● ความเครียดตัวร้าย ●

จะว่าไปแล้วการทำงานในยุคปัจจุบันคงจะหลีกเลี่ยงความเครียดยากมาก สำหรับสภาพเศรษฐกิจอย่างนี้พนักงานในบริษัทหลายแห่ง อาจต้องทำงานหนักเท่ากับ 2 หรือ 3 คนด้วยซ้ำ มีกำหนดเส้นตายการทำงานกระชั้นขึ้น ไหนยังต้องเข้าประชุมไม่เว้นแต่ละวัน โทรศัพท์ติดต่องาน จัดการเคลียร์เรื่องจุกจิกรายวัน ฯลฯ เรียกว่าทำเอาความเครียดถามหาเอาได้ง่ายๆ เชียว


● ความเครียดตัวร้าย ●


ความเครียดเป็นต้นตอของ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ สารพัดทุกวันนี้ถึงวิทยาการทางการแพทย์ทันสมัย เราต่อสู้เอาชนะเชื้อโรคต่างๆ ได้มากมายหลากหลายชนิดก็จริง แต่กลับกลายเป็นว่าโรคที่อันตรายหลายต่อหลายโรคที่เอาชนะได้ยากนั้น เป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตบนความเครียดนี่เอง

           วิธีหนึ่งในหลายๆ วิธีที่คุณพอจะรู้ตัวว่าเครียดได้ง่ายๆ ก็คือ การสังเกตอาการต่างๆ ที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเครียดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีทั้งอาการที่แสดงออกทางกาย จิตใจ อารมณ์ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม

           ร่างกาย : อาการทางร่างกายที่เมื่อเกิดความเครียด ก็มีตั้งแต่รู้สึกมึนงง ปวดตามกล้ามเนื้อ กัดฟัน ปวดศีรษะ ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย ท้องผูก เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว หูอื้อ มือเย็น อ่อนเพลีย มีเสียงดังให้หู หายใจไม่เต็มอิ่ม ฯลฯ

           จิตใจ : ส่วนอาการทางจิตใจ เช่น รู้สึกวิตกกังวล การตัดสินใจไม่ดี ขี้ลืม ไม่มีสมาธิ ไอเดียหดหาย เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ยาก

           อารมณ์ : ทาง ด้านอารมณ์ของคุณ ดูแล้วไม่น่าอยู่ใกล้เอาซะเลย มีแต่อารมณ์ติดลบ เช่น โกรธง่าย วิตกกังวล ซึมเศร้า ท้อแท้ หงุดหงิด มองโลกในแง่ร้าย อาจเผลอกัดเล็บหรือดึงผมตัวเอง

           พฤติกรรม : ส่วนด้านพฤติกรรม ก็จะมีพฤติกรรมแปลกไปกว่าที่เคย เช่น กินเก่งขึ้น หันไปพึ่งเหล้าหรือบุหรี่ พูดจาโผงผาง หรือไม่อยากพบปะสังสรรค์กับใคร

● ความเครียดตัวร้าย ●


ถ้าสังเกตตัวเองดูแล้ว ว่ามีอาการต่างๆ เหล่านี้ อย่าปล่อยปละละเลย นานไปอาจเป็นปัญหาเรื้อรังโรคไม่ได้รับเชิญต่างๆ อาจมารุมเยี่ยมเยียนจนคุณย่ำแย่ เมื่อความเครียดสะสมนานวันเข้า ระบบการทำงานในร่างกายจะแปรปรวน เพราะถูกกระตุ้นให้ทำงานหนักอยู่บ่อย ๆ เป็นระยะเวลานาน ในขณะที่เรากำลังเครียดหัวใจจะเต้นเร็วขึ้น หลอดเลือดหดตัว ปอดและหลอดลมตีบทำให้หายใจลำบาก กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามาก ลำไส้กับกระเพาะปัสสาวะบีบตัว กล้ามเนื้อเกร็ง ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อออกมามาก ภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้เกิดโรคได้ต่างๆตามมา..

           
ความดันโลหิตสูง เกิดจากหลอดเลือดหดตัว เลือดไหลเวียนไม่สะดวกทำให้หัวใจต้องออกแรงดันเลือดเพิ่ม ความดันโลหิตในร่างกายที่เคยอยู่ในระดับปกติจึงเพิ่มระดับสูงขึ้น ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ก็จะนำไปสู่ปัญหาโรคหลอดเลือดหัวใจตามมา

          
โรคแผลในกระเพาะอาหาร ถ้าเกิดความเครียดเมื่อใดก็ตามกรดในกระเพาะอาหารจะหลั่งออกมา นานไปจะทำให้มีอาการปวดท้องเวลาหิว และปวดท้องหลังกินอาหาร โดยเฉพาะถ้าเป็นอาหารรสจัด เปรี้ยวๆ เผ็ดๆ และของหมักดอง

          
ภูมิแพ้ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติอ่อนแอลง อันเนื่องมาจากความเครียด รวมทั้งไข้หวัดก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อร่างกายอ่อนแอ เชื้อไวรัสสาเหตุของหวัดก็จะทำร้ายร่างกายของเราได้ง่าย

          
หอบหืด เป็นผลมาจากปอดและหลอดลมตีบ รวมทั้งผลจากโรคภูมิแพ้

          
ปวดศีรษะ เกิดจากกล้ามเนื้อตึงตัวบริเวณท้ายทอยและต้นคอ และลามไปบริเวณศีรษะ ถ้านวดก็จะช่วยให้อาการคลายลงได้

          
ไมเกรน จะมีอาการปวดตุ้บๆ หรือปวดจี๊ดที่ขมับข้างเดียว ทั้งสองข้างหรือตรงท้ายทอย เป็นความปวดอย่างรุนแรง อาจมีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียนด้วย

          
ปวดหลัง เกิดจากกล้ามเนื้อตึงตัวเป็นเวลานานและทำให้มีอาการอ่อนล้า

          
มะเร็ง ความเครียดทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเราอ่อนแอลง ไม่สามารถกำจัดสารก่อมะเร็งที่อยู่ภายในร่างกาย เซลล์มะเร็งจึงเจริญเติบโตได้อย่างสบายๆ

           นอกจากนั้นก็ยังมีโรค ทางด้านจิตใจอย่างเช่น โรคประสาทวิตกกังวล ฯลฯ ซึ่งเมื่อเป็นแล้วจะมีอาการวิตกกังวลมากกว่าปกติ และเป็นอาการเรื้อรังอีกด้วย

           หากไม่อยากให้โรคเหล่า นี้มาเยือนแล้วละก็ ควรจะหาวิธีป้องกันและแก้ไขให้ทันท่วงทีดีกว่า



เครดิต .... สสส.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์