มูลฐานสำหรับการปฏิบัติ

มูลฐานสำหรับการปฏิบัติ

...'นะโม'...
เมื่อกล่าวเพียงสองธาตุเท่านั้น...ยังไม่สมประกอบ
หรือยังไม่เต็มส่วน....
ต้องพลิกสระพยัญชนะดังนี้คือ...

เอาสระอะจากตัว...'นะ'...มาใส่ตัว...'ม'
เอาสระโอจากตัว...'โม'....มาใส่ตัว...'น'
แล้วกลับตัว...'มะ'..มาไว้หน้าตัว...'โน'
เป็น...'มโน'....

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงได้ทั้งกายทั้งใจ...
เต็มตามสมควรแก่การใช้เป็นมูลฐานแห่งการปฏิบัติได้...
'มโน'....คือใจ นี้เป็นดั้งเดิมเป็นมหาฐานใหญ่
จะทำจะพูดอะไรย่อมเป็นไปจากใจนี้ทั้งหมด...
ในพระพุทธพจน์ว่า...

'ธรรมทั้งหลายมีใจถึงก่อน...
มีใจเป็นใหญ่...
สำเร็จแล้วด้วยใจ'

พระบรมศาสดาจะทรงบัญญัติพระธรรมวินัย...
ก็ทรงบัญญัติออกไปจากใจ...คือมหาฐานนี้ทั้งสิ้น
เหตุนี้เมื่อพระสาวกผู้ได้พิจารณาตามจนถึง...

รู้จัก...'มโน'...แจ่มแจ้ง
แล้ว...'มโน'...ก็สุดบัญญัติคือ...พ้นจากบัญญัติทั้งสิ้น

'สมมุติ'...ทั้งหลายในโลกนี้ต้องออกไปจาก...'มโน' ทั้งสิ้น
ของใครก็ก้อนของใคร ต่างคนต่างถือเอาก้อนอันนี้...
ถือเอาเป็นสมบัติบัญญัติตามกระแสแห่งน้ำโอฆะ..(กิเลส)

จนเป็นอวิชา...ตัวก่อภพก่อชาติ...
ด้วยการไม่รู้เท่า...ด้วยการหลง...
หลงถือว่า...ตัวเป็นเรา...เป็นของเราไปหมด....ฯ

~~พระธรรมเทศนา...หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต~~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์