้น ค่อย ๆ เลีย อยากรู้ ๆ ๆ ...

หากวันใดใช้ลิ้นลาก อ่านหนังสือเกินกว่า 2 ชั่วโมง ลิ้นจะถลอก
หากฝืนสังขารไม่หยุดอ่านเลือดก็จะไหลออกมา จำเป็นต้องหยุดอ่าน
กระทั่งจนปัจจุบันเขาไม่เคยหยุดอ่านหนังสือแม้แต่วันเดียว ถึงจะอ่านได้เพียงวันละ 2 ชั่วโมง แม้วันละเล็กละน้อยก็ตาม

นั้นคือเขา...คนที่ด้อยกว่าเรามากมายในศักยภาพในการอ่าน แต่ความใคร่รู้ของเขากลับชนะเราขาดลอย

ตระหนักซิว่าเราโชคดีเพียงใด แล้วทำไมยังกล้าที่จะบ่นว่าขี้เกียจอ่านหนังสืออีกล่ะ ทีละเล็ก ทีละน้อย ขอให้อ่านทุกวันให้เป็นนิสัย อย่าให้อายเขานะ






ขอบคุณบทความจาก ทำดีดอทเน็ต(จั่นเจา)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์