ความดีเปรียบประดุจแสงสว่าง

ความดีเปรียบประดุจแสงสว่าง


ความดี หรือบุญกุศลเปรียบเทียบเหมือนแสงไฟ
ผู้ที่ทำบุญทำกุศลอยู่สม่ำเสมอเพียงพอ แม้จะเหมือนไม่ได้รับผลของความดี
และบางครั้งก็เหมือนทำดีไม่ได้ดี ทำดีได้ชั่วเสียด้วยซ้ำ
เช่นนี้ก็เหมือนจุดไฟในท่ามกลางแสงสว่างยามกลางวัน
ย่อมไม่ได้ประโยชน์จากแสงสว่างนั้น

แต่ถ้าตกค่ำมีความมืดมาบดบัง แสงสว่างนั้นย่อมปรากฏ
ขจัดความมืดให้สิ้นไป สามารถแลเห็นอะไร ๆได้
เห็นอันตรายที่อาจมีอยู่ได้ จึงย่อมสามารถหลีกพ้นอันตรายเสียได้

ส่วนผู้ที่ไม่มีแสงสว่างอยู่กับตน เช่น ไม่มีเทียนจุดอยู่
เมื่อถึงยามกลางคืนมีความมืดมิดย่อมไม่อาจขจัดความมืดได้
ไม่อาจเห็นอันตรายได้ไม่อาจหลีกพ้นอันตรายได้


ผู้ทำความดีเหมือนผู้มีแสงสว่างอยู่กับตัว ไปถึงที่มืดคือที่คับขัน
ย่อมสามารถดำรงตนอยู่ได้ด้วยดีพอสมควรกับความดีที่ทำอยู่
ตรงกันข้ามกับผู้ไม่ได้ทำความดี ซึ่งเหมือนกับผู้ไม่มีแสงสว่างอยู่กับตัว
ขณะยังอยู่ในที่สว่างอยู่ในความสว่าง ก็ไม่ได้รับความเดือนร้อน
แต่เมื่อใดตกไปอยู่ในที่มืดคือที่คับขัน ย่อมไม่สามารถดำรงตนอยู่ได้อย่างสวัสดี
ภัยอันตรายมาถึงก็ไม่รู้ไม่เห็น ไม่อาจหลีกพ้น

คนทำดีไว้เสมอกับคนไม่ทำดีแตกต่างกันเช่นนี้ประการหนึ่ง
การทำดีต้องไม่มีพอ ต้องทำให้ยิ่งขึ้นอยู่เสมอ
เพราะไม่มีใครอาจประมาณได้ว่าเมื่อใดจะตกไปในที่มืดมิดขนาดไหน
ต้องการแสงสว่างจัดเพียงใด
ถ้าไม่ตกเข้าไปในที่มืดมิดมากมายนัก
มีแสงสว่างมากไว้ก่อน ก็ไม่ขาดทุน ไม่เสียหาย

แต่ถ้าตกเข้าไปในที่มืดมิดมากมาย แสงสว่างน้อย
ก็ไม่เพียงพอจะเห็นอะไรได้ถนัด
การมีแสงสว่างมากจะช่วยให้รอดพ้นจากการสะดุดหกล้มลงเหวลงคู
หรือตกเป็นเหยื่อของสัตว์ร้ายจนถึงตายถึงเป็น


อานุภาพของความดี หรือบุญกุศลนั้นเป็นอัศจรรย์จริง
เชื่อไว้ดีกว่าไม่เชื่อ และเมื่อเชื่อแล้วก็ให้พากันแสวงหาอานุภาพของความดี
หรือของบุญกุศลให้เห็นความอัศจรรย์ด้วยตนเองเถิด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์