สติและการสร้างพลังแห่งสติ

สติและการสร้างพลังแห่งสติ


ธรรมบรรยายอบรมพนักงานเลมอนฟาร์มเรื่อง "การงานเพื่อความสุข"
โดย ไถ่ฟับเอิ๋น : ภิกษุมุตราธรรม (หลวงพ่อส้มโอ)




การฝึกปฏิบัตินั้นเรียบง่ายมาก ด้วยความเรียบง่ายนั้นจึงทำให้เรารู้ว่าทุกคนฝึกปฏิบัติเจริญสติได้ เมื่อเราหายใจเข้า เรารู้ว่า เราหายใจเข้า เมื่อหายใจออก เรารู้ว่าเราหายใจออก และรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นภายในตัวฉัน และอะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่รอบๆ ตัวฉัน เรารู้จิตใจของเรา รู้ร่างกายของเรา รู้แล้วเราจะเปลี่ยนแปรเพื่อไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น


เมื่อเราตระหนักรู้ถึงลมหายใจ สิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งวิเศษ อยู่กับลมหายใจ หายใจเข้าฉันรู้ว่าฉันกำลังหายใจเข้า หายใจออกฉันรู้ว่า ฉันกำลังหายใจออก เมื่อเราอยู่กับลมหายใจเราจะไม่คิด ไม่กังวล เราจะรู้สึกถึงความสุข ความสงบ ความสันติในทันที ในขณะที่ อยู่กับลมหายใจ เมื่อเราอยู่กับลมหายใจแบบนี้เราเรียกว่า สติ จะทำให้เราเท่าทันว่า อะไรเกิดขึ้นในกาย ในจิต อะไรเป็นสิ่งที่ดี อะไรเป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นประโยชน์หรือไม่ และเรายังอาจสามารถรู้ไปถึงต้นสายปลายเหตุว่ามันเกิดขึ้นมาจากไหน แล้วเข้าใจว่า อะไรคือสิ่งที่ควรบริโภค อะไรที่จะทำให้เราสบาย ทำให้เราสุขสันติมากขึ้น สมบูรณ์มากขึ้น


เวลาเราฝึกสติเราจะมีความสามารถที่จะเข้าใจ รู้จักตัวเอง ซึ่งจะนำมาซึ่งความสามารถ หรือพลังแห่งการกระทำในทางที่ถูกต้อง เมื่อกระทำในสิ่งที่ถูกต้องเราจะสร้างจิตแห่ง เมตตากรุณา จิตที่สูงส่งมากขึ้น และสิ่งเหล่านี้จะช่วยเปลี่ยนแปรชีวิตของเราได้มากขึ้น และเรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรกระทำเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตของเรา อะไรที่เราไม่ควรทำ เราจะรักชีวิตของเรา รักตัวเองได้เหมือนกับว่าเมื่อเรามีเด็กอยู่ในครรภ์ เรารู้ว่าเวลาเรา ทำอะไร ก็จะมีผลต่อลูกของเราด้วยเสมอ เราจึงรู้ว่าเราควรจะกินอย่างไร จะทำอะไร เพื่อให้มีผลต่อเด็กในท้อง เมื่อเราฝึกสติเราก็จะรู้ว่า เมื่อเราทำอะไรกับตัวของเรา ก็จะมี ผลกระทบต่อผู้อื่น เราไม่ได้แยกขาดจากผู้อื่น


เมื่อเรามีชีวิตที่มีคุณภาพ เราจะเห็นได้ว่าคุณภาพชีวิตของเรา ไม่ได้มีเฉพาะตัวเรา เท่านั้น จริงๆ แล้วคุณภาพชีวิตของเรามาจากบรรพบุรุษด้วย เราเป็นผู้สืบทอดสืบเนื่อง จากท่าน สิ่งที่มีคุณค่าในชีวิตของเราขณะนี้ก็จะส่งทอดไปถึงลูกหลานด้วย ในฐานะมนุษย์ เรามีความสามารถในการตระหนักรู้ เมื่อเราฝึกฝนให้มีสติมีการตระหนักรู้ เราก็จะเลือก ได้ว่า เราจะมีชีวิตอย่างไรให้มีคุณค่า ให้มีคุณภาพ


สำหรับสัตว์เดรัจานก็มีเมล็ดพันธุ์แห่งสติเช่นกัน แต่เมล็ดพันธุ์นั้นเล็กมาก เขามี สัญชาติญาณในการดำรงชีวิต แต่แปรเปลี่ยนชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีกว่าไม่ได้ เราเป็นมนุษย์ เราเองก็มีเมล็ดพันธุ์เช่นเดียวกับสัตว์ด้วย หากไม่มีการปฏิบัติเราก็จะดำเนินชีวิตแบบนั้น ไม่รู้ตัว ให้สัญชาตญาณของสัตว์นำชีวิตเรา ทำให้เรามีชีวิตอยู่ในความมืด อยู่ในความทุกข์


สภาพสังคมปัจจุบันอยู่ในสภาพที่เลวร้าย เช่นภาวะโลกร้อน เราไม่มีเวลามากนักที่จะเหลืออนาคตที่ดีไว้ให้ลูกหลาน เราอาจไม่มี เวลามากนักหากเราไม่ระมัดระวังในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ภาวะปัจจุบันนั้นยากเหลือเกินที่เราจะหมุนเวลาให้หวนกลับ ในหมู่บ้านพลัม ก็พยายามที่จะใช้ชีวิตอยู่โดยช่วยลดภาวะโลกร้อน เราพยายามบริโภคน้อยลง ปีที่ผ่านมาเราลดการบริโภคลง ปกติเราไม่บริโภค เนื้อสัตว์อยู่แล้ว แต่ปีที่ผ่านมาเราไม่บริโภคนมและผลิตภัณฑ์จากนมด้วย เพราะเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ จะผลิตแก๊ส ออกมาทำให้โลกร้อน และในหมู่บ้านพลัมที่อเมริกา ก็ทดลองใช้รถที่ขับเคลื่อนโดยก๊าซที่เหลือจากการหุงต้ม จากการทอด


เมื่อหลวงพ่อได้รู้ถึงอุดมการณ์ ความคิดของเลมอนฟาร์ม ในการทำสิ่งดีๆ สิ่งนี้ก็เป็นการช่วยโลกช่วยสิ่งแวดล้อม แม้ว่า เลมอนฟาร์ม จะมีเพียง 7 สาขาในกรุงเทพ ที่จำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ ดูไม่เยอะ เมื่อเทียบกับระดับประเทศหรือระดับโลก แต่ก็นับเป็นงานที่ดีที่ได้ช่วยให้โลกปลอดภัย และน่าอยู่ในรุ่นลูกหลาน การที่เรามีส่วนร่วม อยู่ในนี้ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดๆ ก็ถือว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือโลก เป็นงานแห่งอริยะ เป็นการงานอันศักดิ์สิทธิ์


ในตอนแรกหลวงพ่อได้เกริ่นไว้ว่า แม้เมื่อเป็นพระโพธิสัตว์ก็ยังมีการโต้แย้ง โต้เถียงอยู่ แต่บุคคลผู้อยู่บนหนทางแห่งการตื่นรู้นั้น จะมีวิธีการแก้ไขความขัดแย้ง มีวิธีการในการปฏิบัติต่อความขัดแย้ง ท่านจะเล่าให้ฟังย่อๆ ถึงการฝึกปฏิบัติเริ่มต้นใหม่ ที่จะช่วยให้เรา พูดคุย สื่อสาร เมื่อเราเกิดความขัดแย้ง นี่เป็น สิ่งสำคัญพื้นฐานของการเริ่มต้นใหม่ ก็คือ

1. การฝึกที่จะฟังอย่างลึกซึ้ง
         เปิดใจฟังโดยไม่ตัดสิน เปิดใจฟังว่าเขามีความตั้งใจอย่างไร มีแรงบันดาลใจอย่างไร เปิดหัวใจฟังรับฟัง
2. ใช้ภาษาแห่งความรัก
         ใช้วาจาแห่งสติ สื่อสารให้เราเข้าใจซึ่งกันและกันไม่ใช่ด้วยความโกรธ หงุดหงิด




ธรรมบรรยายอบรมพนักงานเลมอนฟาร์มเรื่อง "การงานเพื่อความสุข"
โดย ไถ่ฟับเอิ๋น : ภิกษุมุตราธรรม (หลวงพ่อส้มโอ)
แปลเป็นภาษาไทยโดย ภิกษุณีนิรามิสา
เรียบเรียงโดย อรุณจิตรา
จาก หมู่บ้านพลัม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์