พระมหาไพรวัลย์ ไขข้อข้องใจ การทำบุญลักษณะนี้จะได้บุญจริงหรือไม่ ?

สืบเนื่องจากมีกรณีที่โลกออนไลน์ต่างฮือฮาและแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง สำหรับประเด็นรับจ้างตักบาตร โดยผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค บุญบังใบ สังฆภัณฑ์ ได้โพสต์ข้อความ "อยากตักบาตรแต่ไม่ชอบตื่น อยากตักบาตรแต่อยู่ต่างประเทศ อยากตักบาตรแต่ตื่นไม่ไหวเพราะเมาค้าง อยากตักบาตรแต่ธุรกิจรัดตัว อยากตักบาตรแต่แถวบ้านไม่มีวัด อยากตักบาตรแต่ยังอยากหลับตาอยู่อย่างนั้น ทำอยู่อย่างนั้น ฝันถึงเทอเรื่อยปัยยย เพราะว่าความจริงไม่ม ทางใด ทำให้เราได้รักกัน เอ้า!!! ร้องได้ช่วยกันร้องหน่อยค้าาาา ทางซ้ายหละ เอ้า ทางขวาบ้างงงง

เพียงแค่คุณลูกค้าโอนเงินมา พร้อมแจ้งชื่อนามสกุล เรามีทีมงานที่พร้อมทำทุกอย่างให้ พร้อมรูปถ่ายและวีดีโอรายงานผล เห็นทุกสิ่งเหมือนไปตักด้วยตัวเอง เหลือแค่ตื่นมากรวดน้ำ ถ้าตื่นเองได้ ไปตักเองดีที่สุด แต่ถ้าไม่สะดวกตื่น ทักค่อฟฟฟฟฟฟ !!!! ราคา : ชุดละ99บาท (อาหาร1อย่าง+ข้าวสวย+ขนม+น้ำ) * เพิ่มดอกไม้ชุดละ9บาท เป็นชุดละ108บาท ** ไม่มีขั้นต่ำ หนึ่งชุดก็รับ *** แพคเกจ3วัน5วัน10วันได้หมดค้าาา"

ท่ามกลางกระแสตอบรับมีลูกค้าติดต่อมาอย่างล้นหลาม ก็มีข้อสงสัยว่า การทำลักษณะนี้ ได้บุญจริงหรอ ถ้าได้ใครจะได้บุญระหว่างผู้จ่ายเงินกับผู้ทำ

ล่าสุด สำนักข่าวไทย รายงานว่า "พระมหาไพรวัลย์ วรวณุโณ" ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า ตามหลักศาสนาพระพุทธเจ้าสอนว่า การให้ทานจะได้อานิสงค์มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความตั้งใจ เจตนา และความพร้อมทั้งกายและจิตใจ ดังนั้นการจะได้บุญหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับรูปแบบแต่อยู่ที่เจตนา ที่สำคัญคือความบริสุทธิของจิต ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังทำบุญ ดังนั้น การตักบาตรด้วยตัวเองจะได้บุญมากกว่าที่คนอื่นใส่บาตรให้

ถ้าเข้าใจว่าบุญเป็นเรื่องของการซื้อขาย แบบนั้นก็จะไม่ตรงวัตถุประสงค์กับเป้าหมายของการให้ทาน เพราะไม่เช่นนั้นคนที่มีปัจจัยก็จะใช้วิธีการใดก็ได้ เช่น โอนที่ทำกันง่ายมาก มองว่าได้บุญน้อย ถ้าหากใช้ความพร้อมทั้งกาย ใจ ให้มากกว่าเงินทอง แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ วัดไม่ต้องการเงินเยอะเลย เนื่องจากบุญนับกันที่ว่าปัจจัยนั้นปราณีตหรือไม่ปราณีต