กรรมมีจริง ตามสนองจริง


ฉลวย สุวดิษฐ์ 

เป็นโอกาสดีที่หลวงพ่อได้ให้เขียนเรื่อง “กฎแห่งกรรม” 
ของตนเองมาลงในหนังสือ “กฎแห่งกรรม เล่มที่ ๒๐” 
ได้หาโอกาสนี้มาเป็นเวลา ๗ ปีแล้ว 
ก่อนอื่นต้องเล่าเรื่องความเป็นมาของตนเองสักเล็กน้อย 
เพื่อจะได้รู้ว่า “กรรม” ของตนเองนั้นเป็นมาอย่างไร 
ผมเป็นเด็กบ้านนอก เกิดที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี 
เรียนจบแค่ป.๔ ด้วยฐานะที่ยากจน ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อชั้นสูง ๆ 
หลวงพ่อวัดบางลี่เจริญธรรม ท่านเห็นเป็นเด็กไม่มีโอกาส 
ท่านก็ขอจากแม่ แม่ก็ให้ ท่านเอามาบรรพชาเป็น สามเณร 
ท่านเลี้ยงดูอุปการะใกล้ชิดท่านมาตลอด จนเป็นที่รักและไว้ใจ 
ท่านก็มอบให้ทำภาระแทนท่าน 

เมื่ออายุครบ ๒๐ ท่นก็เป็นเจ้าภาพอุปสมบทให้เป็นพระภิกษุ 
ท่านก็หวังว่า จะสืบทอดเจตนาท่านทุกอย่าง 
แต่ผมก็ทำให้หลวงพ่อท่านผิดหวัง 
เมื่อความคิดของตัวเองเปลี่ยนแปลง 
ผมได้ทำหนังสือขึ้นเองโดยที่หลวงพ่อไม่รู้ เรียกว่า“ปลอมเอกสาร” 
เพื่อเข้าออกและย้ายวัดได้สะดวกตามต้องการ 
หลวงพ่อท่านเสียใจมากเหตุที่เรียกว่า “กรรม” นั้น 
ได้ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๐-๒๕๔๐ เป็นเวลา ๓๐ปี 
กรรมนั้นก็เริ่มส่งผล เมื่อผมลาสิกขาบทออกมาประกอบอาชีพ 
ก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ จนมาถึงปี ๒๕๔๐ เศรษฐกิจก็ตกต่ำ 

ในขณะนั้นก็ผ่อนรถปิคอัพ ๑ คัน เพื่อประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างเล็ก ๆ 
ก็ไม่มีเงินผ่อนเป็นเวลาหลายงวด ก็เปลี่ยนอาชีพไปค้าขายบ้างเพื่อความอยู่รอด 

โดยใช้รถคันนี้เป็นพาหนะ ทะเบียนรถขาด 
ก็ทำทะเบียน “ปลอม” ทั้งป้ายวงกลมและป้ายหน้า-หลัง 
เพื่อสะดวกในการใช้หลีกเลี่ยงการจัดกุมของเจ้าหน้าที่ 
บ้านของผมอยู่ในกรุงเทพฯ ย่านลาดพร้าว 
ต้องเดินทางค้าขายไปทั่วสารทิศภาคเหนือถึงเชียงราย 
ตะวันออกถึงจันทบุรี-ตราด อีสานถึงมุกดาหาร ใต้ถึงภูเก็ต 

ตะวันตกถึงกาญจนบุรี ทองผาภูมิ สังขละบุรี 
ซึ่งก็มีด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจนับไม่ถ้วน 
แต่ก็ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเรื่องป้ายปลอมเลย 
แม้แต่สงสัยก็ไม่มี แต่พอถึงเวลาที่ “กรรม” ที่ทำไว้ในอดีตจะตามมาถึง 
เรื่องที่ไม่น่าเกิดก็เกิดขึ้น วันนั้นเป็นเวลา ๒ ทุ่ม ปี ๒๕๔๐ 
ได้นำรถไปจอดที่ห้างโลตัส เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ 
เข้าไปจ่ายของใช้ประจำวันเสร็จออกมาที่รถ 
ก็มีผู้ชายอายุประมาณ ๒๘-๓๐ มานั่งท้ายรถ 
แล้วแสดงบัตรว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหาว่าผมใช้ทะเบียนปลอม 
แล้วเอาไฟฉายส่องป้ายทะเบียนซึ่งที่นั้นแสงสว่างก็ไม่พอที่จะมองเห็น 

แต่ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะ “กรรม” ที่ทำไว้ในอดีตตามมาถึงแล้ว 
ผมเองก็ไม่เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือเปล่า 
จึงไปหาน้องชายของเพื่อนที่เป็นทนาย เพื่อมาช่วยไกล่เกลี่ย 
แทนที่เรื่องจะเรียบร้อยด้วยดี 

แต่กลับถึงเจ้าหน้าที่ท้องทีเอารถมาเพื่อยกรถไปสถานีตำรวจ 
เรื่องก็ถึงศาลเป็นเวลาเกือบ ๒ ปี ศาลตัดสินให้รอลงอาญา 
กรรมตามสนองโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ 
สาเหตุที่รู้ว่ากรรมตามส่งผล เหมือนว่ามีอะไรมาดลใจให้ต้องรู้ 
เราหมดที่พึ่งแล้ว เรากำลังทุกข์มาก 
ด้วยบารมีของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน 
ท่านได้แผ่เมตตาปรารถนาให้ทุกคนพ้นทุกข์ 
แผ่เมตตาถึงทุก ๆ คนที่มีทุกข์ รวมถึงตัวผมด้วย 
ทำให้ผมได้เข้าวัด วันแรกที่เดินเข้าวัดมีความรู้สึกชุ่มเย็นและสบายใจมาก 
เหมือนว่าทุกข์ที่เรามีอยู่นั้นจะหมดไป 
พอเข้ามาจริง ๆ แล้วก็ได้พบว่า 

หลวงพ่อท่านเป็นผู้ให้จริง ๆ โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ 
ท่านมีเมตตากับทุก ๆ คน ท่านให้ทุกอย่าง เรื่องอาหาร 
ที่อยู่ ที่พัก น้ำ ไฟ ตลอดชุดที่ปฏิบัติธรรมท่านก็ให้ 
ท่านไม่เรียกร้อง ไม่บอกบุญ จะมี หรือไม่ บริจาคหรือไม่ 
ตั้งแต่เข้าวัดอัมพวันมาย่างเข้าปีที่ ๙ 
ท่านเพียงแต่ขอให้เข้ามาปฏัติธรรมเจริญกรรมฐาน 
เพื่อจะได้รู้ธรรมและพ้นทุกข์ได้ 
ผมเข้ามปฏิบัติธรรม ๗ วัน ปฏิบัติตามระเบียบที่ทางวัดจัดไว้ ก็เริ่มปฏิบัติได้ 

ถึงวันที่ ๓ พอเข้าวันที่ ๔ เวลาตี ๔ ก็ลงทำวัตรเช้า เริ่มปฏิบัติแบ่งเป็น ๒ ช่วง 
โดยเดิน ๔๕ นาที นั่ง ๔๕ นาที พอเดินครบก็นั่ง 
แต่พอนั่งได้ประมาณ ๕-๑๐ นาที ก็มีความรู้สึกลึก ๆที่ออกมาจากจิตใต้สำนึก 
ซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่ไม่อาจฝืนได้ 
มีความเสียใจมากและน้ำตาไหลออกมาโดยไม่หยุด 
สะอื้นตลอดเวลา ๔๕ นาที กำหนดอะไรไม่ได้เลย จิตใต้สำนึกรู้ว่าในครั้งอดีต 
เราเคยทำให้หลวงพ่อผู้มีพระคุณแก่เรามาก 
ต้องมาผิดหวังและเสียใจในการกระทำของเรา 
ด้วยการระลึกในขณะนั้น 
ก็อยากไปกราบขออโหสิกรรมกับท่านที่ได้กระทำไว้ในอดีตเมื่อ ๓๐ ปีโดยเร็ว 
แต่ก็ยังไปไม่ได้เพราะอยู่ยังไม่ครบ ๗ วัน เมื่อครบแล้วก็ขอลากลับ 
รีบจัดเทียนแพ เครื่องสักการะไปขออโหสิกรรม จัดอาหารหวานคาว 
ผ้าไตร ถวายสังฆทาน ถวายแด่หลวงพ่อผู้มีพระคุณ 


อานิสงส์การสวดอิติปิโส พาหุงมหากา 
นับจากที่ได้ปฏิบัติธรรมแล้วก็อธิษฐานว่า 
ในพรรษาจะสวดอิติปิโส พาหุงมหากา ตลอด ๓ เดือน 
ต่อด้วยการเจริญกรรมฐาน ๓๐ นาที 
ออกพรรษาแล้วจะปฏิบัติเฉพาะวันสำคัญ และวันโกนวันพระเท่านั้น 
ปฏิบัติมาเป็นเวลา ๗ ปีแล้ว 
อานิสงส์ที่ได้รับคือชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 
มีความสุขกายสบายใจ 
มีความยึดมั่น มีกำลังใจที่ดี มีที่ยึดเหนี่ยว ไม่หวั่นไหว มีสติ 
จะรู้เหตุล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิด เกิดแล้วแก้ปัญหาได้ทัน 
กลัวบาปอกุศลทั้งปวง 

สิ่งที่ไม่ดีในอดีตขอหยุดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (บัดนี้คือเมื่อ ๗ ปีก่อน) 
เริ่มกระทำความดีปฏิบัติธรรม ไม่เบียดเบียนใคร 
ไม่ให้ความทุกข์เดือดร้อนกับผู้อื่น ยึดมั่นในคำสอน ยึดมั่นในการปฏิบัติ 
มีความสุขความสบาย ทรัพย์สินเงินทองจะได้มาไม่ขาดและได้มาโดยสุจริต 
สุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ 
ที่ได้ให้แสงสว่างนำทาง เหมือนให้ชีวิตใหม่ 
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายในสากลโลก 
โปรดดลบันดาลให้หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้ทุกข์ เป็นร่มไทรแก่ศิษยานุศิษย์ตลอดยิ่งยืนนาน ด้วยเทอญ... 


ที่มา...หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๒๐ 
วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี

















กรรมมีจริง ตามสนองจริง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์