′เทรนด์สี′ ปี 2012 แสงสว่างในความหวัง

ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปยิ่งในช่วงส่งท้ายปีเก่า 2554 ต้อนรับปีใหม่ 2555 สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ตรงตามรสนิยมของผู้คนในสังคม

เหมือนกับเรื่อง สีสัน ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยเหมือนกัน อินเตอร์คัลเลอร์ คือ องค์กรที่ทำการวิจัยสำรวจและประชุมค่าเทรนด์สีกลางล่วงหน้า 2 ปี โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสีของแต่ละประเทศทั่วโลกมาคาดการณ์เทรนด์สีล่วงหน้าในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมต่างๆ นำไปใช้สำหรับออกแบบหรือเตรียมผลิตสินค้าวางตลาดให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที

เกี่ยวกับเรื่องเทรนด์ของสีในปี 2012-2013 นายประดิษฐ์ รัตนวิจิตราศิลป์ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการสำนักโครงการและจัดการความรู้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เทรนด์ของสีในปี 2012-2013 จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มแนวคิด คือ 1.see the dark การมองเห็นในความมืด ไม่ได้หมายถึงสีดำ แต่มีเงาของความสว่างเพื่อกระตุ้นอารมณ์เพื่อสนองให้เห็นถึงความหวังที่ยังมีอยู่ เป็นเฉดสีที่มองเห็นในความมืดจะมีลักษณะเหมือนกับ แสงแฟลช สีดวงดาวระยิบระยับ ที่ดูมีความเคลื่อนไหว เฉดสีในกลุ่มนี้นักออกแบบสามารถนำไปใช้ออกแบบในเรื่องของแสงเงา

กลุ่ม 2.feel the light การสัมผัสแสง เป็นกลุ่มเฉดสีของแสงสว่างในยามเช้า โทนสีเย็น นักออกแบบสามารถนำไปใช้กับวัสดุที่บางเบา โปร่งแสงให้แสงสามารถลอดผ่านได้

กลุ่ม 3.touch the flame แนวคิดแบบเปลวเพลิง เฉดสีที่เหมือนกับโลหะและแร่ธาตุที่หลอมละลาย เหมือนกับลาวาที่ออกมาจากภูเขาไฟ เฉดสีในกลุ่มก็คือ เฉดสีทอง สีทองเหลือง สีทองอมเขียว สีน้ำตาลโทนร้อน สีแดงเพลิง

กลุ่ม 4.define the nature แนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติ ลวดลายแบบธรรมชาติ เฉดสีออกแนวอบอุ่น เช่น สีเหลืองออกทอง สีน้ำตาล สีชมพู ที่ดูอบอุ่น

นายประดิษฐ์กล่าวด้วยว่า เทรนด์สีในปี 2012-2013 เฉดสีต่างๆ ที่ออกมาได้รับวัฒนธรรมมาจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างประเทศไทย อย่างสีของผ้ามัดหมี่ ลายยกดอกของผ้าไหม่ สีย้อมผ้าสีต่างๆ เป็นเฉดสีที่มีลักษณะแบบธรรมชาติที่ออกมาแบบสมัยใหม่ ซึ่งเฉดสีที่ได้รับวัฒนธรรมมาจากประเทศในแถบตะวันออกเฉียงใต้ ถือว่ามีบทบาทต่ออิทธิพลของโลกเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนสีที่ถือว่ามีอิทธิพลกับคนไทยนั้น นายประดิษฐ์กล่าวว่า สีที่มีอิทธิพลต่อคนไทยยังคงเป็น 3 สีเหมือนเดิม ได้แก่ สีแดง สื่อถึงความมั่งคั่ง สีเหลืองสื่อถึงราชวงศ์ และเขียวสื่อถึงชีวิตปกติสุขของบ้านเรา ซึ่งสีที่มีอิทธิพลของคนแต่ละประเทศจะเกี่ยวข้องกับเรื่องวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ อย่างเช่น ประเทศอังกฤษ สีม่วงจะสื่อถึงราชวงศ์ เป็นต้น

ขณะที่เทรนด์แฟชั่นในปี 2012 นั้น นายประดิษฐ์เปิดเผยว่า เทรนด์แฟชั่นปี 2012 จะออกมาในลักษณะที่มีอัญมณีและโลหะเข้ามาประกอบให้ความหรูหรา อย่างเช่น ชุดราตรี ลักษณะโครงสร้างของเสื้อผ้าจะเน้นในเรื่องของความเป็นเหลี่ยม มุม มีการจับจีบให้ดูมีน้ำหนัก มีรูปทรง ส่วนสีจะออกมาในลักษณะของสีที่ละลายไหลๆ ออกมา ส่วนปลายปี 2554 นี้ถ้าใครไม่อยากตกเทรนด์ก็อย่าลืมจับตากลุ่มสีโทนมืดที่มีสีแดงผสม ซึ่งให้ความรู้สึกออกแนวดราม่าน่าตื่นเต้น กลุ่มสีธรรมชาติเขียวมะกอกผสมโลหะที่ออกแวววาว และกลุ่มสีโทนหวานออกแนวผู้ใหญ่