ธรรมเศรษฐี ทำงานให้มีเงิน

หลักธรรมที่สามารถใช้กับชีวิตทำงานและการลงทุน

พระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้มีไว้เป็นเครื่องสละกิเลสเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีข้อธรรมสำหรับฆราวาสหรือบุคคลทั่วไปได้นำไปปฏิบัติใช้ด้วยเช่นกัน 

ในหนังสือเรื่อง 48 เคล็ดลับการบริหารเงิน ซึ่งแต่งโดย ภก.สาธิต บวรสันติสุทธิ์ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ปราชญ์ ได้ให้เคล็ดลับธรรมการเงินไว้ดังนี้

ธรรมเศรษฐี ทำงานให้มีเงิน

ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ นิคมของชาวโกฬิยะ ชื่อว่า กักกรปัตตะ ในครั้งนั้นมีชายคนหนึ่งชื่อทีฆชานุ ได้เข้าเฝ้าแล้วกราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์เจ้าผู้เจริญ ข้าพระองค์เป็นคฤหัสถ์ยังบริโภคกามอยู่ครองเรือน ยังยินดีทองและเงินอยู่ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงแสดงธรรมที่เหมาะแก่ข้าพระองค์ อันจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขในปัจจุบันและความสุขในภายภาคหน้าเถิด พระเจ้าข้า"


พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า "ธรรม 4 ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์และเพื่อความสุขในปัจจุบันแก่กุลบุตร คือ 1.อุฏฐานสัมปทา 2.อารักขสัมปทา 3.กัลยาณมิตตตา 4.สมชีวิตา" กลายเป็นที่มาของคาถาหัวใจเศรษฐธี อุ อา กะ สะ ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานแก่ทีฆชานุ


1.อุ ย่อมาจากคำว่า อุฏฐานสัมปทา

แปลว่าให้ถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียรในการแสวงหาความรู้ หนักเอาเบาสู้ในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย กิจการทั้งหลายต้องรู้จักรับผิดชอบ โบราณกล่าวว่า "ทรัพย์นี้ไม่ไกล ใครปัญญาไวหาได้บ่นาน ทั่วแคว้นแดนดินมีสิ้นทุกสถาน ผู้ใดเกียจค้านบ่พานพบนา" หมายถึงทรัพย์สินเงินทองมีอยู่ทุกหนแห่ง ขออย่างเดียวอย่าเกียจคร้าน ให้ลงมือทำงานทุกชนิดอย่างจริงจังตั้งใจ งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข ทำงานให้สนุกเป็นสุขเมื่อทำงาน มิใช่รอความสุขจากความสำเร็จของงานอย่างเดียว อย่างนั้นขาดทุน ขอให้ถือคติว่าขี้เกียจเป็นแมลงวัน ขยันเป็นแมลงผึ้ง ขี้หึงเป็นแมลงป่อง จองหองเป็นกิ้งก่า

ธรรมเศรษฐี ทำงานให้มีเงิน

2.อา ย่อมาจากคำว่า อารักขสัมปทา

แปลว่าให้ถึงพร้อมด้วยการหมั่นรักษา เมื่อได้รับมอบหมายการงานอะไรให้กระทำ หรือเมื่อได้ดำเนินกิจการงานอะไร ไม่ว่าจะเป็นของตนหรือของคนอื่นก็ดี ต้องเป็นคนมีความรับผิดชอบในการงานหรือกิจกรรมนั้นๆ มิให้บกพร่องต่อหน้าที่ อะไรที่ยังทำไม่ดีก็พยายามทำให้ดี อะไรที่ต้องแก้ไขก็ต้องปรับปรุงให้ดี ตลอดจนถึงต้องรู้จักรักษาทรัพย์สินเงินทองไม่ให้สูญเสียหรือใช้ไปให้สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์หรือปราศจากเหตุผลอันสมควร

ธรรมเศรษฐี ทำงานให้มีเงิน

3.กะ ย่อมาจากคำว่า กัลยาณมิตตตา

แปลว่าการมีเพื่อนเป็นคนดีไม่คบคนชั่ว เพราะคบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล ขอให้ถือคติว่ามีเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา เหมือนมีเกลือนิดหน่อยได้ราคา ดีกว่าน้ำเค็มเต็มทะเล

ธรรมเศรษฐี ทำงานให้มีเงิน

4.สะ ย่อมาจากคำว่า สมชีวิตา

แปลว่าการเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หามาได้ รู้จักกำหนดรายรับและรายจ่ายอย่าให้สุรุ่ยสุร่ายให้รู้จักออมเงินเอาไว้ ฉุกเฉินเมื่อไหร่จะได้ใช้เงินออมและขอให้ถือคติว่ามี "สลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ แม้มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน" นี่คือคาถาเศรษฐี ที่ช่วยให้เมื่อเรามีเงินเก็บแล้วก็อย่าลืมนำเงินนั้นไปทำงาน ไปลงทุนเพื่อให้เงินเราขยายดอกออกผลสำหรับเราที่จะได้มีไว้ใช้ยามจำเป็น

ธรรมเศรษฐี ทำงานให้มีเงิน

แต่การลงทุนก็มีหลักธรรมอีกข้อหนึ่งที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ ก็คือ การยึดหลักทางสายกลาง รู้จักการลงทุนแต่พอดี รู้จักการกระจายความเสี่ยง ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เราลงทุนว่าจะต้องได้กลับมาทุกอย่าง เพราะการคิดว่าลงทุนแล้วต้องได้ผลตอบแทนกลับมาเพียงอย่างเดียว นั่นคือการลงทุนที่ตึงเกินไป หากพลาดพลั้งก็มีแต่ขาดกำลังใจ แต่หากลงทุนให้เงินงอกเงยเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่มีอยู่ก็ถือว่าหย่อนยานด้านการลงทุนมากเกินไป ยึดทางสายกลางควบคู่กับหลักธรรมเศรษฐี จะพบกับความร่ำรวยที่มีความสุขในชีวิตควบคู่กัน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์