คนเราเกิดมาทำไม บทความน่าคิด โดย พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)


คนเราเกิดมาทำไม บทความน่าคิด โดย พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)

บทความ เกิดมาทำไม เขียนโดย พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ) เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Secret คอลัมน์ The Last Secret

วิธีคิดของแต่ละคนย่อมมีผลต่อชีวิต คิดลบติดลบ คิดบวกได้กำไร ชีวิตคนคิดลบจะยอมสยบอยู่เพียงกฎแห่งกรรม เขาจะโยนทุกอย่างให้กฎแห่งกรรม จะไม่ยอมแก้ไขสิ่งใดให้ดีขึ้น จนก็ยอมจนตามกฎแห่งกรรม เหมือนคนเชื่อหมอดูทำนายทายทักไว้หลงเชื่อจนยอมจำนนต่อคำทำนายนั้น แทนที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ชีวิตดีขึ้น แต่กลับพอใจที่จะฝังชีวิตไว้กับคำทำนาย จนเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงตามคำทำนายหมอดู

กรรมก็เช่นกัน หากคิดว่าเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม และยอมจมชีวิตไว้ที่กฎแห่งกรรมอย่างเดียว ไม่ยอมออกแรงพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ชีวิตเราก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น ตรงกันข้ามกับคนที่เชื่อกฎแห่งกรรม แต่พยายามแก้ไขกรรม พัฒนาคิดค้นจนชีวิตเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ก็ได้ชื่อว่าเขาแก้ไขอกุศลกรรมให้เป็นกุศลกรรม

คนไทยส่วนใหญ่เมื่อเอ่ยถึงกรรมมักคิดไปในทางลบ เช่น พูดว่าเวรกรรม ทั้ง ๆที่พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า กรรมเป็นคำกลาง ๆ เป็นได้ทั้งดีและไม่ดี ถ้ากรรมดีก็เรียกกุศลกรรม ถ้าไม่ดีก็เรียกอกุศลกรรม

คำถามสำคัญคือ เราเกิดมาทำไม จะต้องช่วยกันหาคำตอบที่ถูกต้องให้ได้ คือควรให้เป็นไปในเชิงบวกมากกว่าลบ ข้าพเจ้าจึงอยากให้ทุกคนหมั่นคิดเสมอว่า เราเกิดมาสร้างบุญบารมี เพิ่มบุญที่จะหมดให้เต็มเปี่ยมกลับคืน เหมือนคนที่รู้ว่าเงินจะหมดก็เร่งหาเงิน รู้ว่าอายุจะหมดก็เร่งสร้างบุญกุศล

วิธีคิดว่าเราเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมีเป็นการคิดที่ทำให้มองชีวิตเฉิดฉาย โชติช่วงไม่ร้อนรุ่ม ร่วงโรย เหมือนมองว่าเกิดมาชดใช้กรรม จะทำให้เราไม่ยอมจำนนต่อความทุกข์ยากลำบากง่าย ๆ จะทำให้เกิดพลังชีวิต เกิดความอุตสาหะพยายามไม่สิ้นสุดคนที่ยากจนเสื่อผืนหมอนใบ แต่กลับกลายเป็นเจ้าสัวได้เพราะอะไร หากมิใช่เพราะวิริยบารมี คือพากเพียรเรียนรู้ไม่อยู่นิ่ง ๆ คนเช่นนี้ฝากชีวิตไว้ที่กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เป็นงานสร้างสรรค์ เขาจึงเจริญก้าวหน้าได้

จริงอยู่ คนบางคนเกิดมามีชะตากรรมที่น่าสงสารมาก อาจไม่พบทางออก เช่น คนพิการซ้ำซ้อนแต่กำเนิด แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว หากเป็นเช่นนั้นทางออกก็คือยอมรับความจริงแล้วจะสบายใจ คิดว่านั่นเป็นเพราะกรรมแต่ชาติปางก่อนก็ได้ เป็นเพราะความผิดปกติของยีนก็ได้

แปลว่า เมื่อได้พยายามแก้ไขอย่างเต็มที่แล้ว สุดท้ายก็ต้องยอมรับสภาพที่เป็นจริงตามเงื่อนไขของกฎแห่งกรรม การพยายามสุดกำลังของมนุษย์แล้ว จึงยอมรับว่านี่คือกฎแห่งธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรทำ มิใช่งอมืองอเท้าอ้างแต่กฎแห่งกรรมเรื่อยไป แล้วไม่ยอมทำอะไร แล้วจะหาความเจริญก้าวหน้าหาบุญบารมีได้อย่างไร

ข้าพเจ้าขอเชิญชวนท่านผู้อ่านมาปรับทัศนคติตัวเองใหม่ในการดำรงชีวิต คืออยากให้มองเห็นการได้ชีวิตเกิดมาเป็นมนุษย์คราวนี้ว่ามีความสำคัญมาก ธรรมชาติให้เรามาเกิดก็เพื่อให้โอกาสสร้างบุญบารมี เหมือนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญบารมี 10 ประการ คือ ทานบารมี ศีลบารมีเนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมีขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมีเมตตาบารมี อุเบกขาบารมี มาหลายภพชาติจึงได้ตรัสรู้

พระพุทธองค์มิได้ทรงมองชีวิตเป็นการชดใช้กรรม แต่เป็นการสร้างบุญบารมี แม้เงื่อนไขชีวิตจริงของคนบางคนอาจเลวร้ายเกินคิด แต่ก็สามารถปรับความเลวร้ายให้เป็นบารมีได้

คนทำชั่วประชดชีวิตล้วนมีความคิดเชิงลบ คนสร้างชีวิตล้วนมีความคิดเชิงบวก

Cr::goodlifeupdate.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์