ดูอย่างเป็นวิปัสสนา

ดูกาย เห็นร่างกายหายใจ เพื่อจะได้เกิดปัญญาเห็นว่าร่างกายนี้มันไม่เที่ยงนะ เดี๋ยวก็หายใจเข้า เดี๋ยวก็หายใจออก ร่างกายนี้มีแต่ทุกข์บีบคั้น หายใจเข้าก็เพื่อแก้ทุกข์ หายใจออกก็เพื่อแก้ทุกข์ หายใจเข้าหายใจออกก็คือการเปลี่ยนอิริยาบถ ปิดบังทุกข์ไว้ ร่างกายที่หายใจอยู่เป็นวัตถุธาตุนะ ไม่ใช่เราหรอก หายใจก็เพื่อให้เห็นไตรลักษณ์อย่างนี้ ถึงจะเดินปัญญา
ดูเวทนาก็ไม่ใช่เพื่อฉันจะชนะเวทนา คนที่นั่งสมาธิปวดเมื่อย จะนั่งเอาชนะเวทนา นั่งเอาชนะเวทนาได้ขันติได้อะไรต่ออะไร ได้อธิษฐานบารมีตั้งใจมั่น แต่ไม่ใช่ปัญญา ถ้าจะเอาชนะเวทนาก็นั่งไปจนเห็นว่าเวทนาเป็นของไม่เที่ยงนะ เวทนาเป็นของทนอยู่ไม่ได้ เวทนาเป็นของบังคับไม่ได้ อย่างนี้เป็นการนั่งวิปัสสนาเดินปัญญา
ดูจิตก็ไม่ใช่ไปประคองจิตให้นิ่งให้ว่าง แต่เพื่อให้เห็นว่าจิตเป็นไตรลักษณ์ จิตมันไม่เที่ยงนะ จิตมันเป็นทุกข์นะ มันถูกบีบคั้นด้วยตัณหาตลอดเวลา จิตเป็นของบังคับไม่ได้นะ สั่งให้ดีก็ไม่ได้ ห้ามชั่วก็ไม่ได้ สั่งให้สุขก็ไม่ได้ ห้ามทุกข์ก็ไม่ได้ อย่างนี้จิตเป็นอนัตตา อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าเดินวิปัสสนาอยู่
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

ขอขอบคุณ Trader Hunter พบธรรม
Trader Hunter พบธรรม

ดูอย่างเป็นวิปัสสนา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์