โลกธรรม (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

โลกธรรม (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)


โลกธรรม (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)



โลกธรรมเหล่านี้เป็น อารมณ์ที่น่าปรารถนาก็มี ไม่น่าปรารถนาก็มี แต่ทุกๆ คนก็ต้องประสบมาโดยลำดับ แม้ในชีวิตปัจจุบันทุกคนกำลังประสบอยู่ คือกำลังประสบในส่วนได้ (ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข) บ้าง ในส่วนเสีย (ความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์) บ้าง

ในชีวิตอนาคตก็ต้องประสบเช่นเดียวกัน
ฉะนั้นทุกๆ คนจึงยิ้มย่องผ่องใสบ้าง
เศร้าหมองบ้างอยู่ตลอดไป
บางคนเมื่อได้หรือเมื่อขึ้นก็มัวเมาโลกขึ้นไปอย่าลืมตัว
เมื่อเสียหรือเมื่อตก ก็เหมือนตกเหว
คือรู้สึกว่าตกเอาจริงๆ ถึงตายหรือเกือบตาย

นึกถึงคนไข้ ปรอทฉูดขึ้นฉูดลง
แสดงว่าไข้หนัก น่าอันตราย
คนที่มีจิตใจขึ้นลงเพราะโลกธรรมก็เช่นเดียวกัน
เว้นไว้แต่ผู้ที่ได้สดับธรรมของพระพุทธเจ้า
และรักษาจิตใจไว้ได้ไม่ให้หวั่นไหวไปตามโลกธรรมจนเกินสมควร
ถึงจะหวั่นไหวไปบ้างเหมือนอย่างเป็นไข้ธรรมดาก็ยังไม่เป็นไร


พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้โลกธรรม คือเรื่องของโลกตามเป็นจริงว่าเป็นสิ่งที่พึงเกิดแก่บุคคลทุกทั่วหน้า แม้พระอรหันต์ก็ไม่พ้นไปจากโลกธรรม ดังเช่นพระพุทธองค์เอง บางคราวก็ถูกพวกมิจฉาทิฏฐิด่าว่ากล่าวหาต่างๆ

แต่พระพุทธองค์ได้ทรงเห็นตระหนักในความเป็นจริงของโลกธรรมว่า ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา จึงไม่ทรงข้องติดอยู่ในโลกธรรมทุกอย่าง และโลกธรรมทุกอย่างก็ไม่ครอบงำ พระทัยพระองค์ได้

พระอรหันต์ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน ทั้งทรงสั่งสอนให้ทุกๆ คนทราบตระหนักว่า เรื่องทั้งหลายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิต ทั้งที่น่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนาเป็นโลกธรรม ซึ่งอาจครอบงำใจของคนเขลา เพราะทำให้ฉูดขึ้นฉูดลง ผลก็คือต้องเสียหายเพราะโลกธรรมทั้งขึ้นทั้งลง แต่ไม่อาจครอบงำใจของผู้มีสติรู้เห็นตามเป็นจริงได้

: สิริมงคลของชีวิต
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก





ขอบคุณบทความจาก ธรรมจักร

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์