ใช้ชีวิตอย่าง เพียงพอ เพื่อความสุขที่ พอเพียง

ใช้ชีวิตอย่าง เพียงพอ เพื่อความสุขที่ พอเพียง


แก่นแท้ของชีวิตที่พอเพียงหาใช่การถอยหลังเข้าคลอง

หาใช่นิยามความเชย ที่คนรักวัตถุนิยมแอบคิดอยู่ในใจ หากแต่คือการใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผล และพอประมาณเพียงความสุขขั้นพื้นฐาน  บางครั้งคนที่ได้ครอบครองกระเป๋าใบละ 5 หมื่น  ก็ไม่ได้บ่งบอกอะไรนอกจากรสนิยมของเจ้าของ (ที่ดีหรือเปล่า?คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง) ผู้คนเดินขวักไขว่สวนกันไปมาอย่างรีบเร่งจนลืมมองท้องฟ้า ลืมมองคนที่เดินผ่าน มองเข้าไปลึก ๆ แล้ว คนเราก็เพียงแค่วิ่งตามความสุขที่อยู่บั้นปลายชีวิตเท่านั้น ด้วยความเชื่อที่ถูกฝังแน่นอยู่ในหัวว่า ชีวิตที่ต้องทำงานและดิ้นรนแก่งแย่งเท่านั้นจึงจะอยู่รอดปลอดภัยในภายภาคหน้า

บางคราวัตถุที่เป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งความสุขที่มนุษย์อุปโลกน์ขึ้นมา ก็เป็นเพียงแค่ความฉาบฉวยครั้งคราว ลมพัดก็ปลิวไปตามลม นอกจากจะไม่ยั่งยืนอยู่ทนยังมาเอาจิตวิญญาณเราไปด้วย ความสุขที่ยั่งยืนไม่ได้อยู่ไกลจนถึงขนาดต้องวิ่งตาม ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เพียงแค่เก็บเกี่ยวและเดินช้า ๆ  เพื่อลองฟังเสียงหัวใจเต้นดูบ้าง ชีวิตที่  ฟูฟ่าที่ว่าดีนักหนานั้น ไม่ใช่วิถีดีที่เหมาะสมอย่างยั่งยืนแต่อย่างใด สุขแบบตูมตามครั้งเดียว แล้วหาไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต หรือจะสู้สุขทีละนิด แต่สุขนาน ๆ ได้  ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตที่เคยหรูหรา มาสู่วิถีสามัญที่ยั่งยืนดีกว่า....

โดยสารอย่างหรูหรา หรือแค่ถึงที่หมาย

หลายคนมีรถยนต์ไว้ใช้งานจริง  ๆ แต่ก็มีอีกหลายคนมีรถยนต์เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ประดับบารมี  ประโยชน์ของมันที่แท้แค่เพียงส่งเราถึงที่หมายในแต่ละวัน แต่สิ่งที่ต้องแลกคือน้ำมันอันแพงประหนึ่งทองกับมลพิษที่ต้องพ่นระบายออกไปในอากาศ หากมองถึงเพียงประโยชน์และหน้าที่ของรถยนต์  นั่งรถโดยสารประจำทางก็เหมือนกัน ถึงที่หมายได้เหมือนรถยนต์  แม้จะต้องแลกด้วยเหงื่อเพียงเล็กน้อย  และอาจต้องตื่นเช้ามากกว่าเดิม ได้เดินมากขึ้น  แต่สิ่งที่ได้คือ แข็งแรงขึ้น เห็นโลกมากขึ้น เพราะบนรถเมล์มีผู้คนทุกระดับประทับใจ ประหยัดขึ้น ทำให้การจราจรในเมืองหลวงแออัดน้อยลง มลพิษน้อยลง  ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าไม่ได้ลำบากยากเข็ญเกินกว่าแรงเราจะรับไหว เป็นเพียงหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่ต้องพบเจอทุกวันเป็นเรื่องธรรมดา

กินแค่อยู่ หรือมีชีวิตอยู่เพื่อเอาแต่กิน

บางคนมีความสุขกับการได้กินของแพง  กินของนอก ทั้งที่รสชาติและคุณค่าไม่ได้แตกต่างกัน ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกินเพียงอิ่ม แต่ครบถ้วนไปด้วยคุณค่าสารอาหารที่จำเป็นในชีวิต บริโภคอย่างพอเพียง เพื่อให้ชีวิตอยู่ได้อย่างเพียงพอ ของแพงไม่ได้แปลว่าอร่อย ภัตตาคารหรูไม่ได้แปลว่าสะอาดกว่าฝีมือของแม่ ลองปลูกพืชผักสวนครัวกินเองดูบ้าง คุณอาจพบว่า เวลากินผลผลิตจากมือตัวเอง ความภาคภูมิใจนั้น เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดที่หากินที่ไหนไม่ได้ในโลก

ช้อปปิ้งคือชีวิต คิดผิดมหันต์

แต่ละเดือน ๆ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมมาในบัตรเครดิต คือการรูดซื้อเสื้อผ้า ของประดับที่ไม่จำเป็นเลย    ในชีวิต ลองพินิจดู  รางวัลชีวิตที่แท้จริงที่คุณควรปรนเปรอตัวเอง ไม่ได้มีอยู่แค่ในห้างสรรพสินค้า ตัดค่าใช้จ่ายในชีวิตที่ไม่จำเป็น ที่รังแต่จะทำให้ชีวิตคุณรกรุงรัง ซื้อของเท่าที่    จำเป็น ไม่ใช่เพียงในยุคน้ำมันแพง แต่ทุกยุคทุกสมัย เรื่องประหยัดเป็นเรื่องฉลาดที่คนเราควรหัดไว้ให้เป็นนิสัย ใช้เงินประหยัด ไม่ได้หมายความว่าไม่มีใช้ แต่หมายถึงใช้เงินให้คุ้มค่า และมีประโยชน์สูงสุด

กลับสู่ธรรมชาติ

ชีวิตฟู่ฟ่าในสังคมเมือง เป็นความโหวกเหวกท่ามกลางความโดดเดี่ยว ต่างคนต่างทำหน้าที่ ขวนขวายแก่งแย่งได้มาแทบบ้าตาย หลายครั้งหลายคนอาจฉุกคิดได้ว่า ตัวตนของคุณไม่ใช่แบบนี้ มองซ้ายเป็นตึก มองขวาเป็นถนนที่เต็มไปด้วยควัน กลับคืนสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด หรือลองศึกษาธรรมชาติดูบ้าง แรงบันดาลใจดี ๆ ในการใช้ชีวิตอาจมีมากขึ้น มีคนเคยกล่าวไว้  มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ กลับคืนเมื่อไหร่ก็ไม่มีวันขวยเขิน

ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์

มีความคิดสร้างสรรค์เป็นอาวุธทางปัญญา เทรนด์การตลาดที่ร้อนแรง ก็ไม่อาจพรากเอาตัวตนของคุณกลมกลืนไปเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดได้ มีวิจารณญาณในการบริโภค พูดง่าย ๆ คือ เลือกในสิ่งที่ชีวิตคุณต้องการ ไม่ใช่มีคนบอกว่า ชีวิตคุณต้องมีแบบนั้น ต้องการแบบนี้

‘พอใจ’ แล้ว ใจจะพอเพียง

 ภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ คนไทยมีอะไรหลายอย่างที่ต่างชาติไม่มี แม้ในทางกลับกัน เราก็อาจจะไม่มีในสิ่งที่เขาครบครัน ความไม่มีไม่ได้หมายความว่าขาด  บางคราก็อาจจะไม่เหมาะกับวิถีของเรา ระเบิดจากภายใน มองเรื่องเล็ก ๆ ใกล้ตัว แล้วขยายวงสู่เรื่องใหญ่ ๆ ระดับชาติ ชีวิตก็ดำรงอยู่ได้อย่างที่ควรจะเป็น ไม่แก่งแย่ง ไม่แข่งขัน เพียงช่วยเหลือเกื้อกูลกัน บ้านเราทำน้ำพริกอร่อย ก็แบ่งปันให้ข้างบ้าน ขณะที่ป้าข้างบ้าน แกงรสชาติดี ก็แบ่งให้บ้านเราช่วยชิมบ้าง หรือบางทีที่ไม่มีรถยนต์ขับ อาจเป็นเพราะคุณไม่เหมาะกับการขับรถด้วยตัวเอง สินค้าแบรนด์เนมก็อาจไม่เหมาะกับบุคลิกของคุณก็เป็นได้

แก่นแท้ของความสุข ไม่มีขายที่ห้างสรรพสินค้า สั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตก็ไม่ขาย หัวใจที่เหนื่อยล้า เพราะมัวแต่วิ่งตามหาวัตถุ ก็ไม่มีบริการสปาไว้บำบัด  หากแต่ต้องปลูกรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย แล้วความสุขที่แท้และยั่งยืนจะงอกงามตามวิถีธรรมชาติในหัวใจของคุณเอง.

ที่มา ผู้หญิงนะคะดอทคอม


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์