ใช้ครีมกันแดดอย่างไรให้ได้ผล


ผลิตภัณฑ์ป้องกันผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เจอ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาผิวพรรณขึ้นได้ เนื่องจากรังสีที่มีอยู่ในบรรยากาศมากกว่าปกติ หากสะสมติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือสัมผัสมากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดขึ้นเร็วเท่านั้น ดังนั้นการป้องกันอันตรายจากรังสียูวี ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดจึงมีความจำเป็น เพื่อลดการสัมผัสของผิวหนังต่อรังสีให้มากที่สุด แต่ก็ต้องอาศัยครีมกันแดดที่มีคุณภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งครีมกันแดดที่มีอยู่ตามท้องตลาดก็มีให้เลือกมากมาย Health News มีเคล็ดลับการเลือกใช้ครีมกันแดดให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมาบอกกัน

1. ใช้ครีมกันแดดประเภทป้องกันรังสีได้เต็มที่ คือ SUNSCREEN หรือ SUNBLOCK ไม่ควรใช้ซันแทน (SUNTAN) เพราะมีส่วนผสมของสารกันแดดเพียงเล็กน้อยหรือไม่มี เพื่อยอมให้รังสีผ่านลงไปกระตุ้นเซลล์สร้างสีให้ผิวมีสีแทนหรือสีคล้ำขึ้น จุดประสงค์คือทาแล้วผิวเข้มโดยไม่เกรียม ในขณะที่ครีมกันแดดชนิด SUNSCREEN ไม่ต้องการให้รังสีเล็ดลอดผ่านครีมลงไปสู่ผิวหนังหรือผ่านไปได้น้อยที่สุด

2. ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันให้เป็นนิสัย แม้จะอยู่แต่ในบ้านก็ตาม เนื่องจากการที่ผิวได้รับรังสีนั้นไม่จำเป็นจะต้องได้รับต่อเมื่อออกไปสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง แม้อยู่ในที่ร่มภายใต้อาคาร ในบ้าน และที่ทำงาน ก็ได้รับรังสีซึ่งส่องทะลุกระจกใส และสะท้อนผนังและพื้นที่เรียบเป็นมันได้

3. ทาครีมกันแดดก่อนเวลา 8.00 น. เพราะรังสีจะทวีปริมาณมากขึ้นตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสม คือปริมาณ 15 ซึ่งค่า SPF ขนาดนี้จะช่วยป้องกันรังสีได้ทั้งวัน หากค่า SPF ต่ำ ก็จะป้องกันได้น้อยลง แต่ถ้าใช้ค่า SPF สูงเกินไปก็จะเกินความจำเป็น เนื่องจากตอนเย็นรังสีอุลตร้าไวโอเลตจะลดน้อยลง การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เช่น 30 จึงไม่มีประโยชน์ ค่าของการใช้งานก็เท่ากันกับครีมกันแดด SPF 15

4. การทาครีมกันแดด ควรทาก่อนแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง รวมทั้งผู้ที่มีผิวแห้งที่จำเป็นต้องใช้ MOISTURIZER ก็ควรทาครีมกันแดดก่อนเช่นกัน เพื่อให้สารกันแดดเกาะผิว หากทาหลังเครื่องสำอาง หรือ MOISTURIZER จะทำให้ครีมกันแดดอยู่ได้ไม่นานที่จะป้องกันผิวได้ทั้งวัน และการทาครีมกันแดดไม่ช่วยป้องกันหน้าหมองจากความร้อน ถึงแม้ทาครีมกันแดดก่อนไปเที่ยวทะเลก็ทำให้หน้าหมองจากความร้อน แต่หน้าหมองจากความร้อนเกิดไม่นานและจะหายไปเองได้ใน 3-7 วัน แต่ตรงกันข้ามถ้าไม่ทาครีมกันแดดก่อน หน้าจะหมองคล้ำและไหม้เกรียมจากรังสีซึ่งจะใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะหาย

5. การเลือกใช้ครีมกันแดด ควรเลือกครีมที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดสิวโดยเฉพาะน้ำมันบางชนิด เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือสารที่ทำให้เนื้อครีมเนียนละเอียด ซึ่งอาจจะต้องปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญว่าสารชนิดใดควรใช้หรือไม่ควรใช้สำหรับผิวหน้าควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่ออกแบบสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้ครีมกันแดดสำหรับทาตัวมาใช้กับใบหน้าเนื่องจากผิวหน้ามีลักษณะแตกต่างจากผิวกาย เช่น มีต่อมไขมันมากกว่ารูขุมขนลึกกว่า ทำให้เป็นสิวได้ง่าย อีกทั้งผิวหน้าก็เป็นส่วนที่มีโอกาสสัมผัสกับสารภายนอกมากกว่าดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบใช้กับผิวหน้าจึงต้องพิถีพิถันมากกว่า

6. ผู้ที่ควรจะต้องใช้ครีมกันแดดป้องกันผิวเป็นประจำ คือผู้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้า กระ และแพ้แดด ส่วนผู้ที่ปรารถนาจะป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่น ควรใช้ครีมกันแดดเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนอายุ 30 ปี ซึ่งเป็นระยะที่ผิวเริ่มเปลี่ยนแปลงภายในหรือก่อนหน้านั้นมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นการดี

ในปัจจุบันรังสีจากแสงแดดเป็นมหันตภัยร้ายที่คนทั่วไปมองไม่เห็นและยังไม่ตระหนักถึงอันตราย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากรังสีนั้นค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลานานจนสังเกตไม่เห็น โดยเฉพาะการเกิดมะเร็งผิวหนังและผิวแก่ก่อนวัย ดังนั้น นอกจากการเลือกใช้ครีมกันแดดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงแล้ว การช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติให้ปราศจากมลภาวะก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยลดอันตรายต่อผิวพรรณและร่างกายที่เกิดจากรังสีในแสงแดดได้ในอนาคต



ที่มาข้อมูล :
นิตยสารเปรียว


ใช้ครีมกันแดดอย่างไรให้ได้ผล

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์